ผืนป่าชายเลนที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางหาดทรายขาวและรีสอร์ตสีสันสดใส เลาะเลียบไปตามชายฝั่งยูกาตานในประเทศเม็กซิโก คือสรวงสวรรค์สำหรับนก บึงที่มีต้นไม้ขึ้นรกชัฏและตั้งอยู่ในแนวเส้นทางอพยพหลักของนก เป็นที่พำนักอันปลอดภัยของนกนับล้านตัวที่บินฝ่าอันตรายข้ามทวีปอเมริกาในแต่ละปี
มัคคุเทศก์ที่พาฉันมายังจุดแวะพักในเส้นทางบินอพยพแห่งนี้คือ ลูอิส ซาลินาส-เปบา นักวิทยาศาสตร์ประจำวิทยาเขตท้องถิ่นของมหาวิทยาลัยแนชั่นแนลออโตโนมัส ประเทศเม็กซิโก แม้จะร่ำเรียนมาทางพฤกษศาสตร์ แต่ซาลินาส-เปบายังเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจำแนกชนิดนก เธอสามารถบอกชื่อนกทุกชนิดในป่าชายเลนก็ว่าได้ นกอพยพระยะไกลผสมปนเปกับนกประจำถิ่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งเป็ดปีกฟ้าจากแคนาดาโคจรมาพบกับนกเรนยูกาตานเฉพาะถิ่น นกฟลามิงโกสีชมพูสูงตระหง่านปะปนกับนกฮิมมิงเบิร์ดตัวกระจิริด
เสียงแหบแห้งของนกกาน้ำร้องออกมาเป็นจังหวะดังอยู่ในอากาศ เมื่อเรือเล็กของเราลอยลำเข้าไปใกล้รังของพวกมัน นกสีดำมันขลับโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างทันทีทันใด ชวนให้ฉันมองตามขึ้นไป แล้วหวนคิดถึงอดีตกาลอันนานโพ้น เมื่อผู้มาเยือนจากอวกาศราว 66 ล้านปีก่อนพลิกสรวงสวรรค์บรรพกาลให้กลายเป็นไฟประลัยกัลป์ล้างโลก
ราว 50 กิโลเมตรทางตะวันออกของบึงป่าชายเลนแห่งนี้คือ ชิกซูลุบปวยร์โต หมู่บ้านชายทะเลอันเงียบสงบซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแอ่งอุกกาบาตขนาดมหึมาที่กินเนื้อที่เข้าไปในอ่าวเม็กซิโก วันอันเลวร้ายวันหนึ่งในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ดาวเคราะห์น้อยขนาดเท่าภูเขาพุ่งชนบริเวณที่ปัจจุบันคือชายฝั่งยูกาตาน เกิดเป็นหลุมขนาดยักษ์บนพื้นดิน และกระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์หายนะตามมาเป็นลำดับ หินที่ระเหิดเป็นไอและแก๊สอันตรายคละคลุ้งไปทั่วชั้นบรรยากาศ ป่าทั่วโลกถูกทำลายจนสิ้นซาก อุณหภูมิแปรปรวนอย่างรุนแรง การชนและผลที่ตามมาปิดฉากการครองโลกของไดโนเสาร์ด้วยการกวาดล้างสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่ครองพิภพมายาวนาน 135 ล้านปี… จนเกือบหมดสิ้น
ทว่าชีวิตย่อมหาหนทางได้เสมอ เมื่อมีไดโนเสาร์บางชนิดรอดชีวิตจากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่นั้นมาได้ และนกในปัจจุบันก็คือกิ่งก้านสุดท้ายที่เหลืออยู่ของวงศ์วานไดโนเสาร์ซึ่งน่าจะถูกทำลายล้างไปหมดแล้ว
“ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า นกคือไดโนเสาร์” ลูอิส คีอัปเป ผู้อำนวยการสถาบันไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งลอสแอนเจลิสเคาน์ตี กล่าว “หลักฐานมีอยู่มากมาย ผมยกให้คำถามนี้ใกล้เคียงกับคำถามที่ว่า มนุษย์เป็นไพรเมตหรือเปล่าเลยล่ะครับ”
ในภูมิทัศน์ราวกับนรกที่ดาวเคราะห์น้อยทิ้งไว้ อะไรทำให้บรรพบุรุษของนกในปัจจุบันได้เปรียบญาติยุคครีเทเชียส นี่เป็นความลี้ลับที่ยากจะอธิบาย เมื่อพิจารณาจากการที่นกปรากฏในหลักฐานฟอสซิลน้อยมาก ทว่าการค้นพบอันน่าทึ่งในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ตลอดจนความก้าวหน้าในการวิเคราะห์พันธุกรรม กำลังเริ่มเผยว่า เหตุดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนที่ชิกซูลุบมีส่วนหล่อหลอมเรื่องราวต้นกำเนิดนกในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งนั่นจะให้เบาะแสแรกๆ ที่เป็นไปได้บางอย่างต่อไปว่านกรอดชีวิตจากหายนะครั้งนั้น แล้วแตกสายออกเป็นกว่า 10,000 ชนิดที่พบเห็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างไร
