ลูกสิงโตตัวนี้มีอายุราว 8 เดือนเมื่อตอนที่ถูกทำเป็นมัมมี่ นับตั้งแต่อดีตจนถึงการค้นพบนี้ มี มัมมี่สิงโต เพียงตัวเดียวที่ได้รับการยอมรับว่ามาจากยุคยียิปต์โบราณ อนุเคราะห์ภาพถ่ายโดย SUPREME COUNCIL OF ANTIQUITIES OF EGYPT
คงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงเจ้าป่าอหังการเดินเพ่นพ่านในอียิปต์ยุคปัจจุบัน แต่เมื่อช่วง 1000 ปีก่อนคริสตกาล สามารถพบแมวยักษ์ชนิดนี้นอนเกียจคร้านอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำไนล์ และบางตัวก็อยู่ภายในพระราชวังในฐานะสัตว์ทรงเลี้ยง สิงโตมีความสัมพันธ์กับพระอาทิตย์และฟาโรห์ ผู้ทรงอำนาจสูงสุดในการกำหนดความเป็นความตายในยุคอียิปต์โบราณ แม้ว่าสภาพอากาศของอียิปต์ในช่วงหลังจะแห้งแล้งขึ้นจนเจ้าป่าเหล่านี้ต้องอพยพลงใต้ พวกมันก็ยังคงสถานะอยู่ในวัฒนธรรมของอียิปต์อย่างชัดแจ้ง
“สิงโตมีบทบาทอย่างมากในประติมานวิทยา (iconography) ของอียิปต์โบราณ” คอนนี ลอร์ด (Conni Lord) นักไอยคุปต์วิทยา (Egyptologist) ของโครงการวิจัยมัมมี่สัตว์ พิพิธภัณฑ์นิโคลสัน มหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าวและเสริมว่า “สิงโตเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจหลวง [แต่] จินตภาพของสิงโตถูกนำไปใช้เป็นสิ่งของในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นเก้าอี้หรือเตียงนอน ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นเพียงการนำมาตกแต่งเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันมีความหมายศักดิ์สิทธิ์ที่ให้การปกป้องสิ่งของเหล่านั้นด้วยครับ”
แม้ภาพลักษณ์ของสิงโตจะเป็นที่แพร่หลายในช่วงอียิปต์โบราณ แต่นักวิจัยยังคงสงสัยมานานว่า เหตุใดจึงมีการค้นพบมัมมี่สิงโตแค่เพียงตัวเดียวท่ามกลางมัมมี่สัตว์นับล้านตัว อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทีมนักโบราณคดีนำโดยสภาสูงสุดด้านโบราณวัตถุของอียิปต์ (Egypt’s Supreme Council of Antiquities) ได้เปิดเผยการค้นพบมัมมี่สิงโตเพิ่มอีก 5 ตัว ที่ดูเหมือนเป็นลูกสิงโต ซึ่งค้นพบที่ Bubasteion necropolis หรือสุสานมัมมี่แมวใน Saqqara
มัมมี่ลูกสิงโตที่มีความยาวลำตัวราว 91 เซนติเมตร เชื่อว่ามีอายุราว 8 เดือน มีการค้นพบพวกมันในคอลเล็กชันของมัมมี่แมวและสัตว์ชนิดอื่นๆ ภายในรูปปั้นไม้และทองแดงขนาดใหญ่ รวมไปถึงงูเห่าและจระเข้ โดยสภาสูงสุดด้านโบราณวัตถุของอียิปต์กล่าวว่า วัตถุเหล่านี้อยู่ในช่วงจักรวรรดิอียิปต์ที่ 26 (664-525 ปีก่อนคริสตกาล)
สมัยอียิปต์โบราณ สิงโตมีสถานะพิเศษในฐานะนักรบผู้ดุร้ายในป่า และสัญลักษณ์แห่งอันตรายและการปกป้องคุ้มครอง เป็นที่รู้กันว่าฟาโรห์เองก็ทรงเข้าร่วมการล่าสิงโตเพื่อแสดงถึงอำนาจสูงสุด รวมไปถึงฟาโรห์อเมนโฮเทปที่สาม (Amenhotep III) ซึ่งอ้างว่าได้ทรงสังหารสิงโต 102 ตัวในช่วง 10 ปีแรกของการครองบัลลังก์
กระนั้น สิงโตไม่เคยมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเทพองค์ใดเลย ไม่ว่าจะเป็นธอธ (Thoth) หรืออนูบิส (Anubis) มัมมี่ที่ค้นพบใน Saqqara ดูเหมือนว่าจะมีความเชื่อมโยงกับเทพีแมวบัสเตต (cat goddess Bastet) และเซ็คเมท (Sekhmet) เทพีที่มีพระพักตร์เป็นสิงโต ลอร์ดกล่าว
“ยังไม่มีเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมมัมมี่สิงโตถึงมีน้อย” ลอร์ดกล่าวและเสริมว่า ทั้งๆที่ชาวอียิปต์โบราณสามารถทำมัมมี่สัตว์ได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกขนาด เช่น Apis (วัวศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์) ที่ถูกทำเป็นมัมมี่โดยใช้เทคนิคพิเศษซึ่งรวมถึงการเอาอวัยวะภายในออกมา
เหตุผลเดียวที่อาจทำให้การทำมัมมี่สิงโตต่างจากสัตว์อื่นๆ คืออวัยวะภายในของมันน่าจะมีกลิ่นแรงกว่าสัตว์อื่น เนื่องจากมันเป็นสัตว์กินเนื้อ ซาลิมา อิกราม (Salima Ikram) นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งไคโร ผู้ทำซีทีสแกนในมัมมี่สิงโตบางตัว กล่าว
อิกรามพูดถึงนัยยะในการค้นพบครั้งนี้ว่า “มีความสำคัญอย่างยิ่ง” เนื่องจากทำให้นักวิจัยรู้เบื้องลึกว่ามีการจับสิงโตในช่วงอียิปต์โบราณอย่างไร รวมไปถึงมีการเพาะพันธุ์และซื้อขายพวกมันอย่างไร
“ค่อนข้างเป็นไปได้ว่าการขุดค้นที่ Saqqara จะทำให้เราค้นพบมัมมี่สิงโตเพิ่มมากขึ้น” อิกรามกล่าวและเสริมว่า “กวีในยุคโบราณได้กล่าวถึงการทำมัมมี่สิงโตในอียิปต์ นักวิชาการ รวมถึงตัวฉัน ก็กำลังค้นหาสุสานสิงโตอยู่ค่ะ”