กล้องดิจิตอล – โลกของเรากําลังออกเดินทางอีกครั้ง ความปรารถนาที่จะจับภาพช่วงเวลาที่มีค่านั้นความแรงกล้ายิ่งกว่าเดิม ภาพถ่ายจากการเดินทางที่ทรงพลังไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราว แต่ยังย้ำเตือนเราถึงความมหัศจรรย์ที่รออยู่ตามเส้นทางถนน
ด้วยความคิดนั้น เราได้ปรึกษาทีมวิศวกรภาพถ่ายของ National Geographic เพื่อบอกเราว่า กล้องดิจิตอล ขนาดพกพารุ่นใดบ้างที่พวกเขาแนะนําสําหรับนักเดินทาง โดยพวกเขาออกแบบและสร้างอุปกรณ์ที่จำเพาะเจาะจงสําหรับช่างภาพอาชีพ และทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ใช้งานกล้องถ่ายภาพ สําหรับรุ่นกล้องแนะนำในปีนี้ นี่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
กล้อง Fujifilm X-S20 รุ่นนี้รวมคุณสมบัติหลายอย่างที่มีในรุ่นก่อนหน้านี้คือ X-S10 แต่มีราคาถูกกว่า และมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น
X-S20 ให้คุณได้รับสิ่งที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าตามรุ่น X-S10 ซึ่งเป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยมอีกรุ่นหนึ่งที่ปรากฏในลิสต์กล้องถ่ายภาพแนะนำของเราในอดีต โดยกล้องซีรีส์ Fuji X มีคุณสมบัติชั้นนําที่หลากหลาย รูปทรงที่มีสไตล์โดดเด่น และราคาย่อมเยา
X-S20 มีประสิทธิภาพดีด้วยเซนเซอร์กล้องขนาด 26 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย
เคล็ดลับ: กล้องตัวนี้ใช้งานเหมาะที่สุดกับเลนส์ XF 16-80mm f/4 OIS WR และสําหรับเลนส์ตัวที่สอง ให้ลองเลนส์ XF 27mm f/2.8 R WR ที่ขนาดกะทัดรัดอย่างยิ่ง ซึ่งให้มุมมองใกล้เคียงกับตามนุษย์ที่ 40 มม.
กล้อง Ricoh GR III ปรากฏในลิสต์แนะนำกล้องของเราเป็นครั้งที่ 4 แล้ว เนื่องจากมันบรรจุพลังอํานาจมหาศาลไว้ในขนาดที่ใส่กระเป๋าได้
ด้วยเซนเซอร์ APS-C ขนาด 24 เมกะพิกเซล คุณสมบัติกันสั่น ระบบตรวจจับโฟกัสอัตโนมัติ จอสัมผัสที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และระบบเมนูที่ใช้ง่าย
GR III นั้นทํางานได้ดีทั้งในการถ่ายภาพแบบแตะแล้วถ่าย (point-and-shoot) และการถ่ายภาพแบบควบคุมเอง (Manual)
เคล็ดลับ: หากระยะโฟกัส 28 มม. กว้างเกินไป ลอง GR IIIx ที่ออกในปี 2021 เพราะมันเหมือนกับรุ่น GR III ยกเว้นเลนส์ซึ่งมีมุมมองแคบกว่าด้วยเลนส์ 40 มม. f/2.8 เทียบเท่า
กล้อง Fujifilm XT ซีรีส์นี้ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ กล้องซีรีส์นี้ผสมผสานปุ่มหมุนแบบวินเทจกับการควบคุมแบบมืออาชีพแบบสมัยใหม่ ทั้งตัวกล้องที่แข็งแรง การป้องกันน้ำ ประสิทธิภาพโฟกัสอัติโนมัติ และความเร็วที่ยอดเยี่ยม
