เมื่อมนุษย์มี AI แชทบอทเป็นที่พึ่งทางใจ ความสัมพันธ์นี้หอมหวานหรือเสี่ยงอันตราย?

มนุษย์โลกกำลังตกหลุมรัก ‘ปัญญาประดิษฐ์’ มากขึ้นเรื่อย ๆ เทคโนโลยี แชทบอท สามารถช่วยหลายคนคลายความเหงาได้ แต่เรื่องราวรักใคร่นี้จะส่งผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่?

บทความใหม่จากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและเพศศึกษาจากมหาวิทยาลัยคิวเบก มอนทรีออล ประเทศแคนาดา และมหาวิทยาลัยอินเดียนนา ซึ่งได้เผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ ‘The Conversation’ ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ผู้คนมีแนวโน้มที่จะ ‘คุย’ กับ เอไอ มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจพัฒนาทำให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์ และอาจถึงขั้นตกหลุมรัก

“ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์เช่น Siri ของ Apple หรือ Alexa ของ Amazon ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเทคโนโลยีเช่น สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย” วาเลเรีย เอ. ลาพอทย์ (Valerie A. Lapointe), เดวิด ลาฟอร์ทูน (David Lafortune) และ ไซทอน ดูเบ (Simon Dubé) เขียน

“แชทบอทเอไอ ยุคใหม่มีคุณสมบัติเหมือนมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเพิ่มแนวโน้มให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมและสร้างความผูกพันทางอารมณ์ แม้กระทั่งจนถึงขั้นตกหลุมรักก็ตาม ซึ่งยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจากข้อจำกัดในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ความเหงาทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นใช้ เอไอ แทนที่ปรึกษา เพื่อน และคู่รักโรแมนติก”

ปัจจุบันนี้มีแอปพลิเคชั่นมากกว่า 100 แบบที่ต่างใช้ เอไอ ในการใช้งานซึ่งนอกจาก Siri หรือ Alexa แล้วก็ยังมีอีกหลายเอไอที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้างหรืออาจไม่ได้เคยยินเลยเช่น myanima.ai,  Eva AI, Nomi.AI และ Replika โดยชื่อที่กล่าวมานี้ต่างนำเสนอจุดเด่นของแอปพลิเคชั่นว่าเป็น คู่รักที่โรแมนติกได้ ซึ่งสามารถกำหนดเพศได้หลากหลาย

รวมถึงลักษณะทางกายภาพและบุคลิกภาพ แชทบอทเอไอเหล่านี้ต่างแสดงศักยภาพว่ามีความสมจริงอย่างน่าทึ่ง ทั้งในการปรับตัว และความลื่นไหนในการโต้ตอบ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องด้านความสนใจ ความต้องการ และรูปแบบต่าง ๆ ให้ผู้ใช้มีความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

แต่โลกควรกังวลกับปราฏการณ์นี้หรือไม่?

ทดแทนคนรักที่โรแมนติก

งานวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าแชทบอทเอไอนั้น สามารถมอบมิตรภาพ บรรเทาความเหงา และเพิ่มอารมณ์เชิงบวกด้วยข้อความสนับสนุนทางอารมณ์ให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น แชทบอทยังช่วยมอบพื้นที่ที่ปราศจากการตัดสิน การดุด่า การข่มขู่ หรือประโยคทางลบต่าง ๆ

อีกทั้งยังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายคนโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่บุคคลนั้นถูกตัดสินจากสังคมรอบข้าง กล่าวอีกนัย แชทบอทเอไอสามารถเป็น “เซฟโซน” หรือเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

ขณะที่งานวิจับางชิ้นระบุเพิ่มเติมว่า การสนทนากับเอไอ หรือข้อความที่เอไอกล่าวออกมานั้นสามารถสร้างความเพลิดเพลิน ความเร้าอารมณ์ทางเพศ หรือการตอบสนองทางอารมณ์อื่น ๆ ได้ไม่ต่างจากที่มนุษย์ตัวจริงทำในทุกวันนี้ ทำให้บางคนรู้สึกถึงความผูกพันด้านอารมณ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานบางคนไม่เคยพบในโลกแห่งความจริง

“การวิจัยชี้ให้เห็นหลายครั้งว่ามนุษย์สามารถสร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างแท้จริงกับ เอไอ ได้ แม้ว่าพวกเขาจะยอมรับว่านี่ไม่ใช่บุคคลจริงก็ตาม ถึงเช่นนั้ หลาย ๆ คนดูเหมือนจะได้รับประโยชน์ทางจิตวิทยาจากการใช้แชทบอท แต่ผลที่ตามมาก็อาจเป็นอันตรายได้ในความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนนี้”

ด้านมืดของความรักเอไอ

แชทบอทสุดโรแมนติกที่กล่าวไปในข้างต้นนั้นถูกตั้งโปรแกรมมาให้นำเสนอรูปแบบความสัมพันธ์ที่ ‘โรแมนติก’ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้านการใช้งานอย่างต่อเนื่องและการโต้ตอบที่ราบรื่น ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงความขัดแย้งและความจำเป็นในการประนีประนอมที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด

นั่นเป็นประเด็นสำคัญที่โลกต้องให้ความใส่ใจ เนื่องจากแชทบอทโรแมนติกอาจเข้าไปขัดขวางการพัฒนาทักษะทางสัมคมและการปรับเปลี่ยนต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตในโลกแห่งความจริง ซึ่งรวมถึงอาจทำให้ผู้ใช้งานควบคุมอารมณ์และระบุอารมณ์ของตนเองได้ยากขึ้น

