ชีวิตเริ่มต้นที่วัย 9 ขวบ

เรื่อง อีฟ โคแนนต์
ภาพถ่าย โรบิน แฮมมอนด์

หากต้องการคำตอบตรงไปตรงมาว่า เพศสภาพกำหนดชะตาชีวิตของเราอย่างไร ลองไปถามจากปากเด็กเก้าขวบทั่วโลก

เมื่ออายุเก้าขวบ เด็กชายหญิงตั้งแต่จีนถึงแคนาดา  และเคนยาถึงบราซิล บรรยายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับอาชีพในอนาคต ขณะที่เด็กผู้ชายไม่เห็นว่าเพศเป็นอุปสรรค แต่เด็กผู้หญิงมากมายกลับไม่คิดเช่นนั้น

ณ ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนเข้าสู่วัยรุ่น เด็กเก้าขวบสามารถประเมินโอกาสของตนเอง และข้อจำกัดที่เพศสภาพมีต่อพวกเขาและเธอได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เพื่อเข้าใจมุมมองของเด็กๆ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ตระเวนไปยังบ้าน 80 หลังในสี่ทวีป เราถามเด็กวัยเก้าขวบด้วยคำถามชุดเดียวกัน คำตอบนั้นตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม

หลายคนยอมรับทันทีว่า การทำตัวให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่พวกเขาเรียกว่าบ้าน และบทบาทที่ถูกคาดหวัง อาจเป็นเรื่องยากลำบาก เหนื่อยหน่าย สับสน และอ้างว้าง แต่อีกหลายคนไปได้สวยเมื่อพวกเขาทลายกำแพงทางเพศลงได้

นิโคล อึนดูตา มุนยูอี โอซาโน กรุงไนโรบี, เคนยา
“ความแตกต่างระหว่างเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงคือ เด็กผู้หญิงอ่อนโยน ส่วนเด็กผู้ชายหยาบคายค่ะ และบางคนก็ชอบล้อเลียน คนอื่น พวกเขาไม่มีเมตตาและควบคุมตัวเองไม่ได้”

การเป็นเด็กผู้หญิงมีอะไรดีที่สุด

เอเวอรี แจ็กสัน ปัดปอยผมทำไฮไลต์สีรุ้งและครุ่นคิดกับคำถาม “การเป็นเด็กผู้หญิงดีหมดทุกอย่างเลยค่ะ!”

แล้วอะไรเลวร้ายที่สุดในการเป็นเด็กผู้หญิง

“ก็เรื่องที่พวกเด็กผู้ชายชอบพูดว่า ‘นั่นไม่ใช่เรื่องของเด็กผู้หญิง เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายต่างหาก’ ”

เอเวอรีใช้เวลาสี่ปีแรกของชีวิตเป็นเด็กผู้ชาย และไม่มีความสุข ความที่ใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงข้ามเพศอย่างเปิดเผย  มาตั้งแต่ปี 2012 ปัจจุบัน เด็กน้อยชาวแคนซัสซิตีโดยกำเนิดคนนี้จึงกลายเป็นศูนย์กลางของการถกเถียงอภิปรายที่ขยายวงกว้างขึ้นเกี่ยวกับบทบาทและสิทธิทางเพศ

โลเปยอก คาเกเต เมืองคาปูตีร์, เคนยา
“สิ่งดีๆในการเป็นเด็กผู้ชายคือเจ้าหนูของผมครับ”

ซันนี โภเป เด็กชายวัยเก้าขวบที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆใกล้นครมุมไบ ประเทศอินเดีย บอกว่า สิ่งเลวร้ายที่สุดในการเป็นเด็กผู้ชายคือ การที่เพื่อนๆคาดหวังว่าเขาจะร่วมวง “แกล้งสาวๆ” ซึ่งเป็นคำพูดกลบเกลื่อนในสังคมของเขาสำหรับการล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงในที่สาธารณะ

สำหรับหวังอี้ฉีในกรุงปักกิ่ง เรื่องดีที่สุดในการเป็นเด็กผู้หญิงคือ “เราใจเย็นกว่าและไว้วางใจได้มากกว่าเด็กผู้ชายค่ะ” และสำหรับจูเลียนา เมย์เรลเลส เฟลวรี ในรีอูดีจาเนรู คำตอบคือ “เราได้เข้าลิฟต์เป็นคนแรกค่ะ”

ชีวิตจะแตกต่างไปอย่างไรถ้าเธอเป็นเด็กผู้หญิงแทนที่จะเป็นเด็กผู้ชาย (หรือเป็นเด็กผู้ชายแทนที่จะเป็นเด็กผู้หญิง)

โทมี วอร์ บอนเนต เขตสงวนไพน์ริดจ์, เซาท์ดาโคตา
“สิ่งที่แย่ที่สุดในการเป็นเด็กผู้หญิงก็คือ คุณแค่ไม่สามารถทำสิ่งที่เด็กผู้ชายทำได้ค่ะ แบบว่า มันกวนใจหนูมากที่เราไม่มีประธานาธิบดีสาวๆ เลยสักคน”

เลฟ เฮิร์ชเบิร์ก จากนครเยรูซาเลม ตอบว่า ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง เขา “คงไม่ชอบคอมพิวเตอร์” ขณะที่ชิมอน เปเรล เพื่อนร่วมชาติชาวอิสราเอล ตอบว่า ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง เขาคงเล่นกระโดดเชือกได้