รุ่น X-T5 ยังคงเป็นกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการผสานกันระหว่างคุณภาพของภาพ ระบบโฟกัสอัตโนมัติ ขนาด ตัวเลือกของเลนส์ การป้องกันน้ำ และอายุแบตเตอรี่
รุ่น X-T5 มีขนาดเล็กกว่า X-T4 เล็กน้อย แต่มันมีเซนเซอร์ขนาด 40 เมกะพิกเซล ที่มาจากรุ่น X-H2 ซึ่งเป็นหนึ่งในเซนเซอร์ APS-C ที่มีความละเอียดสูงสุดในตลาด ทําให้ X-T5 ยังคงเป็นกล้องที่ดีที่สุดสําหรับการเดินทางอีกครั้งในปีนี้
เคล็ดลับ: เราชื่นชอบเลนส์ไพร์มขนาดกะทัดรัดของ Fujifilm สําหรับการเดินทาง รวมถึงเลนส์ 27mm f/2.8 R WR และ 23mm f/2 R WR
กล้อง Leica Q3 เป็นกล้องที่แพงที่สุดในลิสต์นี้ แต่ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุด ทีมวิศวกรภาพภ่ายของ National Geographic กล่าว
ด้วยราคา 5,995 เหรียญสหรัฐ (ราว 214,000 บาท) กล้องตัวนี้ถือว่าแพง โดยในตลาดกล้องมิเรอร์เรสแบบฟูลเฟรม มีเพียงรุ่นเดียวที่ขายแพงเกิน 6,000 เหรียญสหรัฐ นั่นคือ Sony A1 ซึ่งเป็นกล้อง 35 มม. ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก
เงินจํานวนมหาศาลนี้ให้คุณบ้าง? นั่นคือประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุดสําหรับการถ่ายภาพการเดินทาง ในความเห็นของผู้เขียนรายหนึ่ง ระบบการควบคุมที่งดงามและรูปโฉมที่น่าทึ่งทําให้กล้องตัวนี้สามารถใช้งานได้อย่างน่าชื่นชม
คุณภาพของภาพอันไร้เทียมทานของกล้องรุ่นนี้ มาจากไฟล์ RAW ขนาดมหาศาลอย่าง 61 เมกะพิกเซล ทำให้มีพื้นที่ครอปภาพได้อย่างอิสระ และกล้องตัวนี้มีการป้องกันน้ำและมีตัวกล้องที่แข็งแรงทนทานอย่างยิ่ง
เคล็ดลับ: นอกจากนี้ เราขอแนะนํากล้อง Leica Q2 หรือ Q2 Monochrom ซึ่งมีเซนเซอร์ขาวดําเท่านั้น
กล้อง Nikon Zf เป็นตัวเลือกแรกของเราสําหรับหมวดหมู่นี้ ด้วยเซนเซอร์ที่แข็งแกร่ง จอภาพหลัง (rear screen) ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูงเหมือนกับรุ่น Z6II และตัวกล้องที่มีสไตล์แบบคลาสสิก
กล้องตัวนี้ยังมีเซนเซอร์กันสั่นแบบ 8 สต็อป (8-stops Image Stabilisation) และชิปประมวลผล EXPEED 7 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของ Nikon ทําให้กล้องตัวนี้มีประสิทธิภาพด้าน AF และ VR ยอดเยี่ยม
คุณสมบัติป้องกันน้ำ ตัวกล้องที่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอย และปุ่มหมุนกลไกแบบแบรสสลัก แสดงให้เห็นว่ากล้องรุ่นนี้ใส่ใจกับประสบการณ์ผู้ใช้งานอย่างมาก ทำให้กล้องตัวนี้ใช้งานได้สนุกที่สุดในการทดสอบของเรา
