งมโคลนล่าสมบัติในลอนดอน

“ในลอนดอน การออกเดินงมโคลนริมแม่น้ำเทมส์เพื่อค้นหาของมีค่า

เป็นงานอดิเรกเฉพาะกลุ่มมาเนิ่นนาน

ก่อนที่บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลายจะเข้ามาร่วมวง”

วันหนึ่งของฤดูร้อนในย่านกลางกรุงลอนดอน ลูซี พีล หญิงวัย 44 ปี เดินลงบันไดลื่นๆ ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ไปหมอบคู้อยู่ในท่าคุกเข่าเหนือกองโคลนเลนน่าสนใจกองหนึ่ง ตอนนั้นเป็นช่วงน้ำลงเต็มที่ และระดับน้ำในแม่น้ำก็ลดลงอย่างมาก เธอมองข้ามสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นขยะ เช่น ถุงพลาสติก บุหรี่ไฟฟ้า และเศษแก้ว แต่กวาดตาสำรวจก้นแม่น้ำที่เผยให้เห็นอย่างพินิจพิเคราะห์ จนกระทั่งเห็นอะไรบางอย่างซุกอยู่ใต้ทรายที่หากมองเผินๆ อาจหลงคิดว่าเป็นใบไม้ได้ง่ายๆ หลังจากค่อยๆ ดึงออกมาอย่างระมัดระวัง  เธอก็ชูเศษเซรามิกบางเฉียบเหมือนเวเฟอร์ขึ้นมา และเกิดความรู้สึกคุ้นเคยว่า ตนกำลังถือชิ้นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อยู่ในมือ

ต่อมา นักโบราณคดีจะยืนยันข้อสงสัยของเธอ นี่คือชิ้นส่วนของเครื่องปั้นดินเผายุคโรมัน “ถึงจะเป็นแค่เศษเล็กๆ แต่มันก็ยังอุตส่าห์รอดจากการจมอยู่ก้นแม่น้ำเทมส์มาตลอด 2,000 ปีได้ค่ะ” พีลเอ่ยอย่างอัศจรรย์ใจ

ที่ผ่านมา การแข่งขันค้นหาของเก่าจากยุคโบราณเช่นนั้นได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว พีลเป็นนักล่าขุมทรัพย์สมัครเล่นที่เรียกว่า นักงมโคลน (mudlark) แรกเริ่มเดิมที คำนี้หมายถึงคนยากคนจนในลอนดอนที่เที่ยวหาของเล็กๆ น้อยๆ ในแม่น้ำเพื่อนำไปขายในช่วงศตวรรษที่สิบแปดและสิบเก้า แต่ได้ความหมายใหม่ในปัจจุบันจากเหล่าผู้ค้นหาโบราณวัตถุริมฝั่งแม่น้ำเป็นงานอดิเรกทั่วโลกที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จุดเลื่องชื่อที่สุดจุดหนึ่งยังคงเป็นแม่น้ำเทมส์ ซึ่งมีผู้อาศัยอยู่ริมน้ำมาหลายพันปี ด้วยตลิ่งที่ทอดยาวราว 153 กิโลเมตรซึ่งได้รับอิทธิพลจากน้ำขึ้นน้ำลงแนวตลิ่งของลำน้ำสายนี้จึงถือเป็นแหล่งโบราณคดีที่ยาวที่สุดในลอนดอน

 ตลิ่งบางส่วนของแม่น้ำเทมส์จะปรากฏในเห็นวันละสองครั้งในช่วงน้ำลง เอื้อให้นักล่าสมบัติที่เรียกว่า นักงมโคลน (mudlark) ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ อย่างเอเลน ดุยเกอแนน ออกค้นหาขุมทรัพย์

สิ่งของอายุหลายร้อยปีไม่เพียงอยู่รอดมาได้เท่านั้น แต่บางครั้งยังปรากฏออกมาในสภาพเหมือนตอนจมลงไป ใต้โคลนไม่มีผิดด้วย ตะกอนในแม่น้ำปิดกั้นออกซิเจน ส่งผลให้โลหะต่างๆไม่ขึ้นสนิมและแบคทีเรียไม่สามารถย่อยสลายอินทรียวัตถุได้ การเปลี่ยนแปลงน้ำขึ้นน้ำลงวันละสองเวลาทำให้ขยะใหม่ๆ และสิ่งที่อาจเป็นขุมทรัพย์จากตลอดช่วงเวลาอันยาวนานเผยออกมา