รากเหง้าเก่าแก่ที่สุดเท่าที่ทราบของวงศ์วานนกคือ อาร์คีออปเทอริกซ์ (Archaeopteryx) สัตว์ขนาดเท่าการาเวนอายุ 150 ล้านปี และมีลักษณะผสมระหว่างนกกับไดโนเสาร์ ขณะที่นกทุกชนิดในปัจจุบันไม่มีฟัน อาร์คีอออปเทอริกซ์ มีขากรรไกรที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคม มันมีกรงเล็บที่ขาหน้าและหางที่ยาวประกอบด้วยกระดูก ลักษณะพิเศษดังกล่าวนี้สูญหายไปในนก แต่เผยความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญาติทางฝั่งสัตว์เลื้อยคลานมากกว่า กระนั้น อาร์คีออปเทอริกซ์ ก็มีลักษณะของนกปัจจุบันด้วย ฟอสซิลของมันเผยให้เห็นปีกอันโดดเด่นปกคลุมด้วยขนที่เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์และกระดูกรูปง่ามหรือรูปตัววาย (Y) เช่นที่พบตรงอกไก่และสัตว์ปีก
หลังการค้นพบในทศวรรษ 1860 อาร์คีออปเทอริกซ์ ก็ถูกจัดให้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจนระหว่างไดโนเสาร์กับนก แต่รายละเอียดเกี่ยวกับบรรพบุรุษของมันและลูกหลานยังคงมืดมนต่อไปเป็นเวลาหลายทศวรรษ
แต่นั่นก็เปลี่ยนแปลงไปในปี 1996 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เผยฟอสซิลชิ้นแรกเท่าที่ทราบของไดโนเสาร์มีขนนก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับนก ไซโนซอรอปเทอริกซ์ พรีมา (Sinosauropteryx prima) ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปเกือบ 130 ล้านปี กลายเป็นจุดพลิกผันในหมู่ชนิดพันธุ์เด่นๆ นับสิบชนิดที่ขุดพบจากชั้นหินยุคครีเทเชียสตอนต้นในประเทศจีน โดยส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลเหลียวหนิง ที่นั่น ทะเลสาบยุคโบราณและภูเขาไฟมีพลังสร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาฟอสซิลอย่างยอดเยี่ยม เกิดเป็นแหล่งสะสมไดโนเสาร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับนกและนกโบราณร่วมสมัยเดียวกัน โดยมักพบร่วมกับขนนกเกล็ดและผิวหนังที่บางครั้งยังคงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แม้กระทั่งร่องรอยของสารสีไว้ได้ เช่นเดียวกับ อาร์คีออปเทอริกซ์ สัตว์เหล่านี้หลายชนิดเป็นส่วนผสมอันแปลกประหลาดระหว่างนกกับไดโนเสาร์
ไมโครแรปเตอร์ กุย (Microraptor gui) ไดโนเสาร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับนกซึ่งมีขนสีดำขลับ อาจร่อนไปตามกิ่งไม้โดยใช้ขนนกแข็งๆ บนขาทั้งสี่ข้าง บริเวณใกล้กันนั้นเอง นกโบราณ ลองจิปเทอริกซ์ เฉายานเจนซิส (Longipteryx chaoyangensis) บินเลียบไปตามลำน้ำ พลางจับปลาด้วยขากรรไกรที่เต็มไปด้วยฟัน และ แอนชิออร์นิส ฮักซ์ลีย์ไอ (Anchiornis huxleyi) ไดโนเสาร์สีออกดำมีขนฟูสีสนิมบนกระหม่อม กำลังย่องไปบนพื้นป่า แต่ไม่สามารถบินได้จริงๆ เพราะปีกสั้นที่มีกรงเล็บสามกรงเล็บ
“ถ้าคุณไม่เห็นฟอสซิลเหล่านั้น คุณจะไม่คิดว่าพวกมันมีอยู่จริงค่ะ” แชนนอน แฮกเกตต์ ภัณฑรักษ์แผนกนกที่พิพิธภัณฑ์ฟิลด์ในชิคาโก กล่าว
เรื่อง วิกตอเรีย แจ็กการ์ด
ภาพถ่าย โรเบิร์ต คลาร์ก
อ่านเพิ่มเติม