โฮวาร์ด ฮู (Howard Hu) หัวหน้าโครงการยานอวกาศโอไรออน (Orion) ที่เพิ่งปล่อยตัวไปเมื่อวันพุธที่แล้วในโครงการ ‘อาร์ทิมิส 1’ (Artemis I) ได้กล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษอย่างเป็นทางการว่า มนุษย์จะขึ้นไปอยู่ทำงานทางวิทยาศาสตร์และใช้ชีวิตบนดวงจันทร์อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนสิ้นทศวรรษนี้
“แน่นอนว่าในทศวรรษนี้ เราจะมีคนอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้อยู่บนพื้นผิว (ดวงจันทร์) นานแค่ไหน พวกเขาจะมียานโรเวอร์อยู่บนพื้นดิน” ฮูกล่าว “เราจะส่งคนลงไปที่พื้นผิว และพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นพร้อมกับทำงานด้านวิทยาศาสตร์”
โครงการอาร์ทิมิส 1 เป็นโครงการของนาซาพยายามนำมนุษย์กลับไปสู่ดวงจันทร์อีกครั้งหลังห่างหายไปนานกว่า 50 ปี โดยในเที่ยวบินแรกที่เพิ่งปล่อยตัวไปนี้เป็นการทดสอบระบบจรวดใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Space Launch System’ หรือ SLS เป็นหนึ่งในจรวดที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างมา และมียานอวกาศโอไรออนติดตั้งอยู่ส่วนบนสุดของจรวด
ภายในยานมีหุ่นคล้ายมนุษย์ทำหน้าที่บันทึกสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับลูกเรือที่เป็นมนุษย์ในอนาคตเช่นความดัน แรงของการบิน และการสัมผัสกับรังสี นอกจากนี้โอไรออนยังบรรทุกเมล็กพืช รา ยีสต์ และสาหร่ายไว้ในภาชนะที่เรียกว่า ‘การทดลองทางชีวภาพ 1 (Biological Experiment – 1)’ ซึ่งจะช่วยเผยให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตตอบสนองต่อสภาพที่รุนแรงของห้วงอวกาศอย่างไร และรวมไปถึงการตอบสนองต่อสภาวะไร้น้ำหนัก
ฮูกล่าวถึงการเฝ้าดู ‘อาร์ทิมิส 1’ กำลังลอยขึ้นไปในตอนนั้นเป็น “ความรู้สึกที่เหลือเชื่อ” ราวกับ “ความฝัน” และระบุว่า “นี่เป็นก้าวแรกที่เรากำลังดำเนินการการสำรวจห้วงอวกาศในระยะยาว ไม่ใช่แค่กับสหรัฐฯ แต่เป็นทั้งโลก” พร้อมเสริมว่า “ผมคิดว่านี่เป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับนาซา และก็เป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับทุกคนที่รักการบินอวกาศของมนุษย์ รวมทั้งการสำรวจห้วงอวกาศด้วย เรากำลังกลับไปที่ดวงจันทร์ และทำงานเพื่อโครงการที่ยั่งยืน และนี่คือพาหนะที่จะนำพาผู้คนกลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้ง”
เขาระบุว่าหากภารกิจนี้ผ่านไปได้ด้วยดี เที่ยวบินครั้งต่อไปจะเป็นลูกเรือที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ซึ่งนาซากล่าวไว้ว่าจะมีนักบินอวกาศที่เป็นผู้หญิงคนแรกและเป็นคนผิวสีคนแรก โดยวางเป้าหมายไว้อย่างเร็วที่สุดคือภายในเดือนพฤษภาคมปี 2024 ในโครงการ ‘อาร์ทิมิส 2’ และ ‘อาร์ทิมิส 3’ จะมีลูกเรือคนแรกที่เดินทางจากพื้นผิวดวงจันทร์ไปสู่การผจญภัยครั้งใหม่ จากนั้น ‘อาร์ทิมิส 4’ จะเป็นการเริ่มก่อสร้างสถานีอวกาศในวงโครจรของดวงจันทร์
“นี่เป็นการเปิดหน้าแรกของการสำรวจอวกาศบทใหม่” จาคอบ บลีชเชอร์ (Jacob Bleacher) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของโครงการกล่าว ขณะที่ บิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้บริหารของนาซาเสริมว่า “เรากำลังกลับไปที่ดวงจันทร์เพื่อใช้ชีวิตและเรียนรู้เพื่อที่จะไปดาวอังคาร นั่นคือการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ต่อไป”
ปัจจุบันโครงการอาร์ทิมิส 1 ได้นำพายานโอไรออนเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือกลับมาให้ได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ระยะเวลาภารกิจทั้งหมดราว 26 วัน สิ่งที่ทำให้โครงการอวกาศเดินหน้าคือความร่วมมือมากมายจากพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นองค์การอวกาศยุโรป (ESA), แคนาดา (CSA), ญี่ปุ่น (JAXA) และอีกกว่า 20 ประเทศ นี่จึงกลายเป็นการเดินทางร่วมกันของคนทั้งโลก
“เราได้ดึงคนทั้งโลกให้เข้ามาร่วมการไล่ล่าครั้งนี้” ชาร์ลี โบลเดน (Charlie Bolden) อดีตผู้บริหารนาซาระบุ “ตอนนี้ทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับการไปยังดวงจันทร์และดาวอังคาร ตราบใดที่เราสามารถรักษาความกระตือรือร้นที่จะไปถึงที่นั่นได้ เราจะไม่เป็นไร”
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
Photograph by Nasa
ที่มา
Artemis: Nasa expects humans to live on Moon this decade – BBC News
Astronauts to live and work on the moon by 2030, Nasa official says | Nasa | The Guardian
Artemis I has (finally) launched, kickstarting NASA’s return to the moon (nationalgeographic.com)