เอไรอาห์ บิ๊ก โครว์ ชนเผ่าโอกลาลาลาโกตาในเขตสงวนไพน์ริดจ์ รัฐเซาท์ดาโคตา ตอบด้วยเสียงแผ่วเบาแทบกระซิบว่า ไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ เพราะเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง “เหมือนกันเปี๊ยบ”

อันชู มัลโหตรา ประธานที่ปรึกษาด้านเพศและพัฒนาการขององค์การยูนิเซฟ มองว่า คำกล่าวของเอไรอาห์อาจฟังดูมองโลกในแง่ดีไปสักหน่อย เธอบอกว่า ในประเด็นความไม่เท่าเทียมกันทางเพศนั้น “เรายังมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง”แต่ก็มีความก้าวหน้าอยู่บ้าง

โตขึ้นอยากเป็นอะไร

ไรลีย์ ริชาร์ดส์ เขตสงวนไพน์ริดจ์, เซาท์ดาโคตา
“โตขึ้นหนูอยากเป็นทหารหน่วยซีลเพื่อปกป้องประเทศชาติ เพราะคนเลวคนอื่นๆ ฆ่าคน [ในเผ่า] ของหนูค่ะ”
โลกามู โลปุลโมเอ เด็กหญิงชาวเทอร์แคนาที่อาศัยอยู่ในชนบทของเคนยา บอกว่า เมื่อโตขึ้น พ่อแม่จะ “ได้รับค่าสินสอดของหนู และแม้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชายจะทุบตีหนู พ่อแม่หนูก็จะมีสินสอดเป็นค่าทำขวัญ”

ในกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา วิลเลียม เคย์ วางแผนอนาคตอย่างมั่นใจว่าจะเป็น “นายธนาคารหรืออัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์” ซางหยุนชูจากกรุงปักกิ่งอยากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ “แต่ตำรวจส่วนใหญ่เป็นผู้ชายค่ะ” เธอบอก “ดังนั้นหนูคงเป็นไม่ได้”

อะไรคือสิ่งที่ทำให้รู้สึกเศร้าใจ

อัลเฟีย อันสารี นครมุมไบ, อินเดีย
“เราไม่ได้เรียนหนังสือในโรงเรียน แต่เด็กผู้ชายได้เรียน ดังนั้นพวกเขาจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ แต่เด็กผู้หญิงทำไม่ได้ค่ะ”

สำหรับโทมี วอร์ บอนเนต ชนเผ่าโอกลาลาลาโกตา สิ่งนั้นคือ “การเห็นผู้คนปลิดชีวิตตนเอง” อะไรปลูกฝังความคิดเช่นนี้ในหัวของเด็กเก้าขวบน่ะหรือ เขตสงวนของเธอมีประวัติว่า เด็กอายุแค่ 12 ปีฆ่าตัวตาย

ราเนีย สิงคลา จากมุมไบ รู้สึกเศร้าเมื่อน้องชายทุบตีเธอ ลาเมีย อัล นัจจาร์ ซึ่งอาศัยอยู่ในฉนวนกาซา บอกว่า “หนูรู้สึกเศร้าเมื่อเห็นบ้านของเราถูกทำลาย”

อะไรคือสิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุด

คำตอบอันดับต้นๆ ได้แก่ ครอบครัว พระเจ้า อาหาร ฟุตบอล และเพื่อนๆ ขณะที่คำตอบอื่นๆแสดงถึงความแตกต่างเชิงภูมิศาสตร์ในชีวิตของเด็กแต่ละคน เด็กคนหนึ่งรักการชุมนุมของชาวอเมริกันพื้นเมือง  อีกคนรักไข่อีสเตอร์ สำหรับมาเรีย เอดูอาร์ดา การ์โดโซ ไรมุนดู ในรีอูดีจาเนรู ซึ่งพ่อแม่แยกทางกัน ความสุขคือ “แม่กับพ่ออยู่ข้างตัวหนู กอดหนู และคอยสอนหนูค่ะ”

เมื่อเด็กหญิงและเด็กชายวัยเก้าขวบพูดถึงตัวเองและเพื่อนในวัยเดียวกัน พวกเขามีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในหลายประเด็น เป็นต้นว่า เด็กผู้ชายตกที่นั่งลำบากบ่อยกว่าเด็กผู้หญิง และเด็กผู้หญิงหมดเวลามากมายไปกับเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม เรื่องเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริงของพวกเขา แต่เรื่องที่จริงจังมากกว่าก็เป็นเช่นกัน

ถ้าสามารถเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างในชีวิตหรือในโลกได้ สิ่งนั้นคืออะไร

กลารา ฟรากา จากรีอูดีจาเนรู จะทำให้โจร “เป็นคนดี เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่ลักขโมย” แอบบี ฮาส จะทำให้ “คนเลว” หมดไปจากเขตสงวนของเธอในเซาท์ดาโคตา คีแรน มานูเอล รอสเซลลี จากออตตาวา บอกว่า เขาจะ “กำจัดผู้ก่อการร้าย” บางคำตอบให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็กๆกำลังพูด ไม่ใช่เด็ก หวังฟางจากจีนบอกว่า ถ้าทำได้ สิ่งที่เธอจะเปลี่ยนแปลงคือ “ความรู้สึกเมื่อเธอเหงา”

ความปรารถนาที่เด็กๆพูดถึงบ่อยที่สุด สรุปอยู่ในคำตอบของเอเวอรี แจ็กสัน เธอบอกว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงโลกได้ “จะไม่มีการกดขี่ข่มเหงกัน เพราะเป็นสิ่งไม่ดีค่ะ”

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.