9 สถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

9 สถาปัตยกรรม ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

สถาปนิกมีธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ หลักฐานเหล่านี้มองเห็นได้ผ่านหลายชั่วอายุ ตั้งแต่ สถาปัตยกรรม จากยุคกรีกโบราณสู่ยุคโรมัน มาจนถึงผลงานแห่งศตวรรษที่ 20 ของ Frank Lloyd Wright สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารให้กลมกลืนไปกับทิวทัศน์ในธรรมชาติ

เทคโนโลยีใหม่ๆ มีบทบาทช่วยให้บรรดาสถาปนิกสามารถสร้างสรรค์โครงสร้างอันซับซ้อนตามธรรมชาติได้ ด้วยวัสดุและการก่อสร้างทันสมัย ลองชมภาพถ่ายสถานที่เหล่านี้ตั้งแต่วัดดอกบัวในอินเดีย ไปจนถึง สะพานเกลียวฮีลิกซ์แล้วจะเห็นว่าธรรมชาติมีส่วนช่วยงานวิศวกรรมและการออกแบบอย่างไร ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติไปกับงานสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งเหล่านี้

สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง : กรุงปักกิ่ง

สนามกีฬาแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Herzog & de Meuron บริษัท สถาปัตยกรรม สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อใช้สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 2008 สนามกีฬามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “รังนก” ในช่วงก่อนที่สนามจะถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ พื้นที่ภายใน หลังคาและบันไดทั้งหมดถูกออกแบบให้อยู่ในโครงสร้างซับซ้อนภายนอกที่เลียนแบบมาจากรังของนก พื้นที่ว่างระหว่างโครงสร้างถูกเติมเต็มด้วยวัสดุโปร่งแสงแบบเดียวกันกับที่นกใช้วัสดุต่างๆ เติมช่องว่างภายในรัง สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่งถูกนำมาใช้จัดคอนเสิร์ต และงานอื่นๆ อีกมากมายซึ่งในปี 2022 นี้สนามจะถูกนำมาใช้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวอีกครั้ง

วัดดอกบัว : กรุงนิวเดลี

ตามคัมภีร์ของศาสนาบาไฮ สถานที่บูชาทุกแห่งต้องประกอบด้วยด้านจำนวน 9 ด้าน ปกติแล้วสถานที่บูชาของพวกเขามักออกแบบเป็นลักษณะโดม แต่สำหรับวัดของศาสนาบาไฮในหมู่บ้าน Bahapur ของกรุงนิวเดลีมีลักษณะที่ต่างออกไปอาคารได้แรงบันดาลจในการออกแบบมาจากดอกบัว สถาปนิกผู้ออกแบบนาม Fariborz Sahba ออกแบบให้ตัวอาคารหลังนี้เกิดขึ้นจากกลีบของดอกบัวที่นำมาประกอบกันจำนวน 27 กลีบ วัสดุในการก่อสร้างเป็นหินอ่อนที่ได้มาจากภูเขา Penteli ในกรีซ วัสดุเดียวกับที่ใช้ในการก่อสร้างวิหารพาร์เธนอน ตัววัดมีประตู 9 บานตามความเชื่อทางศาสนา เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1986 ซึ่งห้องโถงกลางมีขนาดใหญ่สามารถรองรับผู้แสวงบุญจำนวน 2,500 คน

อะโตเมียม : กรุงบรัสเซลส์

เริ่มก่อสร้างในปี 1958 สำหรับงานเอ็กซ์โป สิ่งก่อสร้างรูปทรงอันโดดเด่นที่ประกอบด้วยทรงกลมจำนวน 9 ลูกที่เชื่อมต่อกันด้วยท่อนี้มีความสูง 335 ฟุต Andre Waterkeyn วิศวกรและ Jean Polak สถาปนิกตั้งใจสร้างอะโตเมียมขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ภายในประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์และร้านอาหาร รวมถึงจุดชมวิวที่แตกต่างกันไปตามแต่ละทรงกลมของอาคาร

สะพานฮีลิกซ์ : สิงคโปร์

ผลงานของทีมงานจากต่างประเทศ บริษัทสถาปัตยกรรม Architects 61 ในสิงคโปร์ พร้อมด้วยบริษัท Cox Architecture และ Arup จากออสเตรเลีย ร่วมกันออกแบบและสร้างสรรค์สะพานข้ามอ่าวมารีนา เชื่อมระหว่างโรงแรมหรูและแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังเข้ากันกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และการ์เด้นเบย์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากทรงเกลียวของดีเอ็นเอ เริ่มเปิดใช้งานจริงเมื่อปี 2010 ตัวสะพานมีความยาว 919 ฟุต เป็นทางเท้าใหม่ของชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวรวมทั้งยังถูกใช้เป็นจุดชมวิวอันงดงาม นอกเหนือจากการชมวิวจากตึกระฟ้า