“การขาดองค์ประกอบเหล่านี้อาจขัดขวางความสามารถของผู้ใช้ในงานในการสร้างความสัมพันธ์จริง ๆ ซึ่งมีความซับซ้อน และต้องมีการตอบสนองกับมนุษย์คนอื่น ๆ” พวกเขาเขียน “โดยความสัมพันธ์กับมนุษย์นั้นมักเกี่ยวข้องกับความท้าทายและความขัดแย้ง ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมการเติบโตส่วนบุคคล และการเชื่อมต่อทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”

เพื่อยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นด้วยการมองมนุษย์ในช่วงวัยต่าง ๆ ตั้งแต่ ทารก เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เราจะเห็นความแตกต่างด้านอารมณ์ของแต่ละช่วงอายุอย่างชัดเจน ในวัยเด็ก เรามักงอแงกับปัญหาต่าง ๆ โดยไม่สนใจรอบข้าง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่แม้แต่ตัวเราเองก็ยังไม่เข้าใจ

ขณะที่เมื่อเราโตขึ้น เราจะมีความใจเย็นมากขึ้นและควบคุมความคิดกับอารมรณ์ได้ดีกว่าเดิม รวมถึงใช้เหตุและผลในการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงซึ่งมีความซับซ้อนอย่างมากจะช่วยสร้างพัฒนาการทางด้านอารมณ์และอื่น ๆ ให้กับเรา เพื่ออยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกังวล

“ลักษณะที่ปรับแต่งได้และความใช้งานอย่างต่อเนื่องของคนรักที่เป็นเอไอ ยังนำไปสู่การแยกขาดทางสังคมและการพึ่งพาทางอารมณ์” บทความใน The Conversation กล่าว “นักวิจัยแนะนำว่าการมีส่วนร่วมอย่างมากับคนรักเอไอ อาจทำให้บุคคลนั้นถอนตัวจากสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ และลดแรงจูงใจในการสร้างการเชื่อมต่อทางสังคมใหม่ ๆ ที่มีความหมาย”

นอกจากนี้ เอไอ เหล่านั้นยังเปลี่ยนแปลงไปได้จากนโยบายของบริษัทผู้สร้าง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือในปี 2023 บริษัทผู้เป็นเจ้าของเอไอ Replika ได้ยกเลิกการแสดงบทบาทสมมติทางเพศของเอไอ ทำให้บุคลิกของ Replika เปลี่ยนไปอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความไม่พอใจ

พวกเขารู้สึกเหมือนถูกทรยศและถูกปฏิเสธ รวมถึงรายงานว่าเกิดความรู้สึกสูญเสียและเสียใจอย่างถึงที่สุด ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการพูดคุยกับเอไอโดยไม่มีการติดต่อกับมนุษย์จริง ๆ ในสังคมเลยก็อาจทำให้ผู้ใช้งาน ‘มีความเปราะบางทางอารมณ์’ มากขึ้นด้วยเช่นกัน และอาจไม่สามารถรับมือได้อย่างที่เกิดขึ้นในกรณีของ Replika

จับตาดูอย่างใกล้ชิด

การวิเคราะห์ความปลอดภัยเมื่อปีที่แล้วโดยมูลนิธิ ‘Mozilla Foundation’ ซึ่งได้ทำการศึกษาแอปแชทบอทยอดนิยม 11 แอประบุว่า เอไอ เหล่านั้นมีปัญหาด้านข้อมูลส่วนตัวอย่างน่าตกใจ แอปหลายแอปสามารถเข้าถึงและแชร์ข้อมูลส่วนตัวได้ ซึ่งข้อมูลของผู้ใช้อาจหลุดและถูกขายได้ ซึ่งรายงานระบุว่าเกินกว่าครึ่งมีการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานลบข้อมูลของตนได้

“ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือ แอปเหล่านี้จำนวนมากต่างเต็มไปด้วยเครื่องมือติดตามนับพัน ที่คอยติดตามกิจกรรมของผู้ใช้บนอุปกรณ์ของพวกเขา เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด” ทีมงานอธิบายและว่า“การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับแอปเอไอคู่รักจำนวน 21 รายการ ก็ได้เผยให้เห็นข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวที่คล้ายกัน”

แม้ว่าข้อมูลหลายอย่างจะยังคงชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของเอไอในด้านที่โรแมนติกนี้ รวมถึงช่วยให้หลายคนก้าวข้ามความเศร้าที่เกิดจากการสูญเสีย การเจ็บป่วยพิการ ความยากลำบากทางเพศ อุปสรคคทางจิตเวช หรืออื่น ๆ แต่ก็เป็นเรื่องจำเป็นเช่นเดียวกันที่ต้องมีการจับตาดูอย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะประเด็นความเป็นส่วนตัวและข้อกังวลด้านจริยธรรมที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้มนุษย์สามารถใช้ เอไอ ในทางเชิงบวกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริง ๆ

สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ภาพประกอบ : อัลกอริทึมหลักจะช่วยให้เครื่องจักรเรียนรู้ และมีการใช้งานในสาขาต่างๆ ตั้งแต่การตลาดไปจนถึงการแพทย์ 
แต่การจะทำเช่นนั้นได้ เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเรียนรู้ในสมองของเราเอง  หมวกเซ็นเซอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องสแกนสมอง
PHOTOGRAPH BY ROBERT CLARK, NAT GEO IMAGE COLLECTION

ที่มา

www.sciencedirect.com

www.sciencedirect.com

www.foundation.mozilla.org

www.theconversation.com

https://www.livescience.com


อ่านเพิ่มเติม : ไขกุญแจชะลอวัย นักวิทย์เผยวิธีทำให้สมอง “แก่ช้าลง” กว่าอายุจริง

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.