นานมาแล้วก่อนปีกัสโซจะถือกำเนิด ศิลปินยุคโบราณในพื้นที่ที่กลายมาเป็นประเทศสเปนปัจจุบันกำลังสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับจากเปลือกหอยและภาพวาดบนฝาผนังถ้ำ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือผลงานเหล่านี้เป็นของ มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
ย้อนกลับไปราว 65,000 ปีก่อน ภาพวาดบนฝาหนังถ้ำและเครื่องประดับจากเปลือกหอยเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นผลงานศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดจากยุคโบราณ ผลการค้นพบครั้งนี้ถูกเผยแพร่ลงในวารสาร Science and Science Advances ทีมนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าผลงานศิลปะเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนการมาถึงของมนุษย์โฮโมเซเปียนส์ในทวีปยุโรป นั่นหมายความว่าใครบางคนสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมา
ในถ้ำสามถ้ำของสเปนที่พบผลงานศิลปะ ทีมนักวิจัยพบภาพวาดแบบง่ายๆ จำนวนหนึ่ง และในถ้ำ Cueva de los Aviones ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสเปน ทีมนักวิจัยยังพบเครื่องประดับที่ทำจากเปลือกหอยและผงสีซึ่งสามารถย้อนอายุกลับไปได้มากถึง 115,000 ปี
(โครงกระดูกของเด็กมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลเองก็แทบไม่ต่างจากเรา)
“การค้นพบโบราณวัตถุในถ้ำ Aviones นับได้ว่าเป็นเครื่องประดับที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยค้นพบมา” João Zilhão นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยบาเซโลนากล่าว “พวกเขาประดิษฐ์สิ่งของที่คล้ายคลึงกับเรา แต่เร็วกว่าถึง 20,000 – 40,000 ปี” ในความเชื่อกระแสหลักว่ากันว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมีสติปัญญาที่ด้อยกว่าโฮโมเซเปียนส์ การค้นพบครั้งนี้อาจเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าทั้งมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลและโฮโมเซเปียนส์ล้วนมีบรรพบรุษร่วมกันเมื่อ 500,000 ปีก่อน
(เผยข้อเท็จจริงใหม่ เมื่อมนุษย์อพยพออกจากทวีปแอฟริกาเร็วกว่าที่คิด)
“นีแอนเดอร์ทัลมีภูมิปัญญาและวัฒนธรรมบางอย่างที่แบ่งปันให้แก่มนุษย์สมัยใหม่” John Hawks นักบรรพมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิล-เมดิสัน ผู้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยครั้งนี้กล่าว “พวกเขาไม่ได้โง่เง่าแต่อย่างใด และควรถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์เช่นกัน”
ไม่มีอีกแล้วคนโง่เขงา
ในปี 1856 คนงานในเหมืองแร่ของหุบเขา Neander ประเทศเยอรมนีค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์พบว่ากระดูกดังกล่าวมีขนาดใหญ่จึงไม่น่าจะเป็นของมนุษย์ และเจ้าของโครงกระดูกที่พบคือ มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล (Homo neanderthalensis)
เป็นเวลานานหลายปีมาแล้วที่มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลถูกพิจารณาว่ามีความแข็งแรงมากกว่าความฉลาด แต่ในปี 1950 ความเชื่อนี้ต้องเปลี่ยนไปเมื่อมีการค้นพบว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลฝังศพผู้เสียชีวิต, ประดิษฐ์เครื่องมือจากหินและรู้จักการใช้พืชสมุนไพรรักษาอาการเจ็บป่วย
ผลการศึกษาจีโนมยังแสดงให้เห็นว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลและมนุษย์ยุคใหม่มีการผสมสายเลือดกัน ปัจจุบันราว 2% ของประชากรในทวีปยุโรปและเอเชียมีดีเอ็นเอของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลในตัว
นักวิจัยบางกลุ่มไม่เห็นด้วยที่จะกล่าวว่าสติปัญญาของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้ ด้วยหลักฐานในเวลานั้น ดูเหมือนว่าผลงานศิลปะจะยังไม่ถือกำเนิดขึ้นจนเมื่อมนุษย์โฮโมเซเปียนส์หรือมนุษย์ยุคใหม่อพยพเดินทางมาถึงทวีปยุโรปเมื่อราว 40,000 – 50,000 ปีก่อน