Zf มีเทคโนโลยีเฉพาะตัว (ที่มีเฉพาะรุ่นนี้) ที่ทําให้คุณเลื่อนจุดโฟกัสด้วยหน้าจอสัมผัสในขณะใช้ช่องมองภาพ และถ่ายภาพด้วยพิกเซลชิฟต์เพื่อสร้างภาพขนาด 96 เมกะพิกเซล และการปรับจุดโฟกัสกันสั่นของ Zf จะปรับจุดโฟกัสกันสั่นตามที่เราต้องการแทนการปรับที่กลางเซนเซอร์ และมีโหมดขาวดําให้โดยเฉพาะ
เคล็ดลับ: หากซื้อเลนส์ได้เพียงตัวเดียว เราขอแนะนำ 24-120mm f/4 หรือจับคู่กับเลนส์ไพรมส์ขนาดกะทัดรัดของ Nikon เช่น 40mm f/2 หรือ 28mm f/2.8
กล้อง OM System OM-1 สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 50 เฟรมต่อวินาที – ซึ่งเร็วกว่ากล้องวิดีโอส่วนใหญ่ ทําให้เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสําหรับถ่ายภาพสัตว์ป่า
เช่นเดียวกับกล้องรุ่นเรือธงจากแบรนด์หลักอื่นๆ (Sony A1, Nikon Z9, Canon R3) กล้อง OM-1 มีคุณสมบัติมากมาย และมีความเร็วสูงมาก ด้วยโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง OM-1 สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 50 เฟรมต่อวินาที – เร็วกว่ากล้องวิดีโอส่วนใหญ่ มีระบบตรวจจับวัตถุที่โดดเด่น สามารถติดตามสัตว์หลากหลายชนิดในสถานการณ์ความเร็วสูง
กล้องรุ่น OM-1 ของ OM System มีเซนเซอร์ Micro Four Thirds (MFT) เฉพาะตัว ซึ่งหมายความว่าอัตราส่วนภาพคือ 4:3 ถือว่าค่อนข้างเล็กประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดกล้องแบบฟูลเฟรม
กล้องยังมีโหมดคํานวณหลายอย่าง รวมถึงโหมดถ่ายภาพด้วยมือ (Manual) แบบความละเอียดสูง (สร้างไฟล์ขนาด 50 เมกะพิกเซลจากชุดภาพ 16 เฟรม) และฟีลเตอร์แบบ Live-ND ซึ่งจําลองการทำงานของ ND-filter ทําให้สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำในสภาพแสงสว่างเพื่อจับภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
นอกจากนี้ กล้องรุ่นนี้มีคุณสมบัติกันน้ำที่ดีที่สุดในบรรดากล้องในลิสต์นี้ และยังทนทานแม้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงที่สุดอีกด้วย
เคล็ดลับ: เลนส์ที่ดีที่สุดสําหรับกล้องตัวนี้อยู่ในระดับเลนส์สำหรับมืออาชีพ ซึ่งมีคุณภาพการสร้างที่ยอดเยี่ยม มักมีฮูดเลนส์ (lens hoods) ในตัว และมีวงแหวนโฟกัส/ซูมที่ลื่น สําหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติและนักถ่ายภาพนก เลนส์ที่ดีที่สุดคือ 150-400mm F4.5 TC1.25x IS PRO ส่วนเลนส์โดยรวมที่ดีที่สุดสําหรับรุ่นนี้คือ 12-100mm f/4 IS PRO (24-200 มม.)
