สิงห์ปาร์ค เชียงราย พื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพที่ทุกคนสามารถเข้าถึง (และเที่ยวได้)

รู้หรือไม่ว่า เมื่อ 60 ปีที่แล้ว ประเทศไทยมีพื้นที่มีป่าอยู่ร้อยละ 53.22 ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประเทศ แต่ใน พ.ศ. 2562 ข้อมูลจากสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ กรมป่าไม้ ระบุพื้นที่ป่าไม้ลดลงเหลือร้อยละ 31.68 หรือไม่ถึง 1 ใน 3 ของประเทศ

สำหรับคนที่อยู่ในเมืองซึ่งไม่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ อาจไม่ได้รู้สึกตกใจกับตัวเลขของป่าไม้ที่ลดลงนี้เท่าไรนัก หรือถ้าเป็นคนที่ทำเกษตรกรรม เพาะปลูก ในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งคุ้นเคยกับพื้นที่ธรรมชาติบ้าง อาจมีความรู้สึกเสียดายที่พื้นที่ทางธรรมชาติที่มอบความร่มรื่น และอากาศที่บริสุทธิ์ กำลังลดน้อยถอยลง

แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมือง ต่างจังหวัด หรือที่ไหนก็ตามบนโลกใบนี้ การสูญเสียป่า หมายถึงชีวิตของมนุษย์นั้นกำลังถูกคุกคาม เพราะอาจกล่าวได้ว่า ‘ป่า’ รวมไปถึง ‘พื้นที่สีเขียว’ นั้นถือเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตทุกชีวิตบนโลกเลยก็ว่าได้

ในปัจจุบันป่าถูกทำลายอย่างยิ่ง ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่น การบุกรุกทำพื้นที่การเกษตร การตักตวงทรัพยากรในป่าจำนวนมหาศาลเพื่อหาผลประโยชน์ในด้านต่างๆ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อชีวิตทั้งผู้คน สัตว์ป่า พืชพรรณจำนวนมาก

หรือแม้กระทั่งในช่วงฤดูฝน หรือกรณีที่มีฝนตกหนัก หากป่าถูกทำลาย ดินบริเวณนั้นก็ย่อมขาดรากไม้ที่ยึดดินให้แข็งแรงทำให้ดินทลาย ไม่มีต้นไม้คอยซับน้ำ เกิดเป็นน้ำท่วม หรือป่าอาจจะแห้งแล้งจนเกิดเป็นเป็นภัยแล้ง ส่งผลให้ผู้คนเดือดร้อนได้เช่นกัน

และในยามที่ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อน เริ่มกลายเป็นภัยคุกคามคนทั่วโลก ประเทศไทยก็พบเจอภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นในทุกปี ทางรอดจากภัยธรรมชาติเหล่านี้ย่อมหนีไม่พ้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและรักษาป่าไม้เอาไว้ เพราะป่าไม้คือแหล่งออกซิเจนที่ทำให้เราได้อากาศบริสุทธิ์ และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก อันเป็นเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งรักษา และเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้าง ‘ระบบนิเวศ’ ที่สมบูรณ์ อันจะเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพชีวิตต่างๆ บนโลก

พื้นที่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สู่ศูนย์รวมความหลากหลายทางชีวภาพ ที่เสมือนเป็นปอดให้กับคนเชียงราย

แม้สถานการณ์พื้นที่ของป่าไม้ในไทยโดยรวมจะลดลง แต่เชียงรายจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย ยังถือเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้และแหล่งน้ำอยู่มาก จากข้อมูลของกรมป่าไม้ จังหวัดเชียงรายมีเนื้อที่ป่าไม้อยู่ที่ 2,865,464.13 ไร่ คิดเป็นพื้นที่ราวร้อยละ 40 ของเนื้อที่จังหวัดทั้งหมด

นอกเหนือจากพื้นที่ทางธรรมชาติ อันได้แก่พื้นที่ป่าที่ซึ่งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน และป่าในพื้นที่ของชาวบ้านท้องถิ่นแล้ว ที่เชียงรายยังมีพื้นที่ทางธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่และถือเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัด ด้วยพื้นที่กว่า 8,600 ไร่ ของสิงห์ปาร์คเชียงราย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีแหล่งพืชพันธุ์สัตว์ที่อุดมสมบูรณ์

เบื้องหลังความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียวที่นี่คือการบริหารจัดการน้ำสำหรับดูแลต้นไม้ในไร่ ที่สร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ กลายเป็นแหล่งอาหารและแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตมากมาย ซึ่งมีทั้งสัตว์ที่สิงห์ปาร์คตั้งใจเลี้ยงเพาะพันธุ์เองเพื่อศึกษาและเพื่อเป็นกิจกรรมให้กับผู้มาเยือน รวมไปถึงสัตว์ที่อพยพมาจากพื้นที่ป่ารอยต่อที่อยู่รอบๆ เพื่อเข้ามาอาศัยอยู่ในระบบนิเวศที่ยังมีความสมบูรณ์อย่างมากแห่งนี้

