เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมือกับ Alinghi Red Bull Racing TUDOR ได้เปิดตัว Pelagos FXD รุ่นใหม่ล่าสุดถึงสองรุ่น เปรียบเสมือนตัวแทนของจิตวิญญาณที่กล้าแกร่งซึ่งผู้เข้าร่วมการแข่งขันเรือ ยอชต์ ที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์
สำหรับรุ่น Pelagos FXD “Alinghi Red Bull Racing Edition” นั้น มาพร้อมคุณลักษณะหลายประการที่ TUDOR นำเสนอ เป็นครั้งแรก มันจึงเป็นมากกว่าแค่นาฬิกาธรรมดา ความร่วมมือระยะยาวระหว่าง TUDOR และ Alinghi Red Bull Racing นั้นเริ่มต้นขึ้นในปี 2022 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ TUDOR ก้าวเข้ามามีบทบาทในโลกของการแข่งเรือยอชต์สุดท้าทายนี้ สำหรับกีฬาที่เก่าแก่หลายชั่วศตวรรษนี้ ชัยชนะนั้นมาจากการผสานรวมจิตวิญญาณอันกล้าแกร่งและไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ เข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย นาฬิกาได้ถือกำเนิดมาจากหลักปรัชญาเช่นเดียวกันนี้เอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ TUDOR ที่ผสานวัสดุคาร์บอนคอมโพสิตสุดไฮเทค เข้ากับไทเทเนียมและสเตนเลสสตีล ซึ่งเหมือนกับเรือยอชต์ไฮโดรฟอยล์ AC75 (America’s Cup 75) ที่ใช้ในการแข่งขัน และยังเป็นครั้งแรกที่ TUDOR ได้ผสานคาลิเบอร์โครโนกราฟเข้ากับตัวเรือน
ที่สลักสายนาฬิกาเป็นแบบ Fixed
จิตวิญญาณของความกล้าแกร่งและความสร้างสรรค์ของ TUDOR ถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านนาฬิกา Pelagos FXD และ Pelagos FXD Chrono ใหม่ทั้งสองรุ่น นาฬิการุ่นนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของ TUDOR และ Alinghi Red Bull Racing ซึ่งเป็นสองแบรนด์ที่แตกต่างแต่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการผลักดันขีดจำกัดแบบเดิมๆ
จุดเด่นสำคัญ
จุดเด่นสำคัญของเรือ
Alinghi Red Bull Racing AC75 คือตัวแทนของสุดยอดแห่งผลงานวิศวกรรมศาสตร์ทางทะเล ซึ่งนำเอาคาร์บอนที่มีองค์ประกอบเอกสิทธิ์เฉพาะมาผสานรวมกับไทเทเนียมและสเตนเลสสตีล เพื่อสร้างเป็นลำเรือที่พุ่งทะยานไปบนผิวน้ำด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ความมุ่งมั่นด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิคแบบเดียวกันนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้ในรุ่น Pelagos FXD เช่นกัน โดยใช้คาร์บอนคอมโพสิตสุดล้ำผสมในตัวเรือนและขอบหน้าปัดซึ่งเป็นวัสดุที่ทั้งเบาและมีความทนทานเป็นเลิศ ผสานกับไทเทเนียมสำหรับขอบหน้าปัด, เม็ดมะยม และปุ่มกดแบบทำงานโดยตรง และผสานกับสเตนเลสสตีล 316L สำหรับฝาหลังตัวเรือนและกรอบใส่กลไกลาน นาฬิกาทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับดีไซน์ตัวเรือน FXD ที่กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร โดดเด่นด้วยสลักสายแบบ Fixed ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับนักจู่โจมทางน้ำของกองทัพเรือฝรั่งเศส พร้อมด้วยขอบตัวเรือน
