บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ “ส่งความรู้สร้างความสุข” เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ของความร่วมมือระหว่าง บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐคือ กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เล็งเห็นความสำคัญของการอ่าน เพราะการอ่านถือเป็นรากฐานที่สำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของเด็กและเยาวชน
ช่วงเวลาแห่งปีใหม่ หลายคนชอบตั้งเป้าหมายประจำปี โดยหนึ่งในสิบอันดับที่มีคนตั้งเป้าหมายมากที่สุด คือ การอ่านหนังสือให้ได้ตามจำนวนที่ตั้งใจไว้
หนังสือที่มีคุณภาพสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อผู้อ่านหลายประการ เช่น เปิดทัศนคติและมุมมองใหม่ๆ เพิ่มความเชี่ยวชาญในสายอาชีพ และช่วยลดความขุ่นข้องหมองใจ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะเกิดขึ้นได้ ตัวของผู้อ่านจำเป็นต้องสร้างรูปแบบและนิสัยการอ่านให้กับตัวเอง
นิสัยรักการอ่านเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังและบ่มเพาะ มีวิธีปฏิบัติหลายวิธีเพื่อการอ่านหนังสือ ในช่วงแรก เราควรมีความตั้งใจที่อยากปรับเปลี่ยน ปรับประยุกต์วิธีการที่เหมาะสมสำหรับตนเอง และเริ่มจากหนังสือที่ตนเองมีความสนใจ
เหล่านี้ คือวิธีที่จะช่วยให้คุณสร้างนิสัยรักการอ่าน
การกำหนดเป้าหมายก่อนการเริ่มต้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยให้เรามีทิศทางที่ชัดเจน เช่น ภายในหนึ่งเดือนจะอ่านหนังสือให้จบหนึ่งเล่ม การพัฒนาและบ่มเพาะนิสัยการอ่านอาจไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องเคร่งเครียดเหมือนเป้าหมายอื่นๆ การกำหนดเป้าหมายในการสร้างนิสัยรักการอ่านควรพิจารณาจากตารางในชีวิตประจำวันที่เราทำทุกวัน แต่ละคนมีปัจจัยในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้เป้าหมายของเราสนุกแล้วเราจะเพลิดเพลินใจเมื่อทำมันสำเร็จ
ลองเลือกหนังสือที่คุณอยากอ่านมาทั้งหมด แล้วประเมินความเร็วในการอ่าน ความยาวของหนังสือ และเวลาในการอ่านแต่ละวัน จะช่วยให้คุณเลือกวางแผนได้ว่า ในหนึ่งปีคุณสามารถอ่านหนังสือได้ประมาณกี่เล่ม แล้วนำรายชื่อหนังสือเหล่านั้นมาลงตารางในแต่ละเดือน เป็นเป้าหมายระยะสั้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายใหญ่ตอนปลายปี และช่วยให้คุณไม่หลุดหรือวอกแวกเมื่อเจอหนังสือเล่มใหม่ผ่านเข้ามาระหว่างเดือน
การสร้างพฤติกรรมหรือนิสัยจำเป็นต้องอาศัยความสม่ำเสมอและทำซ้ำ ลองพิจารณาจำนวนหน้าที่คุณอ่านได้ในแต่ละวันจากกิจวัตรประจำวันของคุณ กระบวนการนี้ช่วยให้คุณมีเป้าหมายประจำวัน และทำอย่างสม่ำเสมอแล้วการอ่านหนังสือจะกลายมาเป็นหนึ่งในรูปแบบการดำเนินชีวิตของคุณ
กำหนดช่วงเวลาการอ่านที่แน่นอนในแต่ละวัน เช่น หลังอาบน้ำตอนเย็น ก่อนนอน หรือระหว่างพักกลางวัน กำจัดสิ่งรบกวนอื่นๆ เช่น ปิดทีวี ปิดเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ พยายามอ่านในช่วงเวลาที่คุณตั้งไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที แล้วคุณจะพบว่า เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะอ่านหนังสือได้นานขึ้น และกลายมาเป็นนิสัยการอ่านของคุณโดยไม่รู้ตัว
ออกไปหาแรงสนับสนุนด้วยการพบปะกับกลุ่มหรือคลับที่สนใจการอ่าน หรือแบ่งปันเรื่องราวจากหนังสือที่คุณอ่านให้กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม การกระทำเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากสร้างพฤติกรรมการอ่านอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้พบกับมุมมองใหม่ๆ ในการพัฒนาการอ่านของแต่ละคน
ในการพัฒนานิสัยรักการอ่าน เราต้องรูัจักตัวเองก่อนว่า นิสัยการอ่านในปัจจุบันของเราเป็นอย่างไร เช่น คุณอ่านรอบเดียวจนจบทั้งเล่ม หรือคุณอ่านและพักไปหาข้อมูลในจุดที่คุณสนใจ หรือปัจจัยเรื่องเวลาเอื้อให้คุณอ่านได้มากน้อยเท่าไรในแต่ละวัน ปัจจัยเหล่านี้แตกต่างกันออกไปตามกิจกรรมของบุคคลนั้น เมื่อคุณทราบเรื่องเหล่านี้ คุณก็สามารถวางแผนการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