ครีมกันแดดทางเลือกเพื่อปะการัง

ครีมกันแดดทางเลือกเพื่อปะการัง

นักท่องเที่ยวสองคนกำลังดำน้ำชมความงดงามของปะการังในฮาวาย
ภาพถ่ายโดย David Fleetham

ครีมกันแดดทางเลือกเพื่อปะการัง

แนวปะการังเกรทแบริเออร์รีฟคืออัญมณีที่แท้จริงแห่งมหาสมุทร นิคมปะการังหลากสีสันเหล่านี้ทำหน้าที่ดั่งองค์การเคหะให้ที่อยู่อาศัยแก่บรรดาสัตว์น้ำหลายล้านชีวิต ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่เย้ายวนผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาชมความสวยงามอันน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติ แต่ ครีมกันแดด ทั่วไปที่คุณใช้กำลังฆ่าพวกมัน

เพราะระบบนิเวศของปะการังนั้นอ่อนแอมากกว่าที่คิด ทุกวันนี้อุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นและสารเคมีต่างๆ ที่ปนเปื้อนลงสู่ทะเลกำลังทำให้ปะการังเกิดภาวะฟอกขาว ซึ่งเกิดขึ้นกับแนวปะการังหลายแห่งทั่วโลกไม่ใช่แค่ในเกรทแบริเออร์รีฟ และหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นมาจากผิวของมนุษย์เอง

SeaYouTomorrow
มาร่วมแบ่งปันภาพถ่ายแห่งท้องทะเลเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนร่วมกันรักษาคุณค่า และความงดงามของท้องทะเล คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

เมื่อคุณว่ายน้ำทะเลในขณะที่บนผิวมีครีมกันแดดเคลือบอยู่ สารเคมีอย่าง oxybenzone จะหลุดปนเปื้อนลงในน้ำทะเล และเมื่อปะการังดูดซับสารเคมีเหล่านี้เข้าไป สารเคมีจะทำลายวงจรการสืบพันธุ์ตลอดจนการเติบโตของปะการัง และในที่สุดพวกมันจะกลายสภาพเป็นปะการังฟอกขาว

แต่อย่าคิดว่าคงไม่เป็นไรถ้าแค่นอนอาบแดดอยู่บนหาด เพราะหลังจากที่คุณอาบน้ำชำระล้างครีมกันแดดออกจากผิว สารเคมีเหล่านี้ก็จะไหลลงสู่ท่อระบายน้ำและลงเอยสู่มหาสมุทรเช่นกัน ซึ่งในแต่ละปีมีครีมกันแดดปริมาณมากถึง 14,000 ตัน ไหลลงสู่ระบบนิเวศในทะเล

เราจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทิ้งลงสู่ทะเลโดยไม่ตั้งใจกันอย่างไร? เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 นักกฎหมายในฮาวายผ่านร่างกฎหมายแบนการจำหน่ายครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสาร oxybenzone และ octinoxate สารเคมีอีกชนิดหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน โดยฮาวายเป็นรัฐแรกในสหรัฐอเมริกาที่ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว และอาจมีผลบังคับใช้จริงในวันที่ 1 มกราคม 2021

(ขยะในทะเลส่งผลกระทบต่อสัตว์มากกว่าที่คิดและนี่คือ ตัวอย่าง)

 

ชีวิตบนความเสี่ยงของปะการัง

สถานะของปะการังทั่วโลกกำลังน่าเป็นห่วง พวกมันได้รับผลกระทบโดยตรงจากมลพิษที่เกิดขึ้น และในบางพื้นที่ที่กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่งที่จะเกิดภาวะฟอกขาว ในจำนวนนี้ได้แก่แนวปะการังบางส่วนของเกรทแบร์ริเออร์รีฟ, แนวปะการังของฮาวาย, เกาะเวอร์จิน ของสหรัฐฯ และในอิสราเอล

ยกตัวอย่างความงดงามแนวปะการังของอ่าว Hanauma บนเกาะโอวาฮู ในหมู่เกาะฮาวาย สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสำหรับการเล่นเซิร์ฟและดำน้ำดูปะการัง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากถึงหนึ่งล้านคนต่อปี อ่าวแห่งนี้ยังเป็นบ้านของปลาอีกกว่า 450 สายพันธุ์ และมีแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดของเกาะโอวาฮู ซึ่งหากเราสูญเสียระบบนิเวศเหล่านี้ไปไม่เพียงแต่รายได้จากการท่องเที่ยวเท่านั้นที่จะกระทบ แต่ยังรวมถึงเรากำลังสูญเสียความหลากหลายของสายพันธุ์สัตว์ทะเลไปอีกด้วย