แต่ผลการศึกษาอื่นๆ ไม่เป็นไปตามนั้น ในฝรั่งเศส นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเครื่องประดับที่เชื่อกันว่าประดิษฐ์โดยมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลเมื่อราว 43,000 ปีก่อน ในถ้ำแห่งหนึ่งของสเปนพบร่องรอยของการวาดเขียนลงบนผนังถ้ำ ส่งผลให้เกิดทฤษฎีใหม่ขึ้นมาว่ามนุษย์สมัยใหม่นี่แหละที่อาจเป็นผู้รับเอาวัฒนธรรมและภูมิปัญญามาจากมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
“ถ้าคุณไปถามนักโบราณคดี ว่านีแอนเดอร์ทัลรู้จักการวาดฝาผนังถ้ำหรือไม่ เชื่อเลยว่าร้อยละ 90 จะบอกว่าไม่” Alistair Pike นักโบราณคดีผู้ร่วมการวิจัยครั้งนี้ จากมหาวิทยาลัยเซาท์แทมตันกล่าว
หาอายุด้วยแร่
การจะหาคำตอบว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลเป็นศิลปินจริงหรือไม่นั้น ทีมนักวิจัยจำต้องตามหาผลงานศิลปะบนผนังถ้ำในยุโรปที่มีความเก่าแก่มากกว่า 50,000 ปี เพิ่มเติม Pike และ Zilhão วางแผนโปรเจคนี้ร่วมกันในปี 2003 โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Dirk Hoffmann นักวิจัยจากสถาบันโบราณคดีและวิวัฒนาการ Max Planck ผู้เชี่ยวชาญด้านการคำนวณอายุแร่โดยเฉพาะ
ผลการสำรวจ ในถ้ำสามถ้ำที่มีการพบภาพเขียน นักวิจัยคำนวณอายุจากแร่ที่พบบนภาพพวกเขาพบว่ามันมีความเก่าแก่ถึง 64,800 ปี นั่นหมายความว่าภาพเขียนนี้อาจมีอายุเท่านี้หรือเก่าแก่กว่า ซึ่งนับได้ว่าเป็นภาพวาดฝาผนังถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนการคำนวณอายุจากแร่บนเปลือกหอยที่ได้รับการประดับประดาจากถ้ำ Cueva de los Aviones มีอายุมากถึง 115,000 ปี การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าภูมิปัญญาของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียว “ไม่ใช่ว่านี่เป็นผลงานของกลุ่มนีแอนเดอร์ทัลที่ชาญฉลาดเพียงกลุ่มเดียว แล้วสูญหายไปในกาลเวลา” Pike กล่าว ถึงภูมิปัญญาของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล “มันเทียบได้กับสิ่งประดิษฐ์ที่เราทำในแอฟริกาครับ”
(โครงกระดูกของเด็กมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมีรูปลักษณ์แทบไม่ต่างกับโครงกระดูกของโฮโมเซเปียนส์)
ญาติผู้ใกล้ชิด
ในแง่ของความสามารถทางศิลปะเช่นเดียวกัน นักวิจัยตั้งคำถามต่อมาว่าเจ้าของผลงานเหล่านี้เป็นมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกลุ่มย่อยของมนุษย์สมัยใหม่ที่เดินทางมายังทวีปยูโรป
“หรือจริงๆ แล้วนีแอนเดอร์ทัลกับโฮโมเซเปียนส์ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และเรื่องที่ว่านีแอนเดอร์ทัลแข่งขันกับเราจึงไม่ถูกต้อง” Zilhão กล่าว “เพราะจริงๆ แล้วนีแอนเดอร์ทัลก็คือโฮโมเซเปียนส์เช่นกัน”
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางรายยังคงไม่ปักใจเชื่อนัก Margaret Conkey ศาสตราจารย์เกียรติคุณ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผู้ศึกษาเกี่ยวกับภาพวาดผนังถ้ำในยุคก่อนประวัติศาสตร์ระบุว่าจากหลักฐานที่พบยังไม่น่าเชื่อถือมากนัก และการคำนวณหาอายุอาจผิดพลาดได้ ดังนั้นในอนาคตทีมนักวิจัยควรมุ่งเน้นไปที่การมองหาร่องรอยอื่นๆ ที่บ่งชี้การมีอยู่ของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล ซึ่งอาจยังคงพบได้ในถ้ำอื่นๆ ของสเปน
“ตัวฉันไม่มีปัญหาเลยกับการที่มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลจะหยิบเอาดินหรือถ่านขึ้นมาวาดภาพ แต่นี่คือความท้าทายของนักโบราณคดีที่ต้องยืนยันหลักฐานที่พบให้ได้” เธอกล่าว ด้าน Pike ระบุว่า ยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกมากมายที่รอให้พวกเขาไปค้นพบ “เราเพิ่งจะกระเทาะเปลือกของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น และเราจะหาคำตอบนี้ต่อกันตลอดชีวิต”
เรื่อง มิคาเอล เกรสโค
อ่านเพิ่มเติม