ความหมาย ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy คือแนวทางที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ เพราะระบบเศรษฐกิจที่มีแบบจำลองเกี่ยวกับการผลิต (Production) และการบริโภค (Consumption) ในลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ การแบ่งปัน (Sharing) การให้เช่า (Leasing) การใช้ซ้ำ (Reusing) การซ่อมแซม (Repairing) การทำให้ใหม่ (Refurbishing) การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Recycling) เป็นกิจกรรมที่ทำให้ทรัพยากรที่เป็นวัตถุดิบและสินค้า (Existing materials and products) ถูกยืดอายุการใช้งานให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาศูนย์ C asean ร่วมกับ SX จัดงานเสวนา C asean Special Talk: The Circular Economy – Navigating the Future of Sustainability ณ C asean Samyan CO-OP ชั้น 2 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและผู้สนใจด้านความยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน ได้เรียนรู้และเข้าใจแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงมากยิ่งขึ้น
เอกอัครราชทูต พิษณุ สุวรรณะชฎ รองประธานกรรมการ C asean กล่าวเปิดงาน โดยกล่าวถึงความท้าทายสำคัญที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาขยะล้นโลก การตัดไม้ทำลายป่า การขาดแคลนน้ำ และมลพิษทางสิ่งแวดล้อม พร้อมเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่เพียงปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือปัญหาของมนุษยชาติที่ส่งผลกระทบต่ออาหาร ที่อยู่อาศัย เศรษฐกิจ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของทุกคน
ท่านทูตพิษณุฯ ได้กล่าวถึงแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนว่าเป็นแนวทางที่จะสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันได้ ผ่านการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการลด ใช้ซ้ำ และรีไซเคิล แม้แนวคิดนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ทรัพยากรยังคงหมุนเวียนอยู่ในระบบ และฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน พร้อมกล่าวถึง โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวอย่างของการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เอเดียน หว่อง (Assistant Professor Dr. Aidan Wong) จาก Singapore Management University (SMU) กล่าวบรรยายหลัก โดยเชิญชวนผู้เข้าร่วมให้ลองมองบทบาทของตนเองในมิติความยั่งยืนในฐานะ “ผู้สร้างโอกาสให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน” มากกว่าจะเป็นเพียง “ผู้บริโภค”โดยชี้ให้เห็นว่าหากจินตนาการว่าเราอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและทรัพยากรเริ่มขาดแคลน เราจะตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งของ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์ใช้การคิดเชิงหมุนเวียนมากขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์และทรัพยากรให้ยาวนานที่สุด
ดร. หว่อง กล่าวว่า การขับเคลื่อน Circular economy ถูกคาดหวังว่า ขยะจะเกิดขึ้นน้อยลง (เพราะการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ทำให้ช่วยชะลอการใช้วัตถุดิบ อีกทั้งมีหระบวนการใช้ซ้ำ ทำให้การเพิ่มขยะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ซึ่งขอเน้นถึง ความสำคัญของการ “ต่ออายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์” เช่น อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ และบรรจุภัณฑ์ และการตระหนักถึงผลกระทบจากการบริโภคเกินจำเป็น โดยเศรษฐกิจหมุนเวียน มีหลักปฏิบัติตามหลักการ ตัวอย่างเช่น การออกแบบเพื่อลดขยะต้องอาศัยการทบทวนกลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ โดยการออกแบบแบบแยกส่วนและเทคโนโลยีแบบเปิด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายได้เอง แทนที่จะต้องทิ้งอุปกรณ์ทั้งหมด
การขยายวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ ซ่อมแซม ปรับปรุงใหม่ และรีไซเคิลทุกครั้งที่ทำได้ และเศรษฐกิจหมุนเวียนมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบธรรมชาติโดยการจัดการและปกป้องทรัพยากรในลักษณะที่ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ในเวทีเสวนายังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สะท้อนความคิดและแลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกันอย่างมีส่วนร่วมและสร้างสรรค์ มีการยกตัวอย่างกรณีศึกษาจากสิงคโปร์และประเทศไทย เพื่อแสดงให้เห็นว่าการออกแบบ การรีไซเคิล และนวัตกรรมการผลิตแบบหมุนเวียนสามารถพลิกโฉมวิธีที่สังคมสร้างและบริโภคได้อย่างไร
คุณเซลีน กั๊วะ (Ms. Celine Kuok) ผู้อำนวยการ SMU Overseas Centre Bangkok ได้แนะนำแนวทางแบบสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary) ของ SMU ที่บูรณาการความรู้ด้านธุรกิจ กฎหมาย และเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาความยั่งยืน พร้อมแนะนำหลักสูตร Master of Sustainability ซึ่งมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีมุมมองรอบด้านต่อประเด็นความยั่งยืนในหลากหลายมิติ
กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่าง C asean, SX, และ SMU ในการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำแห่งอนาคต ที่จะขับเคลื่อนความยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง