ผลงานเข้ารอบ 10 ภาพเล่าเรื่อง Season 10 : “ประมงพื้นบ้านกับความอุดมสมบูรณ์ที่หายไป”
ผลงานจากผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย โครงการประกวดสารคดีภาพถ่าย National Geographic Thailand Photography Contest 2025 Season 10 “ประมงพื้นบ้านกับความอุดมสมบูรณ์ที่หายไป” ผลงานโดยคุณ เลอสม ล่วงพ้น
แนวคิดสารคดี
หากกล่าวถึง จังหวัดระยอง ก็ต้องนึกถึง ทะเล อาหารทะเล ผลไม้ และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จังหวัดระยองที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงสุดในประเทศไทย
เมื่อโครงการนิคมอุตสาหกรรมเติบโตขึ้นและมีการขยายตัวลงไปในพื้นที่ของทะเล ในทะเลซึ่งเป็นบ้านและแหล่งหากินของสัตว์น้ำนานาชนิด เมื่อระบบนิเวศเดิมจึงเสียสมดุล สัตว์น้ำใกล้ชายฝั่งมีจำนวนลดลง ซึงเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้าน ส่งผลต่อการดำรงอยู่ของชาวประมงพื้นบ้านต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ต้องออกไปหาแหล่งสัตว์น้ำที่ไกลขึ้นทำให้จ่ายค่าน้ำมันเรือเพิ่มขึ้น หรือ ต้องปรับตัวทำการเพาะเลี้ยงหอยแบบแพใช้เชือกหย่อนหลายเส้นที่แขวนไว้ใต้แพใกล้ชายฝั่ง
การพัฒนาของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นแม้มันจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความลำบากให้กับชาวประมงพื้นบ้านจำนวนไม่น้อย แม้ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ยังไม่เพียงพอกับวิถีชีวิตของพวกเขาที่ต้องเปลี่ยนไป
วิถีชีวิตของกลุ่มประมงพื้นบ้านจังหวัดระยอง ณ อ่าวจอดเรือของกลุ่ม ซึ่งต้องอยู่ร่วมกับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เรือเล็ก ของกลุ่มประมงพื้นบ้าน ต้องออกไปไกลชายฝั่งมากขึ้น เนื่องจากแหล่งสัตว์น้ำใกล้ๆชายฝั่งมีจำนวนลดลง ผลจากการขยายพื้นที่ลงไปในทะเลของโรงงานอุตสาหกรรมความยากลำบากในการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้หลายรายเลิกประกอบอาชีพนี้ไป ต่อไปอาจเหลือแค่กิจกรรมตกปลาใกล้ชายฝั่งเพื่อความสนุก ก็เป็นได้การปรับตัวของชาวประมงพื้นบ้านโดยทำการเพาะเลี้ยงหอยแบบแพใช้เชือกหย่อน หลายเส้นที่แขวนไว้ใต้แพใกล้ชายฝั่ง โดยอาศัยโรงงานอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นบังคลื่นลมชาวประมงพื้นบ้าน ที่ยังคงประกอบอาชีพนี้อยู่ เพราะเป็นอาชีพที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นและเพื่อชีวิตของรุ่นต่อไปที่ดีขึ้นระบบนิเวศเดิมเสียสมดุล สัตว์น้ำบางชนิดมีจำนวนลดลง หรือค่อยๆ หายไป ซึ่งสัตว์น้ำเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้ชาวประมง การหายไปของสัตว์น้ำจึงส่งผลต่อการดำรงอยู่ของชาวประมงโดยตรงวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบานที่ต้องปรับตัวเข้ากับทุกๆการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยอาศัยความชำนาญของอาชีพเนื่องจากชาวประมงพื้นบ้านต้องออกไปไกลชายฝั่งมากขึ้น ทำให้ใช้เวลามากขึ้น กว่าจะไปวางอวนในช่วงเช้าแล้วไปกู้กลับในตอนเย็น ซึ่งต้องเหนื่อยมากขึ้น เสียเวลามากขึ้นและต้นทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไม่คุ้มค่าในการประกอบอาชีพนี้เหมือนแต่ก่อนการขยายตัวของอุตสาหรรมที่ต้องถมทะเลทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศไปจากเดิม จึงเกิดการกัดเซาะชายหาดมากขี้น เกิดการหาดพัง-ทะเลแหว่ง และทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลวิถีชีวิตชาวประมงที่อยู่มาก่อน ซึ่งจำเป็นปรับตัวเป็นอย่างมากที่จะอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างแบบไม่มีทางหวนกลับ
© COPYRIGHT 2025 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.