ครีมกันแดด
ชายคนหนึ่งวางมือบนปะการังที่ตายแล้วในอ่าว Hanauma ของฮาวาย
ภาพถ่ายโดย Caleb Jones, AP Photo

 

ช่วยปกป้องปะการัง

แม้ว่ารัฐฮาวายมีแผนจะแบนครีมกันแดด แต่ก็ใช่ว่ามนุษย์ต้องลาขาดจากครีมกันแดดอย่างถาวร เพราะอย่าลืมว่าสารเคมีเหล่านี้มีส่วนช่วยปกป้องผิวของเราไม่ให้เกิดการไหม้ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนังต่อมา ข่าวดีก็คือทุกวันนี้มีครีมกันแดดทางเลือกที่ดีต่อทั้งมนุษย์ และทั้งปะการังไปในตัว เนื่องจากมันไม่มีส่วนผสมของสาร oxybenzone

องค์กรวิทยาศาสตร์ไม่แสวงผลกำไร Haereticus Environmental Lab เผยแพร่รายชื่อของครีมกันแดดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ด้าน Environmental Working Group เองก็ร่วมด้วยช่วยกันให้ข้อมูลการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมและรักษ์โลกออกมา

ครีมกันแดดทางเลือกเหล่านี้ใช้ไทเทเนียมไดออกไซด์ (titanium dioxide) และสังกะสีแทนสาร oxybenzone และยังมีครีมกันแดดสูตร non-nano ที่ปราศจากอนุภาคนาโนที่ซึมเข้าสู่ผิวหนัง นั่นหมายความว่ามันจะไม่ถูกดูดซึมเข้าไปในปะการังเช่นกัน ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถตรวจเช็คข้อมูลของสินค้าเองได้ผ่านอินเตอร์เน็ตว่าครีมกันแดดที่กำลังคิดที่จะซื้อนั้นดีต่อสิ่งแวดล้อม และมีอนุภาคนาโนหรือไม่

ครีมกันแดด
สภาพของปะการังที่สมบูรณ์ในเกรทแบร์ริเออร์รีฟ
ภาพถ่ายโดย David Doubilet

บางบริษัททัวร์ก็ทำหน้าที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการรักษ์โลก เช่น Big Blue Unlimited บริษัททัวร์ที่มีชื่อเสียงในการดำน้ำและพายเรือพายัคบริเวณหมู่เกาะเติกส์และเคคอส พวกเขากำหนดชัดเจนว่าครีมกันแดดที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมจะไม่ถูกอนุญาตให้ใช้ตลอดทริปการท่องเที่ยว ในขณะที่หลายรีสอร์ทในฮาวายเองก็ช่วยกันกระจายความรู้และกำหนดเงื่อนไขให้ลูกค้าที่เข้าพักทราบล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ว่าครีมกันแดดใดที่สามารถใช้ได้

ด้านแพทย์ผิวหนังเองระบุว่าการสวมเสื้อผ้ามิดชิดมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงยูวีเทียบเท่ากับการใช้ครีมกันแดด ซึ่งบางทีการเลือกสวมเสื้อผ้ามิดชิดบางส่วนนอกจากจะเป็นการประหยัดครีมกันแดดที่ต้องทาทั้งตัวแล้ว ยังเป็นการลดปริมาณสารเคมีจากครีมกันแดดที่จะถูกทิ้งลงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทุกวันนี้มีหลายบริษัทเองนำเสนอชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้คุณสามารถเลือกวิธีไปปรับใช้ได้เพื่อช่วยปะการังที่กำลังน่าเป็นห่วงทั่วโลก หรือเพียงแค่หยิบเสื้อข้างกายมาบังแดดแทนการทาครีม แค่นั้นก็ถือว่าช่วยระบบนิเวศได้มากแล้ว

เรื่อง Elaina Zachos

 

อ่านเพิ่มเติม

ชมหิมะใต้ท้องทะเลเมื่อปะการังผสมพันธุ์

 

Recommend