หลายสิบปีมาแล้วที่นักล่าขุมทรัพย์ได้รับอนุญาตให้ออกค้นหาของเก่าริมแม่น้ำเทมส์ โดยการท่าเรือแห่งลอนดอน หรือพีแอลเอ (Port of London Authority: PLA) ออกใบอนุญาตอายุสามปีให้ชุมชนนักงมโคลนเป็นงานอดิเรกกลุ่มเล็กๆนี้ แต่ในช่วงที่โควิด 19 ระบาดใหญ่ทั่วโลก ชุมชนดังกล่าวเติบโตขึ้นอย่างมาก ทำให้พีแอลเอต้องเปลี่ยนกระบวนการออกใบอนุญาต โดยประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะจำกัดจำนวนใบอนุญาตรวม และปรับอายุใบอนุญาตให้เหลือเพียงหนึ่งปี เพื่อตอบสนองความสนใจที่พุ่งสูงขึ้น พีแอลเอจึงทำรายชื่อผู้รอขอรับใบอนุญาตซึ่งเพิ่มจำนวนเป็นกว่า 10,000 คนอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดรับ ผู้ถือใบอนุญาตที่ยังไม่หมดอายุไม่สามารถยื่นขออยู่ในรายชื่อนี้ได้จนกว่าใบอนุญาตปัจจุบันใกล้หมดอายุ และนักงมโคลนมือเก่าจำนวนมากก็พลาดโอกาส พวกเขากลัวว่าอาจต้องรออีกหลายปีกว่าจะได้ใบอนุญาตใหม่

การตัดสินใจดังกล่าวบั่นทอนกำลังใจของพีล ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2020 พบสิ่งของกว่า 50 ชิ้นที่รวมอยู่ในฐานข้อมูลสิ่งค้นพบทางโบราณคดีของโครงการโบราณวัตถุขนาดเล็กที่สาธารณชนพบ และพิพิธภัณฑ์อังกฤษ หรือบริติชมิวเซียมเป็นผู้จัดการ “พอข่าวนี้ประกาศออกไป มันรู้สึกเหมือนเป็นการสูญเสียที่พลิกชีวิตค่ะ” พีลบอก “ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังไว้ทุกข์เลย”

ขณะที่นักล่าขุมทรัพย์จำนวนมากผิดหวังกับการสูญเสียงานอดิเรกที่รักยิ่งไป กฎระเบียบใหม่อาจส่งผลลัพธ์ที่กว้างกว่าเดิม เวลาคือสิ่งสำคัญเมื่อพบโบราณวัตถุจากแม่น้ำเทมส์ หลังแม่น้ำปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างจากก้นบึ้งที่มีตะกอนปกป้อง วัตถุนั้นย่อมเปราะบางต่อความเสียหายจากกระแสน้ำและอาจเริ่มขึ้นสนิมหรือผุพัง การหาสิ่งของเก่าๆ ที่มีความสำคัญก่อนที่มันจะถูกทำลายไปตลอดกาล  ต้องอาศัยสายตาของผู้มีประสบการณ์ “บุคลากรด้านโบราณคดีมืออาชีพมีไม่มากพอจะดูแลตลิ่งทั้งหมดได้ค่ะ” เคต ซัมนอลล์ ภัณฑารักษ์ด้านโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์ลอนดอน บอก “นักงมโคลนช่วยเติมเต็มช่องว่างนั้น พวกเขาคือปัจเจกบุคคลผู้เปี่ยมทักษะ มีความรู้ และอยู่ที่นั่นทุกครั้งที่น้ำลด”

ลารา ไมเคล็ม ผู้ล่าขุมทรัพย์เป็นงานอดิเรกมายาวนาน บอกว่า เธอชอบความรู้สึกของการได้เป็นคนแรกที่เห็นข้าวของชิ้นหนึ่งในรอบหลายร้อยหรือหลายพันปี

ส่วนหนึ่งของปัญหาคือการที่ขนบการงมโคลนอันยาวนานกลายเป็นกระแสนิยม ผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อความนิยมใหม่นี้รวมถึงแคลร์ มัดด์ กับคู่หูของเธอ ลอเรนซ์ เพจ ทั้งคู่ก็เหมือนชาวลอนดอนจำนวนมากที่ตระหนักในช่วงการล็อกดาวน์ว่า แม่น้ำหน้าบ้านตนมีขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่ ในฤดูร้อนปี 2020 พวกเธอยื่นขอใบอนุญาตงมโคลนทางออนไลน์และได้รับอนุมัติไม่นานต่อมา พวกเธอเริ่มเดินไปตามแม่น้ำเดือนละสองสามครั้งและโพสต์ภาพสิ่งที่ค้นพบทางอินสตาแกรม เช่น เครื่องประดับทองคำสมัยรีเจนซี และถังน้ำยุคกลาง เพื่อขอให้คนช่วยระบุว่ามันคืออะไร

