ย้อนหลังไปเมื่อปี 1991 ดั๊ก ทอมป์กินส์ ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติ ซื้อบ้านไร่ผุพังในภูมิภาคทะเลสาบของชิลี ประเทศที่เขามาเยือนสมัยยังหนุ่มในฐานะนักสกีและนักปีนเขาพเนจรช่วงต้นทศวรรษ 1960 ต่อมาในทศวรรษเดียวกัน เขากับภรรยาคนแรกเปิดบริษัทนอร์ทเฟซ (The North Face) ซึ่งขายอุปกรณ์กลางแจ้ง ก่อนจะขายกิจการไปในราคาไม่เท่าไร
จากนั้นก็เปิดบริษัทเสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จอย่างเอสปรีต์ (Esprit) พอถึงต้นทศวรรษ 1990 เขาก็จัดว่ามีฐานะ หย่ากับภรรยา และเอือมระอากับลัทธิบริโภคนิยมที่ตะกรุมตะกราม ทอมป์กินส์ขายหุ้นที่ถือครองในส่วนของเขาและอำลาโลกธุรกิจ อุทิศชีวิตให้กีฬาสมบุกสมบันอย่างการปีนเขา เล่นสกี และพายเรือคายัก ที่นำพาเขาลงใต้ตั้งแต่ต้น รวมถึงการอนุรักษ์ด้วย
แผนการฟื้นฟูพืชพันธุ์พื้นถิ่นในไร่ของเขาแปรเปลี่ยนเป็นความคิดที่ใหญ่โตและบรรเจิดกว่า เขาก่อตั้งมูลนิธิส่วนบุคคลชื่อกองทุนอนุรักษ์ที่ดิน (Conservation Land Trust) และจัดซื้อที่ดินผ่านมูลนิธิเพื่อผนวกที่ผืนใหญ่สองผืนซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าบริสุทธิ์ นั่นคือปูมาลินเหนือและปูมาลินใต้ โดยมีพื้นที่คั่นกลางอย่างอุยเนย์ที่มหาวิทยาลัยคาทอลิกบัลปาไรโซเป็นเจ้าของและยินดีขายให้
แต่ผลประโยชน์ทางการเมืองที่เข้มข้น รวมทั้งเอดัวร์โด เฟร รูอิซ-ตาเกล ประธานาธิบดีชิลีในขณะนั้น ทำให้การซื้อขายหยุดชะงัก นั่นคือจุดที่คริส แม็กดิวิตต์ เข้ามา เธอเพิ่งเกษียณจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัทเสื้อผ้าปาตาโกเนีย และมาที่นี่พร้อมเงินกับแนวคิดของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของดั๊ก ทอมป์กินส์ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 1994
คริส ทอมป์กินส์ เป็นหญิงร่างเล็กที่ดุดันและชาญฉลาด เธอพูดถึงเรื่องในอดีตได้โดยไม่ฟูมฟาย แน่นอนว่าอุยเนย์จะเชื่อมปูมาลินเป็นผืนเดียว เธอบอก พื้นที่ราวสองแสนไร่นั้นไม่ถือว่าใหญ่เมื่อเทียบกับปูมาลินเหนือหรือใต้ แต่มันคือจุดเชื่อมพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่ของชิลีในจุดที่แคบที่สุดจุดหนึ่งของประเทศ จากอ่าวอังกุดถึงเทือกเขาแอนดีส ความพยายามซื้อที่ดินของพวกเขาทำให้เกิดความกังขา การต่อต้าน และความขุ่นเคือง บางคนบอกว่า การกว้านซื้อที่ดินและการปกป้องทั้งหมดนี้ไม่เพียงทำให้พื้นที่เกษตรกรรมเสียไปเปล่าๆ แต่ยังทำให้คนตกงาน และสร้าง “ระบอบศักดินา” ขึ้นในชิลี
ปฏิกิริยาเหล่านี้ดำเนินไปตลอดทศวรรษ 1990 และในช่วงปีแรกๆของศตวรรษนี้ ขณะที่ทั้งคู่ขยายการซื้อที่ดินและการอนุรักษ์ไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของชิลี (รวมถึงหุบเขาชากาบูโกที่ผมนั่งอยู่กับเธอตอนนี้ด้วย) คนขาวจอมละโมบเหล่านี้เป็นใครกัน พวกเขามีแผนร้ายอะไร พวกเขาคิดจะสร้างที่ทิ้งกากนิวเคลียร์หรือแค่อยากมีที่ดินผืนใหญ่ในชิลีเป็นที่พักผ่อนส่วนตัวเท่านั้น
อันที่จริง เป้าหมายในปูมาลินของทั้งคู่คือการซื้อที่ดิน ก่อตั้งอุทยาน และคืนให้ชิลี แต่ชิลีไม่มีขนบการบริจาคของเอกชนที่ไม่ใช่โครงการศาสนาและการศึกษา ความใจกว้างเกินหยั่งของคู่สามีภรรยาอเมริกันนี้อย่างดีที่สุดก็ดูเหมือนความพยายายามของคนมักใหญ่ใฝ่สูง หรือแย่ที่สุดก็คือเจตนาร้าย อุยเนย์นั้นอ่อนไหวเป็นพิเศษเพราะแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็แผ่ยาวตลอดแนวชายแดน นักวิจารณ์บอกว่า ถ้าคนขาวเงินหนาได้ที่ดินผืนนี้ไป ประเทศจะถูกแบ่งครึ่ง
