แผนที่กรุงโรม ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1901 ได้ชื่อว่าเป็นแผนที่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โรดอลโฟ ลันเซียนี นักโบราณคดีในสมัยนั้นเป็นผู้ประดิษฐ์แผนที่ดังกล่าว และลงบันทึกรายละเอียดต่างๆ ของสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ในยุคโบราณจนถึงศตวรรษที่ 19 ไว้อย่างพิถีพิถัน
แผนที่ที่ว่านี้มีขนาดใหญ่มาก เมื่อกางออกเต็มที่จะมีความสูง 5 เมตร กว้าง 7.3 เมตร โดยลันเซียนีใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด 8 ปี ผ่านกระดาษจำนวน 46 แผ่นที่แยกออกจากกัน
แผนที่ของเขามีการใช้โค้ดสีเพื่อแบ่งประเภท สิ่งปลูกสร้างในยุคโบราณและยุคกลางถูกวาดด้วยสีดำ ช่วงต้นของยุคสมัยใหม่แทนที่ด้วยสีแดง และสิ่งปลูกสร้างในยุคใหม่ใช้แทนด้วยสีฟ้า (จากมุมมองของยุคสมัยใหม่ลันเซียนีคือช่วงเวลาหลังจากปี 1871 เป็นต้นไป เมื่อกรุงโรมกลายมาเป็นเมืองหลวงของอิตาลี)
“แผนที่นี้เป็นความพยายามครั้งแรกในการแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ของกรุงโรม” อัลเลน คีน นักประวัติศาสตร์ผังเมืองและผู้ประสานงานโครงการ MappingRome ผู้พยายามแปลงแผนที่วาดด้วยมือเหล่านี้ให้เป็นข้อมูลดิจิตอลกล่าว
ในการสร้างแผนที่ดังกล่าวลันเซียนีรวบรวมภาพถ่าย, แบบร่าง และเอกสารกว่าพันชิ้น ที่ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ นับตั้งแต่ตัวเขาเสียชีวิตไปเมื่อปี 1929 สำหรับเอกสารอื่นๆ ของเขาถูกนำไปเก็บถาวรยังสถาบันโบราณคดีและศิลปะแห่งชาติ ในกรุงโรม ที่ซึ่งบรรดานักวิจัยจะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นได้ และขณะนี้ทีมงานจากมหาวิทยาลัย 3 แห่งในสหรัฐกำลังร่วมมือกับรัฐบาลอิตาลีในการแปลงเอกสารทั้งหมดเป็นระบบออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
ลันเซียนีตั้งชื่อแผนที่ของเขาว่า Forma Urbis Romae ตามแผนที่ของต้นศตวรรษที่ 3 ที่สลักด้วยหินอ่อน ซึ่งทำให้แผนที่ของ ลันเซียนีดูเป็นเด็กๆ ไปเลย ด้วยความสูงถึง 13 เมตร กว้าง 18 เมตร ในสัดส่วน 1:240 ซึ่งรายละเอียดของอาคารยังคงสามารถมองเห็นได้ ภายในแผนที่ที่ยังคงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน
(เหตุใดแผนที่เก่าแก่จึงเติมสัตว์ประหลาดในช่องว่าง?)
แหล่งข้อมูลสำคัญอีกแห่งที่เขาใช้ในการอ้างอิงคือแผนที่ของ Giambattista Nolli ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1748 (ภาพด้านล่าง) Nolli เป็นสถาปนิกและนักสำรวจ แผนที่ของเขาถ่ายทอดกรุงโรมในช่วงเวลานั้น ผ่านมุมมองสายตานก รายละเอียดของอาคารและถนนสามารถมองเห็นได้ และมีความถูกต้องแม่นยำถึงขนาดที่ว่าแผนที่ของเขายังคงเป็นประโยชน์สำหรับการสร้างแผนที่สมัยใหม่ผ่านดาวเทียม
อย่างไรก็ตามนับกรุงโรมเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่วันที่ Nolli ทำแผนที่ แน่นอนว่าลันเซียนีหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแผนที่ภาษี แผนงานทางสถาปัตยกรรม ภาพวาด และรูปถ่ายเพื่อเติมเต็มรายละเอียดที่ขาดหายไป ซึ่งปัจจุบันข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบออนไลน์
จากการทำงานอย่างหนัก แผนที่แสดงให้เห็นว่าประวัติศาสตร์ของกรุงโรมในยุคสมัยนั้นถูกสำรวจอย่างละเอียด ยกตัวอย่างเช่นแผนการสร้างจัตุรัสปีอัซซาเดลโปโปโล จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบใหม่ในต้นทศวรรษ 1800 โดยสถาปนิก Giuseppe Valadier หนึ่งในการออกแบบของเขาวาดจัตุรัสเป็นรูปสี่เหลี่ยม ในขณะที่แผนต่อมาของสถาปนิกคนอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่เป็นรูปทรงไข่มากขึ้น ด้วยทางลาดแบบสมมาตรที่นำไปสู่ทางขึ้นเนินเขา (ตามรูปด้านล่าง)
ลันเซียนีเกิดในช่วงเวลาสำคัญของอิตาลี เขาเป็นคนหนุ่มในช่วงที่อิตาลียังคงแบ่งแยก ก่อนจะรวมกันเป็นปึกแผ่นในปี 1871โดยมีโรมเป็นศูนย์กลาง ในขณะนั้นมีโครงการขยายเมืองมากมายเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่างสิ่งปลูกสร้างในเขตเมืองเก่า การบูรณะในครั้งนั้นได้เปลี่ยนสิ่งปลูกสร้างที่เคยถูกฝังไปแล้ว ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คีนกล่าว
“ลันเซียนีขึ้นชื่อว่าเป็นนักโบราณคดีด้วย จากการเห็นซากปรักหักพังถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง” คีนกล่าว “ข้อมูลของเขาเต็มไปด้วยภาพวาดของสิ่งปลูกสร้างโบราณที่ค้นพบในช่วงทศวรรษ 1800 ”
หนึ่งในเป้าหมายระยะยาวของโครงการ MappingRome คือการอัพเกรดและพัฒนาแผนที่เก่านี้ให้เป็นข้อมูลดิจิตอล เจมส์ ไทส์ ศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัยโอเรกอนและหนึ่งในผู้นำของโครงการกล่าว การทำงานนี้รวมถึงการแกไขข้อผิดพลาด ตลอดจนปรับปรุงข้อมูลของสิ่งปลูกสร้างโบราณที่เพิ่งถูกค้นพบขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ผ่านมา และนอกจากนั้นไทส์กล่าวว่าตัวเขาต้องการที่จะสร้างโค้ดสีให้มากขึ้นเพื่อแบ่งประเภทของสิ่งก่อสร้างตามยุคสมัยของการปกครอง
ทั้งนี้แผนที่ของลันเซียนีนั้นมีความงดงามในตัวของมันเองอยู่แล้ว นับตั้งแต่วันที่ถูกสร้างขึ้น ด้วยความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยจากนักออกแบบผังเมืองและนักประวัติศาสตร์แผนที่ใหม่นี้จะเป็นแรงบันดาลใจต่อไปให้แก่ผู้คนในอนาคต การออกแบบที่สะอาดตาและรายละเอียดต่างๆ ช่วยให้มองเห็นกรุงโรมในแบบที่มันเคยเป็น และอาจเป็นในอนาคตข้างหน้า
เรื่อง เกรก มิลเลอร์
อ่านเพิ่มเติม