กล้อง Canon EOS R50 มีตัวกล้องที่จับถนัดมือ และมีระบบหน้าจอสัมผัสที่ดีที่สุด ทําให้เป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับมือใหม่
Canon ยังคงขยายผลิตภัณฑ์ของตัวกล้องไปยังมิเรอร์เลส APS-C โดย R50 เป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับมือใหม่หรือใครก็ตามที่ต้องการอัพเกรดจากการถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ
มันมีขนาดกะทัดรัดและจับถนัดมือ มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ติดตั้งในตัว และแฟลชป็อปอัปเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีระบบสัมผัสหน้าจอที่ดีที่สุดในบรรดากล้อง เมนูกล้องที่ใช้งานง่าย และแผงควบคุมสัมผัสเพื่อปรับการตั้งค่าขณะถ่ายภาพ
จุดแข็งที่สุดของเลนส์ 18-45 มม. ที่มาพร้อม R50 คือขนาด แต่จุดอ่อนที่สุดของไลน์กล้อง APS-C รุ่นนี้คือตัวเลือกเลนส์ที่มีจํากัด
Nikon เปิดตัว Z30 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 ในไลน์กล้องมิเรอร์เลสแบบ APS-C การไม่มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ทําให้มีขนาดกะทัดรัด ง่ายต่อการพกพาและสนุกสนานในการใช้งาน ทว่าก็ยังมีคุณสมบัติยอดเยี่ยม และยังมีตัวเลือกเลนส์ราคาประหยัดจากเลนส์ค่ายอื่นๆ อีกมากมาย
สําหรับกล้องระดับเริ่มต้น Z30 มีข้อมูลเชิงลึกที่น่าประทับใจ รวมถึงประสิทธิภาพการถ่ายภาพแสงน้อยที่ยอดเยี่ยม กลไกชัตเตอร์ที่สามารถถ่ายภาพ 11 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบติดตามโฟกัสอัตโนมัติ ให้ตัวเลือกบันทึกภาพเป็นไฟล์ RAW คุณภาพสูง และความสามารถโฟกัสอัตโนมัติที่แข็งแกร่ง
เคล็ดลับ: กล้องรุ่นนี้เข้าคู่กับเลนส์ DX 16-50mm f/3.5-6.3 VR ขนาดกะทัดรัดของ Nikon ได้อย่างลงตัว ใช้งานเพื่อถ่ายภาพได้อย่างสนุกจากการเพิ่มุมมองความลึกของภาพ และประสิทธิภาพการถ่ายภาพแสงน้อยที่ดีขึ้น และเราขอแนะนําเลนส์ไพร์ม DX 24mm f/1.7 ซึ่งเป็นเลนส์ไพรม์กะทัดรัดที่คุณอาจต้องใส่กับ Z30 ของคุณตลอดเวลา
กล้องในซีรี่ย์ RX100 ของ Sony ยังคงเป็นหนึ่งในกล้องอัลตราคอมแพ็กต์ที่มีความอเนกประสงค์ที่สุด RX100VII ยังคงมีคุณสมบัติที่เราเคยยกย่องเอาไว้ ทั้งออโต้โฟกัสแบบเรียลไทม์ของกล้องระดับโปรสำหรับโฟกัสดวงตา/ใบหน้าที่เชื่อถือได้สำหรับคนและสัตว์แบบอัตโนมัติ; การถ่ายภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เกือบจะไม่มีการบิดเบือนของวัตถุที่เคลื่อนไหว โหมดการถ่ายภาพแบบเงียบ และความเร็วชัตเตอร์สูงสำหรับสภาพที่มีแสงสว่าง
ทว่า เลนส์ซูมเทียบเท่า 24-200 มม. ของ RX100VII ยังคงไม่สว่างเท่าที่เราต้องการ แต่ครอบคลุมช่วงกว้าง วิศวกรภาพถ่ายของเรายังคงพิจารณากล้องซีรี่ย์ RX100 เป็นตัวเลือกในกรณีที่ต้องเลือกกล้องเพื่อไปติด “เกาะร้าง”
หมายเหตุ: ในเวอร์ชันถัดไป เราอยากเห็นตัวเชื่อมต่อ USB-C สำหรับการชาร์จภายในกล้องและการถ่ายโอนรูปภาพ อย่างไรก็ตาม โมเดลที่ใช้ระบบเมนูแบบปัจจุบันของ Sony ซึ่งใช้งานได้ง่ายขึ้นและรองรับการควบคุมด้วยการสัมผัสจอก็ถือเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นเช่นกัน
เรื่อง TOM O’BRIEN และ ERIC FLYNN
ภาพ REBECCA HALE