ปีต่อมา มัดด์เริ่มโพสต์คลิปวิดีโอสั้นๆ ในแบบเกมปริศนาคำทาย แสดงพื้นที่ก้นแม่น้ำบางส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เห็นขุมทรัพย์ด้วยตาตนเอง ก่อนขยายภาพสิ่งที่เธอพบให้เห็นช้าๆ คลิปวิดีโอเหล่านี้มียอดผู้ชมหลายหมื่น โดยคลิปวิดีโอเกี่ยวกับแหวนสมัยจอร์เจียนที่เปล่งประกายแวววาววงหนึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 1.9 ล้านครั้ง บัญชีของพวกเธอ @muddlarks ที่มีผู้ติดตามประมาณ 4,000 คน ขยับเป็นกว่า 30,000 คนอย่างรวดเร็ว

ผู้สร้างเนื้อหาคนอื่นๆในติ๊กต็อก อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และยูทูบ ก็อวดการผจญภัยริมตลิ่งของตนเช่นกัน โดยทำให้สิ่งที่เคยเป็นงานอดิเรกเฉพาะกลุ่มกลายเป็นกระแสหลัก “พวกเรานักงมโคลนเองนี่ละค่ะที่ทำให้มันได้รับ  ความนิยมจนเราเหมือนหาเรื่องใส่ตัวอยู่หน่อยๆ” เพจบอก จำนวนผู้ถือใบอนุญาตเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปี 2019 ถึงปี 2022 เป็นกว่า 5,000 คน พีแอลเอซึ่งตกใจกับจำนวนที่เพิ่มขึ้น จึงระงับการออกใบอนุญาตในปี 2022 และใช้เวลาสองปีต่อจากนั้นศึกษาว่า นักงมโคลนควรมีจำนวนเท่าใดจึงจะยั่งยืนโดยที่ยังคงรักษาโครงสร้างตลิ่งอันเปราะบางเอาไว้ได้ พวกเขาบอกว่า งานวิจัยที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะนี้ชี้ว่า จำนวนสูงสุดของผู้ถือใบอนุญาตคือ 4,000 คน

ในที่สุด ปลายปี 2024 พีแอลเอก็เริ่มออกใบอนุญาตอีกครั้ง แต่นักงมโคลนมือเก่าจำนวนมากอาจต้องหยุด เมื่อใบอนุญาตปัจจุบันของตนหมดอายุ “เราพยายามยุติธรรมที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ” พิปปา บาร์เบอร์ เจ้าหน้าที่พีแอลเอผู้ดูแลโครงการใบอนุญาตนักงมโคลน บอก “เราส่งเสริมให้มีรายชื่อผู้รอขอรับใบอนุญาตเพื่อให้คนที่ได้ใบอนุญาตจะไม่ถือไว้ตลอดกาลโดยไม่ปล่อยให้คนอื่นได้บ้าง” เธออธิบายว่า สิ่งที่พวกเขาไม่อยากเห็นก็คือ “คน 15,000 คนพากันเข้าไปในย่านกลางกรุงลอนดอนและควานหาโบราณวัตถุทุกอย่างจากแม่น้ำไปจนเกลี้ยงค่ะ”

แหวนทองประดับอัญมณีสีชมพูจากศตวรรษที่สิบห้า

ปัจจุบัน กระทั่งคนที่ค่อนข้างเป็นมือใหม่ในงานอดิเรกนี้ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เจนนี ริดจ์เวลล์ ผู้ได้ใบอนุญาตเมื่อปี 2022 และออกงมโคลนทุกสัปดาห์จนกระทั่งไม่นานมานี้ บอกว่า การที่เธอเสียใบอนุญาตไปในช่วงก่อนหน้าของปีนี้ก็เหมือน “นักดูนกถูกยึดกล้องสองตา” ถึงเธอจะเห็นใจพีแอลเอที่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้า               คายไม่ออก “นี่คืองานช้าง” และเห็นใจคนอื่นๆ ที่ต้องการโอกาสในการออกค้นหาของเก่าริมตลิ่ง

อันที่จริง ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า นักงมโคลนที่มีประสบการณ์คือกระดูกสันหลังของงานโบราณคดีในแม่น้ำเทมส์ พวกเขาพบสิ่งของปีละราวๆ 700 ชิ้นที่ถือว่ามีนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์มากพอที่จะจดทะเบียนไว้ในฐานข้อมูลของโครงการโบราณวัตถุขนาดเล็ก ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ด็อกแลนด์สในลอนดอนจัดนิทรรศการซึ่งมีสิ่งจัดแสดงกว่า 350 ชิ้นที่นักงมโคลนเป็นผู้ค้นพบ รวมถึงกริชยุคไวกิ้งและชิ้นส่วนหมากกระดานยุคโรมัน “เราเห็นคุณค่าการค้นพบของพวกเขาอย่างมากค่ะ” ซัมนอลล์ ภัณฑารักษ์ประจำนิทรรศการดังกล่าว บอก “เราพูดถึงการค้นพบที่น่าทึ่งทั้งหมดเหล่านี้ แต่มันใช้เวลาและทักษะอย่างมาก”

