งาน Sustainability Expo 2023 หรือ SX2023 งานมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำเสนอองค์ความรู้และกิจกรรมมากมายให้ผู้ร่วมชมได้ลงมือทำจริง ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การกิน ไลฟ์สไตล์ รวมถึงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อโลกที่ดีกว่า
หนึ่งในไฮไลท์ที่สำคัญ คือ พื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก SX Kids Zone ที่เชิญชวนให้เด็กๆได้มาร่วมสนุก และเรียนรู้อย่างเพลิดเพลิน รวมถึงเสริมสร้างความรู้ จินตนาการและจิตสำนึกที่ดีต่อโลกไปกับกิจกรรมมากมายภายในงาน
SX Kids Zone เนรมิตสวนสนุกนอกห้องเรียน เปิดโอกาสให้เด็กๆได้ทั้งเล่นและเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน โดยผสมผสานการเรียนรู้ใกล้ชิดธรรมชาติและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสร้างเสริมทักษะและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาโลกใบนี้ผ่านฐานกิจกรรมทั้ง 5 ฐาน ได้แก่
1. ธรรมชาติรอบตัว (Magic of Nature)
2. การเดินทางของอาหาร (Fight Food Waste)
3. ผู้พิทักษ์ขยะ (Recycle Station/เก็บ กลับ รีไซเคิล)
4. ไขความลับแมลงตัวจิ๋ว (Bug Wonders)
5. หมากรุกเสริมทักษะ (SX Chess Club)
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่เด็กๆจะได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ดิจิทัลในโซน “Digital Experience” จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อวพช.) อีกมากมาย และมีพาสปอร์ตประจำตัว หรือสมุดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ร่วมสะสมแสตมป์จากการร่วมกิจกรรมในแต่ละฐานเพื่อรับของรางวัลฟรีจากทาง SX Kids Zone (มีจำนวนจำกัด)
ภายในกิจกรรมนี้ทั้งผู้ปกครองและเด็กจะได้เรียนรู้ความสำคัญของธรรมชาติรอบตัวไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ สัตว์และแมลงในระบบนิเวศ เรียนรู้ถึงวัฏจักรชองแมลง ลักษณะ ชนิด และบทบาทสำคัญของ ผึ้ง ในฐานะนักผสมเกสรตัวน้อย และในฐานะตัวขับเคลื่อนหนึ่งของเศรษฐกิจไทย นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังมีโอกาสได้เห็นแมลงจริงๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ต่อหัวเสือบ้าน มดแดง ตั๊กแตนกิ่งไม้ และเหล่าผึ้งตัวจิ๋วหลากหลายชนิด
เราต่างรู้ว่า อาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต และจำเป็นต่อการเติบโตของเด็กๆ แต่จะทำอย่างไรกับขยะอาหารที่ทานเหลือกันนะ? ขยะอาหารไม่เพียงแต่จะส่งกลิ่นเน่าเสียเท่านั้น แต่ยังถือเป็นตัวการหนึ่งที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
ในฐานนี้ เด็กๆ และผู้ร่วมชมจะได้สนุกสนานไปกับครัวจำลองขนาดเล็ก และได้เรียนรู้การกู้โลกด้วยขยะอาหาร โดยจะนำเสนอปัญหา และปลูกฝังความสำคัญของการรับประทานทานอาหารให้หมด รวมถึงวิธีการนำขยะอาหารเหล่านั้นมาสร้างพืชผักให้เราได้รับประทานอีกครั้ง ไม่ว่าจะนำไปทำเป็นปุ๋ย หรือนำผักผลไม้บางชนิดมาปลูกซ้ำ เช่น ต้นหอม แครอท หรือใบกระเพรา นอกจากจะได้ลดขยะอาหารแล้วยังได้ทานอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้นและรักษาสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกันด้วย
ทิ้งขยะอย่างไรให้ถูกถัง? เรียนรู้ เข้าใจความสำคัญของขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดการปัญหาขยะโดยการแยกขยะอย่างถูกวิธีเพื่อโลกที่ยั่งยืน ผ่านเกมแยกขยะเพื่อโลก โดยลงมือฝึกฝนการทิ้งขยะให้ถูกต้องตามถังขยะสีต่างๆ พร้อมกับเรียนรู้ผลกระทบของปัญหาขยะและการรีไซเคิลกล่องนมใช้แล้วผ่านการร่วมสนุกกับกิจกรรมพับกล่องนมและเกมบันไดงู ไม่เพียงแต่จะได้ความรู้และความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังได้อิ่มท้องจากกล่องนมรักษ์โลกจาก ไมโล และ แมกโนเลีย อีกด้วย