แบบหมุนได้สองทิศทาง 120 ร่อง ซึ่งใช้วัสดุเรืองแสง Super-LumiNova® เกรด X1 ของสวิสที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 60% หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับเกรดมาตรฐาน ตัวเลขที่ขอบตัวเรือนไล่ลำดับจาก 60 ไปถึง 0 เพื่อให้สามารถจับเวลาถอยหลังได้โดยง่ายในช่วงเวลาสำคัญก่อนที่เรือจะออกตัวในการแข่งขัน คุณลักษณะดังกล่าวข้างต้น
ประกอบกันขึ้นเป็นนาฬิกาสปอร์ตแบบกลไกสุดไฮเทคพร้อมสลักโลโก้ Alinghi Red Bull Racing ไว้ที่ฝาหลังตัวเรือนเพื่อเน้นถึงความร่วมมือให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
หน้าปัดที่พร้อมประลองความเร็ว
หน้าปัดผิวด้านในเฉดสีเดียวกันกับลำเรือของ AC75 ให้ความสำคัญกับการอ่านเวลาได้ง่ายเป็นอันดับแรก หน้าปัดทั้งสองรุ่นมาในสีน้ำเงิน Alinghi Red Bull Racing Team Blue พร้อมเข็มวินาทีปลายสีแดง และสำหรับรุ่นโครโนกราฟยังตกแต่งด้วยสีแดงรอบตัวจับเวลาเพื่อสื่อถึงความงดงามของ AC75 ที่มีแถบสีแดงบนลำเรืออันเป็นเอกลักษณ์ ที่มุม 45 องศาของด้านในขอบหน้าปัดระหว่างตัวเลข 10 และ 2 มีคำว่า “Alinghi Red Bull Racing” ที่สอดประสานไปตามส่วนโค้งของหน้าปัด
ได้อย่างลงตัว เครื่องหมายตำแหน่งนาทีอันเป็นเอกลักษณ์และเข็มนาฬิกาทรง “เกล็ดหิมะ” ซึ่งออกแบบโดย TUDOR มาตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1960 เพื่อให้มีพื้นผิวเรืองแสงกว้างขึ้นและอ่านเวลาได้ง่ายขึ้น ล้วนทำจากเซรามิกคอมโพสิตเรืองแสงเพื่อช่วยให้อ่านเวลาได้ชัดเจนที่สุดแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย
สายผ้าที่พร้อมฝ่าคลื่นลม
สายผ้าแบบชิ้นเดียวนั้นเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ TUDOR ซึ่งในปี 2010 ได้กลายเป็นนาฬิกาแบรนด์แรกที่มอบสายผ้ามาให้พร้อมกับผลิตภัณฑ์ ผ้าดังกล่าวทอขึ้นในฝรั่งเศสด้วยเครื่องทอผ้าแจ็กการ์ดสมัยศตวรรษที่ 19 โดยบริษัท Julien Faure ในแคว้นแซงต์ เอเตียน มีความโดดเด่นในด้านคุณภาพในการผลิต ความทนทาน และความรู้สึกสบายที่ไม่เหมือนใครยามสวมใส่บนข้อมือ สำหรับรุ่น Pelagos FXD นั้น TUDOR ได้ร่วมมือกับ Julien Faure เพื่อรังสรรค์สายที่พัฒนาขึ้นมา
สำหรับการใช้งานเฉพาะทางโดยเฉพาะ โดยผลิตขึ้นจากสายผ้าทอแจ็กการ์ดสี “Team Blue” ขนาด 22 มม. พร้อมแถบคาดสีแดง และหัวเข็มขัดรูปตัว “D” ทำจากไทเทเนียม และระบบยึดสายในตัว นอกจากนี้ยังสามารถปรับให้เข้ากับข้อมือขนาดต่างๆ และสวมใส่สบายอย่างยิ่ง
คาลิเบอร์ MT5602 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง
คาลิเบอร์ MT5602 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง ซึ่งเป็นขุมพลังของ Pelagos FXD มีฟังก์ชันแสดงชั่วโมง นาที และวินาที โดยมาพร้อมรูปลักษณ์และผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของคาลิเบอร์ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของ TUDOR โรเตอร์ทำจากทังสเตนแบบโมโนบล็อกที่มีลวดลายฉลุ แผ่นเชื่อมและแท่นเครื่องมีพื้นผิวแบบพ่นทรายสลับกับขัดเงา
และตกแต่งด้านบนด้วยเลเซอร์