ฟันปลอมที่ทำจากฟันของมนุษย์จากศตวรรษที่สิบแปด

ในช่วงก่อนหน้าของปีนี้ พีแอลเอยอมผ่อนปรนข้อบังคับ กล่าวคือจะต่ออายุใบอนุญาตให้นักงมโคลนผู้มีผลงานเป็นที่ยอมรับในจำนวนจำกัด กฎระเบียบใหม่มอบโอกาสแก่ผู้คร่ำหวอดที่มีประวัติการค้นพบสำคัญ นอกเหนือจากเกณฑ์อื่นๆ และ “มีคุณูปการต่อการศึกษา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของลอนดอน” ตามที่พีแอลเอบอก

อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นนักล่าขุมทรัพย์บางคนได้รับการยกเว้น เนื่องจากจำนวนผู้ติดตามจำนวนมากในสื่อสังคมช่วยเติมเต็มข้อกำหนดด้านการศึกษาบางส่วน เพจกับมัดด์ซึ่งมอบสิ่งที่พวกเธอพบให้พิพิธภัณฑ์และโรงเรียนต่างๆ ได้รับทราบว่า พวกเธอน่าจะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับการต่ออายุ พีลคาดว่าเธออาจไม่มีคุณสมบัติเพราะไม่ได้ทำอะไรมากนักในการประชาสัมพันธ์การค้นพบของตนผ่านกิจกรรมสาธารณะ เธอใจเสียกับความเป็นไปได้ที่ไม่เพียงอาจสูญเสียงานอดิเรกอันเป็นที่รัก แต่ยังรวมถึงการบำบัดแบบหนึ่งด้วย หลังเข้ารับการฉายรังสีเพื่อรักษามะเร็งสมองหลายครั้ง ตาซ้ายของเธอก็เริ่มมองไม่เห็น “ฉันเริ่มใช้การงมโคลนเป็นการฟื้นสมรรถภาพค่ะ” เธออธิบาย

บาร์เบอร์จากพีแอลเอบอกว่า เธอเข้าใจความผิดหวังของเหล่านักล่าขุมทรัพย์ที่สูญเสียใบอนุญาต แต่การให้โอกาสแก่ผู้อื่นบ้างก็แค่เป็นเรื่องของความยุติธรรม พูดจากใจจริง เธอเสนอให้อดีตนักงมโคลนไปชมนิทรรศการขุมทรัพย์จากนักงมโคลน “สำหรับบางคน นั่นอาจเพียงพอก็ได้ค่ะ มันคือข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของที่เราเจอ” เธอบอก“ไม่จำเป็นต้องออกไปและค้นหาเอง”

แต่ลารา ไมเคล็ม ผู้งมโคลนมายาวนานและเป็นผู้เขียนหนังสือ Mudlarking: Lost and Found on the River Thames รู้ว่าไม่มีอะไรแทนกันได้ “นักงมโคลนส่วนใหญ่จะบอกเราว่า การไปพิพิธภัณฑ์คือประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมาก และแน่นอนว่าจะไม่สนองความต้องการของนักงมโคลนหรอกค่ะ” เธอบอก การล่าขุมทรัพย์เป็นเรื่องของ “ความสุขในการล่าและความตื่นเต้นในการค้นพบ”

ไมเคล็ม ผู้สืบเชื้อสายจากตระกูลช่างต่อเรือและคนงานท่าเรือในลอนดอนหลายชั่วอายุคน อธิบายว่าการงมโคลนคือวิธีสื่อสารกับบรรพบุรุษของเธอ “เวลาเราดึงรองเท้าอายุ 500 ปีขึ้นจากโคลน และมันยังมีรอยยับย่นอยู่ด้านบน หรือกระทั่งรอยนิ้วเท้าของใครบางคนข้างในรองเท้า นั่นก็เหมือนการเดินทางข้ามเวลาสำหรับฉันค่ะ” ไมเคล็ม ผู้พบของล้ำค่าที่สุด คือรองเท้าและพื้นรองเท้าจำนวนหนึ่งที่สืบย้อนไปได้ไกลถึงศตวรรษที่สิบสี่ บอก “มันทำให้ฉันหนาวสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง”

เรื่อง  เอลิซาเบท แอนน์ บราวน์

ภาพถ่าย  ไซมอน โรเบิร์ตส์

แปล  ศรรวริศา เมฆไพบูลย์


อ่านเพิ่มเติม : ทวงคืน สมบัติแผ่นดิน ที่ชาติอาณานิคมตะวันตกยึด และส่งคืนประเทศเดิม

© COPYRIGHT 2025 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.