(อ่านต่อหน้า 2)

ซากราดาฟามีเลีย : บาร์เซโลนา

มหาวิหารแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Antoni Gaudi ผู้ขับเคลื่อนการก่อสร้างนี่ด้วยศรัทธาของเขา มหาวิหารออกแบบโดยแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติและศาสนา แม้ว่าสถาปนิกผู้มีชื่อเสียงรายอื่นๆ รับช่วงต่องานในปี 1883 แต่กว่ามหาวิหารจะแล้วเสร็จก็ล่วงไปถึงปี 2000 ตัววิหารออกแบบตามลำต้นของต้นไม้ ซึ่งเมื่อผู้ศรัทธาเดินเข้ามาภายในจะให้ความรู้สึกราวกับกำลังก้าวเข้ามาในป่าขนาดยักษ์ ตามที่ Gaudi ตั้งใจ

อัลดา เฮดควอเตอร์ : กรุงอาบูดาบี

ตึกระฟ้าทรงกลมหลังนี้สะท้อนแสงระยิบระยับไปทั่วผืนทรายของกรุงอาบูดาบี นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาเพื่อเป็นการยกย่องแก่มรดกทางทะเลของเมือง Marwan Zgheib และทีมสถาปนิกจาก MZ Architects ได้แรงบันดาลใจนการสร้างมาจากเปลือกหอย พวกเขาใช้เส้นทแยงมุมเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับกระจกของอาคารตึกอัลดามีความสูง 360 ฟุต หรือประมาณ 23 ชั้น อาคารตั้งอยู่บนคาบสมุทรและสามารถมองเห็นเด่นแต่ไกล

ไทเป 101 : กรุงไทเป

ด้วยความสูง 1,671 ฟุต ไทเป 101 เคยเป็นอาคารสูที่สุดในโลกเมื่อเปิดใช้งานจริงในปี 2004 สถาปนิก C.Y. Lee ผู้ออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากกระบอกไม้ไผ่ ไทเป 101 แบ่งออกเป็น 8 ส่วน คล้าย 8 ข้อของกระบอกไม้ไผ่ แต่ละส่วนประกอบด้วยชั้นจำนวน 8 ชั้น ซึ่งเลข 8 ถือว่าเป็นเลขนำโชคในความเชื่อของชาวจีน รูปทรงของตึกคล้ายกับเจดีย์ของชาวพุทธและกระจกสีเขียวที่นำมาตกแต่งยิ่งช่วยขับให้อาคารโดดเด่นยิ่งขึ้น

บ้านลูกบาศก์ : รอตเตอร์ดัม

แม้ถูกออกแบบให้มีเหลี่ยมมุมและเส้นตรงชัดเจน แต่ Piet Blom สถาปนิกกล่าวว่าตัวเขาได้แรงบันดาลใจมาจากป่าต้นไม้ ลูกบาศก์สีเหลืองแต่ละลูกถูกก่อสร้างในมุมเอียง 45 องศา และตั้งอยู่บนเสารูปทรง 6 เหลี่ยมที่แทนเป็นลำต้น วิธีการที่จะเข้าบ้านซึ่งตั้งอยู่บนความสูงเทียบเท่ากับตึก 3 ชั้นได้นั้น ต้องเข้าผ่านลำต้น ก็คือเสาตรงกลางบ้านลูกบาศก์เหล่านี้เป็นบ้านพักส่วนตัว แต่บางหลังก็เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้พักค้างคืน ในสถานที่เอียงๆ แบบนี้

30 เซ็นต์แมรีแอกซ์ : กรุงลอนดอน

Norman Foster สถาปนิกไม่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแตงกวา เมื่อเขาออกแบบอาคารนี้ตามที่หลายคนเข้าใจกัน ตัวอาคารมีชื่อเล่นว่าเกอร์คิน (Gherkin) หรือแตงดองตามรูปทรงของตึก ผิวด้านนอกของตึกประกอบด้วยกระจกรูปทรงเพชรจำนวน 2 ชั้น ภายในตึกมีปล่องขนาดใหญ่ใช้หมุนเวียนอากาศ แบบเดียวกับที่ฟองน้ำกระเช้าดอกไม้วีนัสใช้ในการกรองน้ำ ตัวอาคารความสูง 590 ฟุตนี้ เคยตกเป็นข้อพิพาทจากความสมัยใหม่ของมันที่ขัดแย้งกับบ้านสไตล์จอร์เจียในลอนดอน อย่างไรก็ตามปัจจุบันอาคารหลังนี้กลายตึกระฟ้าตึกสำคัญของเมืองไปแล้ว

โดย เมเรดิธ เบทธัน

อ่านเพิ่มเติม : รำลึกสี่ทศวรรษ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ชุดภาพถ่ายเมืองรีสอร์ตร้างในสหรัฐอเมริกา

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.