โครงสร้างนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความทนทานและความเที่ยงตรง ด้วยเหตุนี้ บาลานซ์วีลในตัวนาฬิกาจึงอยู่บนแผ่นเชื่อมอันมั่นคงที่มีจุดยึดสองจุด ด้วยระบบนี้พร้อมกับซิลิคอนแฮร์สปริงแบบไร้แม่เหล็ก จึงทำให้คาลิเบอร์ MT5602 ที่พัฒนาขึ้นในโรงงานของตนเอง ทั้งผ่านการรับรองโดย COSC และสามารถทำงานได้เหนือกว่าข้อกำหนดของมาตรฐาน
ดังกล่าว นั่นก็คืออยู่ในช่วงเกณฑ์การยอมรับที่ 6 วินาที (-2/+4) ต่อวัน และได้ทำการทดสอบกับนาฬิกาที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์ทุกเรือนเสมอ
อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นก็คือพลังงานสำรองของคาลิเบอร์ MT5602 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น “ไม่หยุดสุดสัปดาห์” จึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถถอดนาฬิกาในคืนวันศุกร์และสวมกลับคืนอีกครั้งตอนเช้าวันจันทร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องไขลานหรือตั้งเวลาใหม่ แม้ผู้สวมใส่จะหยุดพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ แต่นาฬิกาเรือนนี้จะไม่หยุดทำงาน
คาลิเบอร์โครโนกราฟ MT5813 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง
คาลิเบอร์ MT5813 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง ซึ่งเป็นขุมพลังของ FXD Chrono มีฟังก์ชันแสดงชั่วโมง นาที วินาที การจับเวลา และวันที่ อีกทั้งยังมีผิวสัมผัสแบบด้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคาลิเบอร์ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของ TUDOR พร้อมด้วยโรเตอร์ที่มีลวดลายฉลุทำจากทังสเตนแบบโมโนบล็อกอันเป็นเอกลักษณ์
ด้วยพลังงานสำรอง 70 ชั่วโมงที่ “ไม่หยุดสุดสัปดาห์” พร้อมด้วยสปริงซิลิคอนเพิ่มสมดุล โครโนกราฟคาลิเบอร์ MT5813 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนี้จึงเป็นโครโนมิเตอร์ที่ผ่านการรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงอย่างเป็นทางการของสวิตเซอร์แลนด์ (COSC) ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นยิ่งกว่ามาตรฐานที่กำหนดโดยสถาบันอิสระแห่งนี้ตามเกณฑ์การคลาดเคลื่อนที่ -2 และ +4 วินาทีต่อวัน และได้ทำการทดสอบกับนาฬิกาโครโนกราฟที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์ทุกเรือน กลไกลานสมรรถนะสูงซึ่งรังสรรค์ขึ้นตามขนบธรรมเนียมที่แท้จริงในการผลิตนาฬิกา พร้อมกลไกคอลัมน์วีลและคลัตช์แนวตั้ง นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมความทนทานและความน่าเชื่อถืออันยอดเยี่ยมเพื่อคงไว้ซึ่งปรัชญาแห่งคุณภาพของ TUDOR พร้อมรับประกันประสิทธิภาพด้วยการทดสอบระดับสูงสุดในรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์ TUDOR ทุกรุ่น
กลไกลานผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง ซึ่งพัฒนามาจากคาลิเบอร์โครโนกราฟ Breitling 01 พร้อมระบบควบคุมภายในที่มีความแม่นยำสูงที่ TUDOR ได้พัฒนาขึ้น รวมถึงผิวสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ คือผลลัพธ์แห่งความร่วมมือที่ยาวนานระหว่างทั้งสองแบรนด์