ตลอดชีวิตแต่งงาน 21 ปี การมีที่ดินกระจายไปทั่ว สารพัดโครงการในชิลีและอาร์เจนตินา รวมถึงความสนใจอันไม่เคยหยุดหย่อนต่อภูมิทัศน์ ทำให้สองสามีภรรยาใช้เวลามหาศาลบนเครื่องบินส่วนตัวลำเล็กๆ เขาเป็นนักบินที่มีชั่วโมงบิน 15,000 ชั่วโมง เธอเองก็บังคับเครื่องบินบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยมีใบอนุญาตทั้งการนำเครื่องขึ้นหรือลง “นั่นคือตอนที่ฉันมีความสุขที่สุดเวลาบินค่ะ” เธอบอกและเสริมว่า ทั้งคู่มักคิดว่าจะตายด้วยกัน เพราะการกระเด้งกระดอนไปด้วยกันในเครื่องบินเซสนาหรือฮัสกี ท่ามกลางหุบผาชันและยอดเขาต่างๆ ของเทือกเขาแอนดีส
แต่การณ์ไม่เป็นแบบนั้น ดั๊กเสียชีวิตจากภาวะตัวเย็นเกินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี 2015 โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกอยไอเก เมืองหลวงของภูมิภาค หลังแช่น้ำในทะเลสาบอันเย็นเยียบของชิลีเป็นเวลานาน ในวันโชคร้ายหายนะวันหนึ่งที่คลื่นสูง ลมแรง และหางเสือเรือคายักขัดข้อง เรือคว่ำ คลื่นลมที่แรงจัดทำให้เขากับคู่หู ริก ริดจ์เวย์ นักปีนเขาชื่อดัง เข้าฝั่งไม่ได้ ริดจ์เวย์ได้รับการช่วยเหลือหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมงและปลอดภัย แต่ดั๊ก ทอมป์กินส์ ไม่โชคดีเช่นนั้น
คริส ทอมป์กินส์ รู้ข่าวทางโทรศัพท์ เป็นข้อความกว้างๆ ว่าเกิดอุบัติเหตุ และอาจมีผู้เสียชีวิต จากนั้น เธอขับรถหกชั่วโมงไปยังโรงพยาบาลที่ยืนยันว่า สามีของเธอเสียชีวิตแล้ว “การที่เขาจากไปเร็วขนาดนั้นก็เหมือนการแต่งงานของเรานั่นละค่ะ” เธอบอก “ความเศร้าโศกเสียใจก็เป็นแค่ความต่อเนื่องของสายสัมพันธ์ที่เรามี” ชีวิตที่ยิ่งแบ่งปันกันมากเท่าไร ก็ยิ่งยังความเสียใจมากเท่านั้น เป็นอย่างนั้นเอง
หลายปีที่อยู่ด้วยกัน เธอมีชื่อเล่นในการบินสำหรับการสื่อสารทางวิทยุว่า “ปีกาฟลอร์” หรือ “ฮัมมิงเบิร์ด” ในภาษาสเปน ดั๊ก ทอมป์กินส์ ใช้ชื่อ “อากีลา” ที่แปลว่า “เหยี่ยว” แต่ชื่อที่ใกล้ชิดกว่านั้นคือ “โลโล” สำหรับเขาและ “เบิร์ดดี” สำหรับเธอ แต่ถ้าเป็นนก เธอก็เป็นนกโต้คลื่นที่ทนทรหด ไม่ใช่ฮัมมิงเบิร์ด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอสานต่องานที่ทั้งคู่เริ่มต้นด้วยกันตามลำพังด้วยความมุ่งมั่นยิ่งกว่าเดิม
“นี่คือสิ่งที่ทำให้ฉันไม่ตามดั๊กไปค่ะ” เธอบอก โดยหมายถึงการยอมแพ้ หรือการเดินลุยไฟตามสามีที่เสียชีวิต “ฉันนึกภาพชีวิตที่ไม่มีเขาไม่ออกเลย”
แทนที่จะยอมแพ้ คริสกลับทุ่มเทความพยายามในการทำตามเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนที่ดินของทอมป์กินส์ให้เป็น อุทยานแห่งชาติ ที่งดงามน่าทึ่งในชิลีและอาร์เจนตินา นั่นใช้เวลาสามปี แต่จังหวะก้าวเร่งเร็วขึ้นมาก
ภายในสองสัปดาห์หลังฝังศพสามี เธอก็บรรลุข้อตกลงที่จะปกป้องระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่ออีเบราทางเหนือของอาร์เจนตินา และพอสิ้นเดือนมีนาคม ปี 2019 เธอก็ทำความตกลงขั้นสุดท้ายกับรัฐบาลชิลีในอันที่จะผนวกที่ดินกว่า 2.5 ล้านไร่ของทอมป์กินส์ เข้ากับที่ดินของรัฐบาลอีก 25 ล้านไร่ เพื่อก่อตั้ง อุทยานแห่งชาติ ขึ้นใหม่ห้าแห่งกับขยายพื้นที่อุทยานอีกสามแห่ง
ตอนนี้สิ่งที่เคยเป็นเขตสงวนเอกชนปูมาลินได้กลายเป็นสมบัติสาธารณะแล้ว นั่นคือ อุทยานแห่งชาติ ปูมาลินดักลาสทอมป์กินส์
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ในนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนพฤษภาคม 2563
สั่งซื้อได้ที่ https://www.naiin.com/product/detail/503828