ส่องอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า มาแน่ในอีกไม่กี่ปี

ส่องอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า มาแน่ในอีกไม่กี่ปี

ส่องอนาคตของ รถยนต์ไฟฟ้า มาแน่ในอีกไม่กี่ปี

ใครๆ ก็พูดกันว่ารถยนต์ไฟฟ้าคือยานยนต์แห่งอนาคต และขณะนี้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในสนามใหม่นี้ ด้วยความคาดหวังว่าจะได้ครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก่อนคู่แข่ง บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า 44% ของคนไทยกำลังพิจารณาเลือกรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันถัดไป ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่จัดว่าสูงที่สุดในภูมิภาค บ่งชี้ให้เห็นว่าคนไทยตื่นตัวพร้อมรับการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้ามากแค่ไหน

ว่าแต่เพราะเหตุใดรถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญนัก และในความเป็นจริง รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลพิษหรือประหยัดพลังงานได้มากน้อยเพียงใด หากต้องเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคันเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ยานยนต์นี้มีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นจริง?

 

อนาคตที่สะอาด

แม้บ้านเราจะไม่ได้ให้ความสำคัญหรือมีกฎเข้มงวดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่ในต่างประเทศประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญ การมาถึงของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าตอบโจทย์ตรงที่ยานยนต์เหล่านี้ไม่ปลดปล่อยไอเสียออกมา เราทุกคนรู้กันดีว่าไอเสียจากรถยนต์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษภายในเมือง ตลอดจนภาวะก๊าซเรือนกระจก ทีนี้ลองจินตนาการถึงท้องถนนในอนาคตที่รถยนต์ทุกคันไม่ปล่อยไอเสียออกมา สภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เพราะก๊าซเรือนกระจกที่ก่อปัญหาภาวะโลกร้อนในทุกวันนี้เกิดขึ้นจากควันไอเสียรถยนต์ถึง 25%

คำถามน่าคิดต่อไปคือ  รถยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร หากเรายังคงใช้พลังงานไฟฟ้าที่ไม่สะอาด? ในการหาคำตอบนี้ องค์กรนักวิทยาศาสตร์อย่าง Union of Concerned Scientists (UCS) ในสหรัฐฯ ได้พิจารณาการปลดปล่อยมลพิษทั้งหมดของรถยนต์สองประเภทตั้งแต่ภาพรวมของการผลิตไปจนถึงการใช้งาน พวกเขาพบว่ารถยนต์ไฟฟ้าสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 3 เท่าโดยเฉลี่ยทั่วสหรัฐอเมริกา หรืออาจมากถึง 4 เท่าหากไฟฟ้านั้นๆ ผลิตจากพลังงานสะอาด ซึ่งขึ้นอยู่กับแหล่งมี่มาของพลังงานเนื่องจากในแต่ละรัฐมีการผลิตไฟฟ้าที่แตกต่างกัน

รถยนต์ไฟฟ้า
แผนภูมิแสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากยานยนต์ไฟฟ้าต่อสิ่งแวดล้อมนั้นผันแปรไปตามการผลิตไฟฟ้าของแต่ละรัฐในสหรัฐอเมริกา (ตัวเลขไมล์ต่อแกลอน (MPG) ยิ่งมากแปลว่าสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงเท่านั้น)

ฉะนั้นแล้วหากคุณใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่พลังงานไฟฟ้าผลิตจากน้ำมันหรือถ่านหิน เช่น จีน หรืออินเดีย ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมก็จะไม่เทียบเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศอย่างนอร์เวย์ที่ซึ่ง 98% ของพลังงานในประเทศถผลิตจากพลังงานหมุนเวียน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้มีส่วนช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมเลย เพราะแค่การเลือกเปลี่ยนจากรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าก็ถือเป็นก้าวที่สำคัญแล้ว และหากต้องการก้าวที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ลองมองหาสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ผลิตพลังงานจากโซล่าร์เซลล์ดู

อีกหนึ่งประเด็นที่หลายบริษัทมักหยิบยกขึ้นมาก็คือ รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดกว่ารถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง เนื่องจากไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องใช้อยู่แล้ว ดังนั้นการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ต่างจากการมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใหญ่ชิ้นหนึ่งภายในบ้าน ซึ่งเมื่อเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างค่าน้ำมันกับค่าไฟที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอร์รี่ของรถยนต์ไฟฟ้าแล้วถือว่าถูกกว่าในระดับหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนที่ใช้เพียงแบตเตอร์รี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเบากว่าเครื่องยนต์พลังงานเชื้อเพลิงที่มีกลไกซับซ้อน ในปริมาณค่าใช้จ่ายที่เท่ากันรถยนต์ไฟฟ้าจึงประหยัดกว่า

 

รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย

หลายประเทศออกนโยบายแบนการขายรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงกันอย่างจริงจังแล้ว นอร์เวย์ขีดเส้นตายให้ถึงแค่ในปี 2025 นี้ อินเดียกำหนดภายในปี 2030 ส่วนฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรตั้งแต่หลังปี 2040 เป็นต้นไป รถยนต์ที่ใช้ในประเทศทุกคันจะใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ส่วนจีนซึ่งเป็นประเทศที่เป็นตลาดผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเองก็เริ่มปรับตัวแล้วเช่นกัน มาชมกันว่าในงาน Bangkok International Motor Show 2018 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา มีรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีจากค่ายไหนบ้างที่น่าสนใจ และที่สำคัญนี่ยังเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยอีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้า
MINE Mobility รุ่น City EV Concept

