บทความใหม่จากนักวิชาการที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ The Conversation ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการติดต่อครั้งแรกสุดกับมนุษย์ต่างดาวที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้จากองค์กร SETI ที่ค้นหาหลักฐานของ มนุษย์ต่างดาว ซึ่งองค์การนี้อาจเป็นหน่วยงานแรกสุดที่รับรู้ถึงการมีอยู่จริงของสิ่งมีชีวิตนอกโลก
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อ? และใครคือผู้ควบคุมสถานการณ์? ยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบอยู่ เพราะแม้แต่ นาซา (NASA) เองก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ทางศาสตราจารย์ เดวิด เดลกาโด ชอร์เทอร์ (David Delgado Shorter) จากมหาวิทยาศาสตร์ยูซีแอลเอ ระบุเอาไว้ว่า “มีโอกาส” ที่กองทัพอาจเป็นผู้เข้าควบคุม และต่อมาจะเป็นองค์กรทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากทหารมักตัดสินด้วยการ ‘คิดไปเอง’ ว่าอาจเกิดภัยคุกคามขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงหวังว่าข้อมูลและบทเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของโลกจะช่วยให้เราตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงของการ ‘คิดไปเอง’
พวกเขายกตัวอย่างในเรื่อง ‘มารยาทการฟัง’ ที่ปัจจุบันยังไม่มีระเบียบจริยธรรมอันชัดเจน และทาง SETI เองก็มีโครงการ ‘Breakthough Listen’ ซึ่งค้นหาสัญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ทางเทคโนโลยีของสิ่งมีชีวิตต่างดาวด้วยการฟัง พร้อมกับระบุว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรเสียหาย
“ความอันตรายแบบใดกันที่จะเกิดขึ้นจากการฟังเพียงอย่างเดียว” จิล ทาร์เตอร์ (Jill Tarter) ประธานกิตติมาศักดิ์ของ SETI กล่าว แต่ถ้าเราลองคิดดูดีๆ การมีประเทศมาอื่น ‘ฟัง’ สหรัฐอเมริกาบ้าง กลับเป็นเรื่องต้องห้าม สิ่งนี้ก็อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับมนุษย์ต่างดาว พวกเขาอาจคิดว่า “แค่การฟังอย่างเดียวของเรา” สามารถเป็นภัยคุกคามได้เช่นกัน
ความขัดแย้งอาจเริ่มต้นจากการรับฟังโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเขา (มนุษย์ต่างดาว) ต่อมาก็เป็นความไม่เข้าใจกันด้านภาษาที่ทำให้ไม่สื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ จากนั้น กองทัพจะถือว่ามนุษย์ต่างดาวกลายเป็นภัยคุกคาม ประวัติศาสตร์การติดต่ออารยธรรมอื่น ๆ ของมนุษยชาติก็เหมือนกับกรณีนี้
เช่นการเดินทางของ เจมส์ คุก (James Cook) ที่ในปี 1768 ราชสมาคม (Royal Society) ได้ให้เขาคำนวณระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ด้วยการวัดการเคลื่อนที่ของดาวศุกร์จากตาฮิติ พร้อมกับเน้นย้ำไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับอาณานิคมอื่น ๆ ให้ทำเฉพาะแต่งานวิจัยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามรัฐบาล (ทหาร) แอบบังคับเขาให้ทำแผนที่และอ้างสิทธ์ในดินแดนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สิ่งนี้นำมาสู่การล่าอาณานิคมและเข้ายึดครองชนพื้นเมืองอย่างออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์อย่างกว้างขวาง นำไปสู่การค้าทาส และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ทาง ศ. เดลกาโด ชอร์เทอร์ หวังว่าองค์กร SETI จะไม่เป็นเช่นเดียวกับการสำรวจของคุก และเสริมว่าองค์กรทางวิทยาศาสตร์ต้องแยกอิสระจากกองทัพและรัฐบาลอย่างชัดเจน เนื่องจากข้อความหรือลายเซ็นเทคโนโลยีต่างดาวแม้เล็กน้อยอาจเริ่มต้นปฏิกิริยาลูกโซ่ขึ้นได้
ซึ่งรวมถึงปฏิบัติการทางทหาร การตักตวงทรัพยากร และการรุกรานอาณานิคม แม้จะไม่มีใครรู้ว่าการติดต่อครั้งแรกกับมนุษย์ต่างดาวจะเป็นเช่นไร แต่การศึกษาและตระหนักถึงผลกระทบจากประวัติศาสตร์โลกไว้ก่อนก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าล้างอย่างที่ผ่านมา
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ที่มา
https://www.livescience.com/space/extraterrestrial-life/first-contact-with-aliens-could-easily-end-in-genocide-scholars-warn
https://theconversation.com/first-contact-with-aliens-could-end-in-colonization-and-genocide-if-we-dont-learn-from-history-207793