การเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? “เราทุกคนต่างเคยทำการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งนี้” เดวิด ทินเกย์ (David Tingay) ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิดจากโรงพยาบาลเด็กรอยัลในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียกล่าว “นี่เป็นหนึ่งในกิจกรรมพื้นฐานที่สุดที่เราต้องทำ”
แต่ทารกน้อยหายใจโดยไม่ใช่ปอดเมื่ออยู่ในท้องของมารดาได้อย่างไร? อาจเป็นสิ่งที่เชื่อได้ยาก แต่ “ปลา” และ “มนุษย์” นั้นดูคล้ายกันอย่างน่าทึ่งในช่วง 4 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ
หากดูผ่าน ๆ ตัวอ่อนของทั้งคู่เหมือนกันจนแยกแทบไม่ออก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปลาจะเปลี่ยนโครงสร้างคอที่พับแล้วเป็นเส้นใยเนื้อเยื่อที่เรียกว่าเหงือก แต่ในมนุษย์ โครงสร้างเดียวกันนี้จะกลายเป็นขากรรไกรของเรา
หลังจาก 4 หรือ 5 สัปดาห์ ระบบทางเดินหายใจของเราก็จะเริ่มพัฒนาเป็นปอด เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 8 โครงสร้างพื้นฐานของปอดทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้น เนื่อเยื่อปอดจะเริ่มเติบโตและเจริญเต็มที่และพร้อมหายใจเข้ากับหายใจออกในเดือนที่ 9
แต่ในช่วงเวลาที่อยู่ในครรภ์ ปอดของทารกไม่สามารถใช้หายใจได้เลย มันเต็มไปด้วยของเหลวซึ่งหลั่งออกมาจากตัวปอดเองเพื่อทำหน้าที่กันกระแทกและปกป้องอวัยวะที่กำลังพัฒนาจากการบีบอัดหรือความเสียหาย
ดังนั้น การหายใจของทารกจะเป็นหน้าที่ของ “เครือข่ายหลอดเลือด” แทน พูดอีกอย่างคือ เมื่ออยู่ในครรภ์ เราหายใจผ่านของเหลว
เครือข่ายเหล่านี้จะอำนวยความสะดวกในการส่งออกซิเจน สารอาหาร และกำจัดของเสีย ทุกอย่างจะเข้าออกผ่านกระแสเลือดของแม่ นักวิทยาศาสตร์สิ่งนี้เรียกว่า ‘กระบวนการหายใจด้วยรก’
เลือดที่อุดมด้วยออกซิเจนจะกระจายไปยังอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่กำลังพัฒนาจนในช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ทารกก็พร้อมที่จะหายใจด้วยตัวเอง
“การคลอดลูกคงเป็นครั้งเดียวที่คุณอยากให้ลูกของคุณร้องไห้ออกมาดังๆ” คาราซิโอโล เฟอร์นันเดส จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เบย์เลอร์ และโรงพยาบาลเด็กเท็กซัสกล่าว “คุณต้องให้พวกเขาร้องไห้ให้มากที่สุด เพราะมันช่วยเปิดปอดได้ดีจริง ๆ”
ขณะที่ทารกเดินทางผ่านช่องคลอด การบีบตัวจะบีบของเหลวบางส่วนออกจากปอด ความดันและการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนต่าง ๆ ก็ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมของเหลวออกมาด้วยเช่นกัน
และเมื่อพวกเขาคลอดออกมา ทุกอย่างจะภายในไม่กี่วินาทีหลังคลอดจะส่งสัญญาณให้ทารกสูดลมหายใจแรก
“ปอดของทารกในครรภ์ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำขนาดใหญ่ที่จู่ ๆ ก็เต็มไปด้วยช่องว่างอากาศ” ทินเกย์กล่าว “นั่นคือสิ่งที่ทารกทำในลมหายใจแรก”
เมื่ออากาศแรกไหลเข้าไป มันจะดันของเหลวที่เหลือในปอดออก ช่วยเปิดปอดให้ทำงานเต็มที่ ของเหลวจะขับออกมาจากการไอ หรือดูดซึมโดยกระแสเลือดและระบบน้ำเหลือง
กระบวนการเหล่านี้ทำให้แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ไม่แนะนำให้คุณแม่เลือกผ่าคลอด เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่มีสิ่งนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
เพื่อกระตุ้นให้ทารกหายใจ
บางคนอาจมีของเหลวค้างอยู่ในปอดทำให้เกิดปัญหาหลังคลอดตามมา รวมถึงการผ่าคลอดก่อนกำหนดอาจทำให้ปอดยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ เว้นเสียแต่แพทย์จะอนุญาต
วิถีทางธรรมชาติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครรภ์ช่วยให้ทารกได้มีเวลาสร้าง พัฒนา ฝึกฝน และเตรียมพร้อมกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ ระบบประสาท และระบบทางเดินหางใจ เพื่อช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด นั่นคือ การเปลี่ยนการหายใจด้วยรกเป็นหายใจด้วยปอดของตัวเอง
เราไม่อาจรู้ได้อย่างแน่ชัดว่านางเงือกในเรื่องเล่าสามารถหายใจใต้น้ำได้อย่างไร แต่ตอนนี้เราค่อนข้างรู้มากพอสมควรว่า ทารกนั้นคล้ายกับนางเงือกในแง่มุมหนึ่ง
แอเรียลได้แลกเปลี่ยนเสียงของเธอกับการใช้ชีวิตบนบก เช่นเดียวกัน ทารกก็ได้เป็นอิสระด้วยการหายใจเข้าออกครั้งแรกเพื่อใช้ชีวิตบนโลกใบนี้
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ที่มา https://www.nationalgeographic.com/premium/article/mermaids-womb-placenta-uterus-breath-air