จากบริษัทเอกชนผู้ผลิตแบตเตอร์รี่และสถานีชาร์จไฟฟ้า บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Energy Absolute (EA) เดินหน้าพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง MINE Mobility เปิดตัวแล้วในสามรุ่นได้แก่ รุ่น City EV Concept รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับขับขี่ในเมือง, รุ่น Sport EV Concept และรุ่น MPV EV- Concept สำหรับครอบครัว

“คนไทยเราเริ่มตื่นตัวกับยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นแล้วครับ จากข่าวเรื่องนโยบายของหลายประเทศ และจำนวนของสถานีชาร์จเองที่เพิ่มขึ้น เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นที่จะทำยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยขึ้นมา” คุณธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ ซีอีโอบริษัท MINE Mobility Research กล่าว “สิ่งที่เราภาคภูมิใจก็คือทีมงานทั้งหมดของเราเป็นคนไทย เขาได้แสดงความสามารถทุกอย่างออกมาเต็มที่ เรียกว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยคันแรกได้เต็มปากเลยครับ”

รถยนต์ไฟฟ้า
คุณธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ ซีอีโอบริษัท MINE Mobility Research

นอกจากความโดดเด่นในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยแล้ว MINE Mobility ยังมีจุดเด่นสำคัญอีกหนึ่งข้อนั่นคือการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ในราคาไม่ถึงหกแสนบาทที่คนไทยทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ด้วยความที่สามารถผลิตแบตเตอร์รี่ได้เอง ส่วนการออกแบบนั้นทาง MINE Mobility ตั้งใจให้มองออกได้ง่ายว่ารถยนต์ของ MINE นั้นไม่ใช่รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป ซึ่งดีไซน์ล้ำสมัยนี้ยังถูกสื่อสารผ่านโลกโก้ของแบรนด์ด้วยเช่นกัน “ผมคาดหวังว่าจะได้เห็นรถยนต์ที่ผลิตและออกแบบโดยคนไทยวิ่งตามท้องถนน หรือไปสู่ตลาดโลกครับ” คุณธนพัชร์กล่าว

รถยนต์ไฟฟ้า
ภายในรถยนต์ MINE Mobility รุ่น City EV Concept

 

ยานยนต์ไฟฟ้ารักษ์โลก

ใช่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีแต่ซิตี้คาร์หรือสปอร์ตคาร์เท่านั้น BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีนนำตัวอย่างของรถบัสมาเปิดตัวในงานเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรหากนำมาใช้กับระบบขนส่งมวลชน นอกจากนั้นภายในบูธของ BYD ยังมีมอเตอร์ไซต์ รถขนของ ฯลฯ ล้วนเป็นยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในการขนส่งจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทางในลอนดอน หรือรถแท็กซี่ในประเทศจีน

รถยนต์ไฟฟ้า
ตัวอย่างของรถบัสจาก BYD

สำหรับไอเดียแปลกต้องยกให้ FOMM One รถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กกะทัดรัดสัญชาติญี่ปุ่น ที่สามารถลอยน้ำและวิ่งในน้ำได้  โดยได้แรงบันดาลใจมาจากปัญหาน้ำท่วมหรืออุบัติเหตุรถยนต์ตกน้ำ ซึ่งประธานบริษัทเองก็เคยมีประสบการณ์ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นแรงบันดาลใจที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถช่วยชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากน้ำท่วมได้ นอกจากนั้นมอเตอร์ไฟฟ้ายังมีความคงทนเป็นพิเศษ อายุการใช้งานนาน

รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้าจาก FOMM One

หากต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง BMW I8 คือคำตอบ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดรุ่นนี้คงคอนเซ็ปต์การพัฒนาอย่างยั่งยืนตั้งแต่ในกระบวนการผลิต ซึ่งใช้พลังงานน้ำและพลังงานทดแทนในโรงงาน เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่รถยนต์ไฟฟ้าผลิตด้วยพลังงานสะอาด นอกจากนั้นเมื่อหมดอายุการใช้งานแล้ว ทางบริษัทยังมีส่วนช่วยรีไซเคิลรถยนต์ด้วยการรับเอารถและแบตเตอร์รี่เพื่อนำไปทำประโยชน์ต่อ

รถยนต์ไฟฟ้า
BMW I8

“ผมคิดว่าจริงๆ ตอนนี้คนไทยเราพร้อมแล้วนะครับสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอร์รี่ สถานีชาร์จ หรือตัวรถยนต์เองมันมีให้เลือกมากขึ้น ไม่เกินปลายปีหน้าเราก็น่าจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนนมากขึ้นครับ” คุณธนพัชร์กล่าวปิดท้าย “ถ้ารัฐบาลสนับสนุนหรือมีนโยบายออกมายิ่งจะช่วยให้คนไทยเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้นครับ”

เรื่อง ธนเสฏฐ์ ศิริวัฒนาดิเรก

ภาพ ศุภวรรณ สอาด

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.wired.com/story/even-more-evidence-that-electric-cars-could-save-the-planet/

https://bethesdagreen.org/do-electric-cars-hold-the-keys-to-the-future/

https://www.ridebuster.com/7-why-ev-is-real-innovation/

 

อ่านเพิ่มเติม

รถยนต์ไฟฟ้าจะครองถนนในปี 2040 นี้

Recommend