นักโบราณคดีค้นพบสุสานโบราณที่คาดว่ามีอายุกว่า 3,000 ปี ในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศเปรู ก่อน ยุคอินคา ภายในหลุมศพนั้นมีโครงกระดูกมนุษย์เพศชายซึ่งคาดว่าเป็นนักบวชคนแรก ๆ ในประวัติศาสตร์แอนเดียนโบราณ และเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงก่อนอารยธรรมอินคา
การค้นพบในครั้งนี้เกิดขึ้น ณ แหล่งโบราณคดีปาโกปัมปา (Pacopampa Archaeological Complex) แหล่งโบราณคดีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ ซึ่งมีซากโบราณสถานขนาดใหญ่ต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในช่วง 1200 ถึง 700 ปีก่อนคริสตกาล
ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา นักโบราณคดีในโครงการสำรวจขุดค้นแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก หลักฐานชิ้นล่าสุดที่พวกเขาขุดพบภายในปาโกปัมปาคือโครงกระดูกของผู้นำทางศาสนาในยุคโบราณซึ่งถูกฝังไว้เมื่อราว ๆ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช นักโบราณคดีได้ตั้งชื่อให้โครงกระดูกโบราณนี้ว่า “นักบวชแห่งปาโกปัมปา” (Priest of Pacopampa) โดยพิจารณาจากสิ่งของต่าง ๆ ที่พบภายในหลุมฝังศพ
ตราประทับจำนวน 3 ชิ้นคือสิ่งที่ถูกฝังพร้อมกับร่างของนักบวชคนนี้ ตราประทับชิ้นแรกซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเสือจากัวร์คือสิ่งที่บ่งบอกว่า โครงกระดูกที่พบมีสถานะเป็นนักบวช เนื่องจากสัตว์ชนิดเป็นสัญลักษณ์แทนผู้นำที่สามารถควบคุมและใช้พลังจิตวิญญาณของสัตว์ได้ ส่วนตราประทับชิ้นที่ 2 และ 3 นั้นเป็นลวดลายรูปใบหน้าคนและมือ เหล่านักโบราณคดีเชื่อว่า ผู้คนในยุคนั้นนำตราเหล่านี้ไปจุ่มสีแล้วใช้ประทับลงไปตามร่างไร้วิญญาณของนักบวช
การฝังศพและความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม
การค้นพบสุสานของนักบวชโบราณช่วยให้นักโบราณคดีในโครงการสำรวจขุดค้นปาโกปัมปาระบุได้ว่า ชนชั้นนักบวชเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้เป็นครั้งแรกในช่วงใด เซกิอธิบายว่า ในอดีต ปาโกปัมปาเคยเป็นศูนย์กลางการจาริกแสวงบุญที่ผู้คนใกล้ไกลต่างเดินทางมารวมตัวกันเพื่อร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา “การทำพิธีกรรมแบบกลุ่มคือปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดสภาวะทางสังคมที่ก่อให้เกิดอารยธรรมแอนเดียนขึ้นครับ” เขากล่าว
สุสานที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น สุสานของสตรีแห่งปาโกปัมปา (Tomb of the Lady of Pacopampa) ซึ่งถูกขุดพบเมื่อปี 2009 และสุสานของเหล่านักบวชพยัคฆ์อสรพิษ (Tomb of the Serpent Jaguar Priests) ซึ่งถูกขุดพบเมื่อปี 2015 มีความเชื่อมโยงที่สำคัญกับสุสานของนักบวชแห่งปาโกปัมปา ซึ่งอาจถูกสร้างขึ้นก่อนสุสานอีก 2 แห่งถึง 300 ปี
เซกิเชื่อว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณในรุ่นหลังพยายามจะสร้างสายสัมพันธ์กับบรรพบุรุษชนชั้นสูงของพวกเขาผ่านพิธีการฝังศพ “ผมคิดว่าสุสานหลายแห่งที่ขุดพบคือหลักฐานที่ชี้ว่า พิธีบูชาบรรพบุรุษผ่านการฝังศพมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบทอดอำนาจครับ” เขากล่าวเสริม อย่างไรก็ดี การบูชาบรรพบุรุษถือเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัฒนธรรมแอนเดียนที่เกิดตามมาในภายหลัง อย่างเช่น ชนเผ่าวารี (Wari) ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงคริสต์ศักราช 500 ถึง 1000, ชนเผ่าตีวานากู (Tiwanaku) ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงคริสต์ศักราช 600 ถึง 1000 และชนเผ่าอินคา (Inca) ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงคริสต์ศักราช 1200 ถึง 1533
การขุดค้นแหล่งโบราณคดีปาโกปัมปาดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนเกิดการค้นพบครั้งใหม่ขึ้น ในปี 2022 ได้มีการค้นพบสุสานฝังศพแห่งใหม่ในแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ นักโบราณคดีบางคนถึงกับเชื่อว่า หลุมฝังศพหลุมล่าสุดที่พบอาจมีอายุมากกว่าสุสานของนักบวชแห่งปาโกปัมปา แต่ถึงกระนั้น เหล่านักโบราณคดีและบรรดานักวิชาการก็ยังไม่สามารถด่วนสรุปข้อสันนิษฐานได้จนกว่าการวิเคราะห์หลุมฝังศพและสิ่งที่พบในภายหลุมจะเสร็จสิ้น
แปล พรรณทิพา พรหมเกตุ