หากเดินทางออกจากกรุงบราซิเลียราว 1 ชั่วโมง ไปยังเขตการปกครอง Planaltina คุณจะพบกับสถานที่ตั้งหลักของความเชื่อทางจิตวิญญาณที่มีชื่อเรียกว่า Vale do Amanhecer หรือ Sunrise Valley ในตอนแรกคุณอาจเข้าใจว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสวนสนุกธีมพาร์ค จากภาพแทนของวัฒนธรรมทั่วโลกตั้งแต่วัดริมทะเลสาบที่มีรูปทรงเหมือนพีรามิด อาคารแสวงบุญที่มีรูปลักษณ์คล้ายยานอวกาศ อาคารสวดภาวนาดาวหกแฉก ไปจนถึงสถาปัตยกรรมทรงวงรีแปลกๆ อีกจำนวนหนึ่ง
แม้ว่าวัฒนธรรมของสถานที่แห่งนี้จะดูสับสน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกการออกแบบมีขึ้นด้วยความตั้งใจและพิถีพิถัน เพื่อสะท้อนถึงศาสนาและอารยธรรมหลากหลายที่ปรากฏขึ้นบนโลก ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์, ฮินดู, ยูดาห์, อารยธรรมอินคา และอียิปต์โบราณ
ตามความเชื่อของผู้ศรัทธาใน Sunrise Valley สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวเดินทางมายังโลกของเราเมื่อ 32,000 ปีก่อน เพื่อสอนให้มนุษย์เรารู้จักสร้างอารยธรรม พวกเขาเชื่อว่ายานอวกาศบินผ่านชั้นบรรยากาศของโลก 2 ครั้งต่อวัน ในยานอวกาศของพวกเขาเต็มไปด้วยพลัง ทั้งยังมีห้องปฏิบัติการทางจิตวิญญาณสำหรับใช้ในการต่อสู้กับสิ่งไม่ดี โดยจุดประสงค์ของการบินผ่านโลกก็เพื่อดักจับวิญญาณที่ชั่วร้าย สั่งสอนพวกนั้นเสียใหม่ ก่อนจะปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
ชุมชนทางศาสนานี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1959 โดย Neiva Chaves Zelaya หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Aunt Neiva แม่หม้ายลูกสี่ผู้เคยมีอาชีพขับรถบรรทุกในกรุงบราซิเลีย ผู้เกิดนิมิตเห็นภาพและเชื่อว่าตนเป็นผู้ส่งสารของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานอกโลก Neiva ระบุว่า เธอได้รับการชี้นำแนวทางโดย Pai Seta Branca หรือ “Father White Arrow” ทูตทางจิตวิญญาณที่ทุกวันนี้รูปปั้นของท่านได้รับการนับถือในฐานะผู้นำทวีปอเมริกาใต้ 90% ของผู้ศรัทธา Sunrise Valley คือแรงงานชาวบราซิลที่ถูกทิ้งขว้างหลังการก่อตั้งกรุงบราซิเลียเสร็จสมบูรณ์
เรื่องราวแสนจะแฟนตาซี และวัฒนธรรมรวมหลากสีสันเหล่านี้ดึงดูดให้ Gui Christ ช่างภาพชาวบราซิลเดินทางมายัง Sunrise Valley เพื่อบันทึกภาพสารคดีวิถีชีวิตประจำวันของผู้ศรัทธา รวมไปถึงพิธีกรรมที่บางครั้งจัดขึ้นรอบทะเลสาบนานหลายชั่วโมง ในระหว่างพิธีกรรมร่างทรงสองคนจะทำงานร่วมกัน หนึ่งคือ apara หรือ ผู้รับสัญญาณมีหน้าที่รวมร่างกับจิตวิญญาณ และสองคือ Doctriners ผู้ปลูกฝังคำสอนมีหน้าที่พร่ำสอนเกี่ยวกับความเชื่อด้านจิตวิญญาณ และช่วยส่องกรรมเก่าในชาติที่แล้วของบรรดาผู้ศรัทธา
ในระหว่างการถ่ายภาพพิธีกรรม Christ เล่าว่าตัวเขารู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง “ผมพบเจอศาสนามามากมายทั้งในแอฟริกา, เอเชีย และบราซิล แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกถึงบางอย่าง” เขาเล่า “สุดท้ายผมต้องปลีกตัวออกมาจากวัดนั้นก่อน เพราะรู้สึกเวียนหัวมาก”
Sunrise Valley คือหนึ่งในชุมชนทางศาสนาของบราซิล ที่เติบโตเร็วที่สุด ปัจจุบันพวกเขาระบุว่ามีผู้ศรัทธาจำนวน 800,000 คน และสถานที่ประกอบพิธีกรรมย่อยอีกราว 600 แห่งทั่วโลก รายงานจาก Kelly Hayes รองศาสตราจารย์ด้านการศึกษาศาสนา มหาวิทยาลัยอินเดียน่า เมืองอินเดียแนโพลิส
ด้านชุมชนศาสนาอื่นๆ และผู้คนในสังคมบราซิลเองเบือนหน้าหนีเมื่อพูดถึง Sunrise Valley โดยมองว่าพวกเขาไม่ต่างจากลัทธิล้างสมองอื่นๆ ความตึงเครียดและความขัดแย้งปะทุขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะกับสมาชิกของ Sunrise Vally กับผู้นับถือศาสนาคริสต์แบบอีวานเจลิคัลที่ต้องการสร้างโบสถ์ขึ้นใกล้พื้นที่ของพวกเขา “พวกอีวานเจลิคัลเชื่อว่าผู้คนในหุบเขานี้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของปีศาจค่ะ” Hayes กล่าว
อย่างไรก็ดี แทนที่จะพิจารณาในฐานะของลัทธิน่ากลัว Hayes กล่าวว่าผู้คนควรมองชุมชนทางศาสนานี้ในแง่มุมที่ว่า มันคือมูลนิธิหนึ่ง ย้อนกลับไปในช่วงก่อตั้งขึ้นเมื่อทศวรรษ 1950 ความเชื่อนี้เป็นที่แพร่หลายอย่างมากในหมู่เกษตรกร และแรงงานที่อพยพมาตั้งรกรากบริเวณหุบเขา เพื่อสร้างกรุงบราซิเลีย “บราซิเลียในตอนนั้นคือความหวังของบราซิลในการที่จะก้าวไปสู่ชาติสมัยใหม่” เธอเล่า แต่ทว่าในท้ายที่สุดเมืองที่อุดมไปด้วยโครงสร้างคอนกรีตนี้กลับกลายเป็นสถานที่แออัดยัดเยียด และเต็มไปด้วยอาชญากรรมแทน ฉะนั้นแล้วการบำบัดทางจิตวิญญาณเหล่านี้คือการเยียวยาชนชั้นแรงงานชาวบราซิลขึ้นมาใหม่ “ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่าชีวิตสามารถควบคุมได้ ตลอดจนความยุติธรรมและความเท่าเทียมยังเป็นไปได้ในชีวิตของพวกเขา” Hayes อธิบาย
เรื่อง Ye Charlotte Ming
ภาพถ่าย Gui Christ
อ่านเพิ่มเติม