นักโบราณคดีเข้าใกล้ไปอีกก้าวในการไขปริศนาอันลึกลับของ ม้วนหนังสือเดดซี
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไฮฟาในอิสราเอลฟื้นฟูและถอดรหัสหนึ่งในม้วนหนังสือเดดซีที่ยังไม่ถูกแปล ม้วนกระดาษโบราณทั้งหมดประกอบไปด้วยม้วนกระดาษจำนวน 900 ชิ้นจากชาวยิวโบราณ ซึ่งถูกค้นพบเมื่อ 70 ปีก่อน
ปฏิทินโบราณ
Eshbal Ratson และ Jonathan Ben-Dov นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยใช้เวลาหมดไปหนึ่งปีกับการรวบรวมชิ้นส่วนกระดาษจำนวน 60 ชิ้นเข้าด้วยกัน เพื่อถอดรหัสข้อความภายใน การค้นพบนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนและปฏิทินแบบโบราณที่เขาใช้ ซึ่งมีจำนวน 364 วัน
“ตัวเลขเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสี่และเจ็ด ดังนั้นแล้ววันในโอกาสสำคัญจึงมักเกิดขึ้นในวันเดิมๆ” Ratson และ Ben-Dov กล่าวระหว่างการแถลงข่าว “ปฏิทินของชาวกุมรันไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
ภายในม้วนหนังสือปรากฏชื่อของเทศกาลเฉลิมฉลองในแต่ละฤดูกาลตามภาษาฮีบรู แต่เดิมเทศกาลเหล่านี้เป็นที่รู้จักจากตำราอื่นๆ แต่ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ
นอกจากนั้นเนื้อหาภายในยังให้รายละเอียดของเทศกาลสำคัญทางศาสนาอีกสองเหตุการณ์ นั่นคือพิธีเฉลิมฉลองไวน์และน้ำมัน ซึ่งอยู่ราวๆ 100 หรือ 150 วัน หลังวันสะบาโต วันสำคัญในศาสนายูดาห์
เนื้อหาในม้วนหนังสือยังให้ข้อมูลของผู้เขียนอีกด้วย ผู้เขียนอาศัยอยู่บนผืนทะเลทรายบนภูมิภาคนี้เมื่อราวๆ 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศักราชที่ 2 แต่รายละเอียดของวันเฉลิมฉลองกลับถูกเขียนแทรกไว้ตามส่วนต่างๆ ของบรรทัด ทำให้นักโบราณคดีตั้งข้อสังเกตว่าส่วนนี้อาจถูกเขียนเพิ่มขึ้นมาโดยนักเขียนอีกคน
(อยากรู้ไหม ศาสนาใดมีวันหยุดมากที่สุดในโลก)
ความลึกลับของม้วนหนังสือ
ตามเอกสารทางศาสนาแล้ว เนื้อหาภายในม้วนหนังสือเดดซีเต็มไปด้วยข้อถกเถียงมากมาย ตัวหนังสือถูกเขียนขึ้นระหว่าง2 ศตวรรษก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศักราชที่ 2 ก็จริง แต่นักวิชาการเองยังคงไม่ปักใจเชื่อมากนัก อย่างไรก็ตามเอกสารเหล่านี้เผยข้อมูลที่มีค่ายิ่ง ไม่ว่าจะเป็นบนสวดมนต์, ปฏิทิน และชีวิตบนผืนทะเลทรายของชาวยิวในทะเลทรายจูเดีย
ม้วนหนังสือเหล่านี้ถูกเขียนด้วยภาษาฮีบรูและโค้ดลับอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีการค้นพบม้วนหนังสือภาษาแอราเมอิกและภาษากรีกด้วย ส่วนใหญ่ถูกจารึกลงบนแผ่นกระดาษ มีบ้างที่เขียนด้วยกระดาษปาปิรุส ในจำนวนนี้มีอยู่ชิ้นหนึ่งที่เขียนลงบนทองแดง ซึ่งนักโบราณคดีได้ใช้เทคโนโลยีการสแกนเข้ามาช่วยเพื่อรักษาเอกสารโบราณเหล่านี้ไว้ และ ณ ตอนนี้มีม้วนหนังสือที่มีชื่อเสียงเหลือเพียงม้วนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ถูกแปลออกมา คาดว่าเมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว เราจะได้รับทราบข้อมูลใหม่ที่ถูกส่งต่อมาจากผู้คนในยุคโบราณ ต้องติดตามกันต่อไปว่าเนื้อหาภายในนั้นจะเป็นอย่างไร
เรื่อง Elaina Zachos
อ่านเพิ่มเติม : ท่องเที่ยวไปในย่านอันเป็นเอกลักษณ์ของนครเยรูซาเลม