นอกจากนี้ พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งน้ำสำหรับเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่รอบข้างนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการเพาะปลูกได้โดยเฉพาะในช่วงฤดูทำไร่ทำนา ดังนั้น แหล่งน้ำเหล่านี้ไม่ได้ช่วยเกื้อกูลให้ธรรมชาติให้เจริญเติบโตเท่านั้น แต่ยังเป็นทรัพยากรที่ทั้งสิงห์ปาร์ค และชุมชนโดยรอบสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้

เป็ดแดง ในสิงห์ปาร์ค เชียงราย

สิงห์ปาร์คเชียงราย เป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่ส่งเสริมโดยภาคเอกชนที่ได้ก่อกำเนิดความหลากหลายทางชีวภาพ ดังจะเห็นได้จากต้นไม้ พรรณพืช และสัตว์ต่างๆ ที่อยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์นับหลายร้อยชนิด โดยในปี 2564 สิงห์ปาร์คเชียงราย ได้มีการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ พบว่ามีสิ่งมีชีวิตในพื้นที่นี้มากถึง 231 ชนิด แบ่งเป็นพืช 52 ชนิด และสัตว์ 179 ชนิด ซึ่งบางชนิดหายาก และอาศัยอยู่เฉพาะพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้นชนิดพันธุ์ของพืชที่โดดเด่นในพื้นที่นี้ เช่น สามร้อยยอด จอกบ่วาย สาหร่ายข้าวเหนียว อินทนิลบก ตะแบกนา จิกน้ำ สุพรรณิกา หางนกยูงฝรั่ง เป็นต้น และมีชนิดพันธุ์สัตว์ที่โดดเด่น  เช่น นกกระแตนานาชนิด นกยอดหญ้าสีดำ เป็ดแดง นกปากห่าง นกปรอทนานาชนิด นกเขา เหยี่ยวขาว นกกระปูดใหญ่ รวมไปถึงผีเสื้อที่มากกว่า 10 สายพันธุ์ แน่นอนว่ายังมีชนิดพันธุ์สัตว์มากมายที่รอการค้นพบอีกมาก

นกกระติ๊ดแดง ในสิงห์ปาร์ค เชียงราย
ผีเสื้อเสือดาวใหญ่ ในสิงห์ปาร์ค เชียงราย
ตะแบกนา ในสิงห์ปาร์ค เชียงราย
จอกบ่วาย ในสิงห์ปาร์ค เชียงราย

ธรรมชาติที่สามารถเข้าถึง (พื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกคน)

สิงห์ปาร์คเชียงราย ต้องการพัฒนาชุมชนที่อยู่โดยรอบในจังหวัดเชียงรายให้เข้มแข็งอย่างมั่นคงและยั่งยืน เน้นการพัฒนาคนให้อยู่ดี กินดี โดยยังคงรักษาความสมดุลของธรรมชาติ การอยู่ร่วมกับชุมชนพร้อมกับพัฒนาพื้นที่ ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งสำคัญของจังหวัดเชียงราย มีผลไม้คุณภาพระดับพรีเมียมตามฤดูกาลตลอดทั้งปี

ภายในสิงห์ปาร์คเชียงราย เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมกับธรรมชาติ โดยมีรถฟาร์มทัวร์เพื่อพาชมพื้นที่ทางการเกษตรที่มีการปลูกพืชไร่หลากหลายชนิด โดยเฉพาะโซนปลูกใบชาอู่หลงขนาดใหญ่ มีโซนทุ่งดอกไม้ที่ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล สลับกับพื้นที่ป่าธรรมชาติที่มีการอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ รวมถึงจุดชมชีวิตสัตว์นานาชนิดที่สิงห์ปาร์คดูแลอยู่อีกด้วย  ทำให้ผู้ที่มาเยือนได้สัมผัสถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของที่นี่ได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ได้ร่วมสนุกกันหลากหลาย และยังมีพื้นที่ของร้านอาหารที่ใช้ผลผลิตส่วนใหญ่จากไร่ของสิงห์ปาร์คเอง โดยกระบวนการท่องเที่ยวทั้งหมดทั้งนี้ดำเนินการโดยคนท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการสร้างอาชีพ และรายได้ให้เกิดการหมุนเวียนในพื้นที่อันเป็นการสร้างความยั่งยืนด้านวิถีชีวิต นำมาซึ่งการสร้างความสุขให้กับชุมชนโดยรอบ

จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ เราจะเห็นได้ว่า สิงห์ปาร์คเชียงราย คือสถานที่ที่ส่งเสริมพื้นที่สีเขียวทางธรรมชาติในจังหวัดเชียงรายจนเกิดผลลัพธ์ที่ดีมากมาย ทั้งการเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีคุณภาพ การเป็นพื้นที่แห่งความหลากหลายทางชีวภาพที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้เที่ยวชมได้ และยังเผื่อแผ่ผลประโยชน์ให้กับผู้คนที่อยู่โดยรอบ พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นตัวอย่างของแนวทางที่สร้างวัฏจักร ‘การท่องเที่ยวยั่งยืน’ ที่ทำให้เห็นและจับต้องได้จริง


อ่านเพิ่มเติม ปลูกป่ามากกว่า 1 ล้านตารางเมตร อย่างมีคุณภาพ สร้างสังคมคาร์บอนต่ำเพื่อโลก

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.