ตื่นตาตื่นใจและร่วมไขความลับโลกแห่งแมลงไปกับ Interactive Wall ขนาดใหญ่ที่จำลองสวนขนาดใหญ่เสมือนว่าเด็กๆ ได้อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้รายล้อมไปด้วยเหล่าแมลงจิ๋วที่น่ารัก
โดยในฐานนี้จะได้เรียนรู้เรื่องราวแมลงหรือแมง บทบาทความสำคัญและหน้าที่ของเหล่าแมลงจิ๋วกว่า 7 ชนิดต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ปลวกแมลงผู้ย่อยสลาย ผีเสื้อราชินีแห่งแมลง หรือด้วงเต่าลายนักฆ่าแมลงศัตรูพืช พร้อมกับได้เรียนรู้ลักษณะของแมลงกับแมลงตัวเป็น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๊กแตนตำข้าว หรือแมลงหางหนีบ
กิจกรรมเสริมทักษะน่าสนใจที่ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากเด็กๆ และผู้ใหญ่ คือ กิจกรรมหมากรุกไทยและสากล ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดเป็นลำดับขั้นและเหตุผล รวมถึงทักษะการสื่อสารและการเข้าสังคมจากการได้พบปะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่หลากหลายช่วงวัยและสัญชาติ
ถ้าเล่นไม่เป็น ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีส่วนรวมในกิจกรรมนี้ เพราะบูธนี้ได้เปิดสอนวิธีเล่นหมากรุกสำหรับมือใหม่อยากหัดเล่นจนเล่นเป็นได้เลย ทั้งยังเปิดโอกาสให้ทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ร่วมเข้าแข่งขันหมากรุกและพบปะกระทบไหล่เยาวชนหมากรุกทีมชาติไทยและแชมป์หมากรุกจากรายการต่างๆ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ทุกวันผ่านการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือ Walk-in มาหน้าบูธกิจกรรม โดยผู้ชนะจะได้รับถ้วยรางวัลจากสมาคมขุนทองคำกลับบ้านเป็นที่ระลึก
อีกไฮไลท์หนึ่งที่น่าสนใจ คือ บูธกิจกรรมวิทยาศาสตร์จากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อวพช.) ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆและผู้ปกครองเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านโลกดิจิทัล โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆแยกตามแต่ละช่วงวัย ได้แก่ โซนนิทรรศการสำหรับเด็กวัยอนุบาลซึ่งเด็กๆ จะได้เห็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ผ่านการลงมือปฏิบัติเอง เช่น การนำไฟฟ้าของวัสดุต่างๆ การสร้างสายฟ้า การสำรวจโลกผ่านพิพิธภัณฑ์ดิจิทัล
ถัดมาคือโซนหุ่นยนต์สำหรับเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปซึ่งเด็กๆและผู้ปกครองจะได้เรียนรู้และลงมือประดิษฐ์หุ่นยนต์จากการต่อวงจรไฟฟ้า และโซนสุดท้ายคือ การแข่งขันบนแผนที่บันไดงูผ่านการ Coding แบบ Unplug ด้วยหุ่นยนต์จิ๋ว ซึ่งเด็กจะได้ทั้งเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยการปฏิบัติจริงและได้พัฒนาทักษะการคิดและการแก้ปัญหาที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองและการเจริญเติบโต
นอกเหนือจากฐานกิจกรรมทั้ง 5 และบูธกิจกรรม Digital Experience ที่หยิบยกมาแล้วภายใน SX Kids Zone ยังมีเวทีกิจกรรมพูดคุย และนำเสนอความรู้วิทยาศาสตร์และความยั่งยืนของโลกที่จะช่วยปลูกจิตสำนีกให้เยาวชนได้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและร่วมกันสร้างอนาคตให้โลกใบนี้น่าอยู่อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น
เรียนรู้และร่วมสนุกในกิจกรรมต่างๆภายใน SX Kids Zone ได้ที่งาน Sustainability Expo 2023 ชั้น LG Hall 7 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.– 8 ตุลาคม 2566 เวลา 09:00 – 21:00 น. เข้าชมฟรีตลอดทั้งงาน !
เรื่อง ภาวิดา จงจอหอ
โครงการสหกิจศึกษา กองบรรณาธิการ นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย