ถ้าพูดถึงหนึ่งในความทรงจำวัยเด็กที่มีชาวฮังกาเรียนมีร่วมกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับยุคสมัยและภูมิศาสตร์แล้วล่ะก็ มันคือวันหยุดพักผ่อนในฤดูร้อนที่ ทะเลสาบบอลอโตน การว่ายน้ำในทะเลสาบน้ำจืด พร้อมกินของว่างเป็นข้าวโพดต้ม หรือ lángos (แป้งทอดโรยด้วยครีมเปรี้ยวและชีส) คือจุดเด่นของประสบการณ์ฤดูร้อนสุดคลาสสิคในความทรงจำของชาวฮังกาเรียนแทบทุกคน
และ Zsófia Pályi ช่างภาพหญิงได้บันทึกภาพความทรงจำอันงดงามของทะเลสาบบอลอโตนแห่งนี้ ลงในชุดภาพถ่าย “บอลอโตน: ทะเลของชาวฮังกาเรียน”
“ชาวฮังกาเรียนหลายคนมีความทรงจำวัยเด็กในช่วงวันหยุดที่เหมือนกัน ฉันมักจะมีความรู้สึกต่อบอลอโตนในเชิงบวก” Pályi กล่าว ครั้นเมื่อฮังการีเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ประชาชนเข้าถึงชายฝั่งแห่งนี้ได้อย่างเสรี ทว่าปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของโครเอเชีย และสโลเวเนียไปแล้ว “ตอนนี้ฮังการีเป็นประเทศที่ไม่ติดชายฝั่งทะเลไปแล้ว และเราถวิลหาทะเลสาบนี้จริงๆ”
ในฐานะที่เป็นทะเลสาบใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปกลาง ทะเลสาบบอลอโตนครอบคลุมสถานที่สำคัญๆ ในความเป็นฮังกาเรียนเอาไว้ ช่วงระหว่างทศวรรษ 1960 และ 1970 ชายฝั่งอันเขียวขจีความยาวมากกว่า 100 ไมล์จะเนืองแน่นไปด้วยชาวเยอรมันตะวันตกและตะวันออก ครอบครัวเหล่านี้พรากจากกันด้วยม่านเหล็กของสงครามเย็น ซึ่งแบ่งแยกยุโรปออกเป็นสอง และสถานที่แห่งนี้คือโอกาสที่พวกเขาจะได้พบกันอีกครั้งในช่วงวันหยุดยาว
มันเคยเป็นช่วงไฮซีซั่นของทะเลสาบเลยทีเดียว Pályi กล่าวถึงอดีต ถึงแม้ว่าตอนนี้บอลอโตนจะตกอันดับกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 2 ของชาวฮังกาเรียนแทน (รองจากบูดาเปสต์) หลังสไตล์การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าทศวรรษ เมื่อสถานที่แห่งนี้สูญเสียสถานะของความเป็นสถานที่พักผ่อนแห่งโปรดของชาวเยอรมันไป
ทว่าปัจจุบันทะเลสาบยังคงให้ความรู้สึกเหมือนหยุดเอาไว้ แต่ไม่ได้หมายถึงการย้อนเวลา ต้องขอบคุณอาหาร ไวน์ และ งานศิลปะ รวมไปถึงร้านอาหารรูปแบบใหม่ที่เน้นส่วนผสมแบบพื้นเมือง (และการปรุงอาหารที่ยอดเยี่ยม) ซึ่งพบได้ที่แหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค Káli Basin บนเขา Badacsony หรือในคาบสมุทรทิฮานี่ และในเมือง Balatonfüred และ Keszthely ทางชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบ สถานที่ดังกล่าวคือหนึ่งในเมืองรีสอร์ทที่สวยที่สุดของบอลอโตน โดยขับรถมาจากกรุงบูดาเปสต์แค่ 90 นาทีเท่านั้น (เว้นแต่คุณจะไปในวันศุกร์ตอนเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ชาวเมืองออกเที่ยวกัน)
เนินเขาและไร่องุ่นยาว 50 ไมล์ล้อมรอบทะเลสาบ คนทำไวน์ผลิตไวน์หลากหลายรสชาติจากองุ่น 5 สายพันธุ์ ไวน์เหล่านี้ได้รับการรับรองจากเขต และมีความพิเศษตรงที่ต้องใช้สภาพอากาศของทะเลสาบในการหมักโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังมีไวน์ขาว หรือ kéknyelű (ไวน์ฮังการี) ที่โดดเด่นและหายากซึ่งพบได้ใกล้กับโรงผลิตไวน์ Figula และ Jásdi หากคุณผู้อ่านมีโอกาสได้เดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ ขอเชิญชวนให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่ไร่องุ่นเหนือทะเลสาบ พร้อมกับไวน์ที่อยู่ในมือ ซึ่งเป็นประสบการณ์สุดคลาสสิคที่พลาดไม่ได้ในบอลอโตน
งานศิลปะแบบพื้นเมืองคืออีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจมาก ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมของทุกๆ ปี จะมีเทศกาล “Valley of Arts” ที่เปลี่ยนหมู่บ้านของ Kapolcs เป็นสถานที่จัดแสดงงานสำหรับผลงานศิลปินท้องถิ่น รวมถึงศิลปินชาวฮังกาเรียนที่มีชื่อเสียง เช่น István Csók และ Károly Ferenczy
แต่ในชุดภาพถ่ายดังกล่าวนี้ ทะเลสาบต่างหากคือสิ่งที่ Pályi มุ่งให้ความสนใจ
“ในช่วงเริ่มต้นของโปรเจค ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร” Pályi อธิบาย “แต่ผืนน้ำกลายมาเป็นสิ่งที่ฉันสนใจ เพราะว่ามันคือตัวเชื่อมให้ฉันได้รู้จักกับคนอื่น ฉันแค่เดินไปหาพวกเขา และถามพวกเขาดูว่าสนใจอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของภาพถ่ายไหม และพวกเขาก็ให้ความร่วมมืออย่างดี”
อย่างไรก็ตาม บอลอโตนไม่มีทางที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก ภาพถ่ายของ Pályi แสดงให้เห็นถึงทะเลสาบที่เคยเฟื่องฟู ทว่ายังได้รับความสนใจจากชาวฮังกาเรียนยุคใหม่ พวกเขายังคงกลับมายังทะเลสาบแห่งนี้ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน สถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็น “ทะเล” ของพวกเขา
เรื่อง Carolyn Banfalvi
อ่านเพิ่มเติม