ที่เที่ยวสังขละบุรี เมืองที่เปี่ยมด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรม

ที่เที่ยวสังขละบุรี เมืองที่หลอมรวมสองวัฒนธรรมไทย-มอญ และแวดล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

ในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาวของเมืองไทย หลายคนคงอยากหนีออกจากเมือง เพื่อไปชื่มชมกับความรื่นรมย์ทางธรรมชาติ ที่เที่ยวสังขละบุรี เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งทางป่าตะวันตกของประเทศไทย โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม และวัฒนธรรมที่ผสานหลอมรวมกัน

สังขละบุรี เป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี แฝงด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลของชาวไทย – มอญ อดีตเราอาจรู้จักสังขละบุรีว่า เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากบารมีของหลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ได้รับความเคารพเลื่อมใสจากคนไทยเชื้อสายมอญ

สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี ภาพถ่าย ศรายุธ ศรีดี

หากกล่าวถึงสังขละบุรี ทุกคนจะมีภาพ สะพานมอญ เกิดขึ้นในมโนภาพทันที สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีไปแล้ว อีกทั้งความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบของที่นี่ ก็ทำให้สังขละบุรีน่าหลงใหลขึ้นอีกเท่าตัว

เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้รวมรวบสถานที่น่าสนใจในเมืองสังขละบุรี มาเป็นไอเดียสำหรับการวางแผนการเดินทางไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวปีนี

เมืองใต้น้ำ
เมืองใต้ผืนน้ำในเขตเขื่อนเขาแหลม หรือเขื่อนวชิราลงกรณ เดิมเป็นที่ตั้งของวัดวังก์วิเวการาม แต่เมื่อมีโครงการสร้าง ตัววัดจึงต้องย้ายไปยังพื้นที่สูง เหลือเพียงซากปรักหักพังของอุโบสถ และหอระฆังที่จะจมน้ำในฤดูฝน และจะโผล่พ้นน้ำอีกครั้งในฤดูแล้ง การมาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือมาเที่ยวชมได้ โดยติดต่อเรือได้บริเวณสะพานมอญ

รูปทรงของเจดีย์จำลองมาจากเจดีย์ในเมืองคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวพุทธเชื่อว่า เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาพถ่าย ศรายุธ ศรีดี

เจดีย์พุทธคยา
เจดีย์พุทธคยา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) ในจุดที่แม่น้ำ 3 สายมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกรวยสี่เหลี่ยม มียอดแหลม สีเหลืองทองทั้งองค์เจดีย์ มีรูปปั้นสิงห์คู่แบบมอญตั้งอยู่ด้านหน้า ภายในยอดเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เหมาะแก่การพาครอบครัวไปไหว้สักการะและขอพร

พระเจดีย์สามองค์
พระเจดีย์สามองค์นี้ ตั้งอยู่ในตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย เดิมเรียกว่า หินสามกอง เป็นสถานที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไป ก่อนจะเดินทางออกจากเขตประเทศไทยเข้าสู่เขตแดนพม่าแต่ครั้งโบราณกาล ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๒ พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีของไทย ได้เป็นผู้นำชาวบ้านก่อสร้างเป็นเจดีย์สมบูรณ์ ดังที่อยู่ในปัจจุบัน

ที่น้ำตกไดช่องถ่อง สายน้ำตกกระทบหินปูนที่วางตัวหลดหลั่นกันลงมาสู่เบื้องล่าง สร้างความเย็นฉ่ำให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชม ภาพถ่าย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

น้ำตกไดช่องถ่อง
น้ำตกไดช่องถ่อง ตั้งอยู่ที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี ไม่ไกลจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดกลาง แบ่งกันไปเป็นชั้นๆ โดยชั้นบนสุดจะมีความสูงประมาณ 15 เมตร สายน้ำจะไหลลงผ่านชั้นหินปูน แล้วไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง น้ำใสสะอาดจนเห็นพื้นหินด้านล่าง นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำในแองน้ำด้านล่างนี้

สายน้ำของน้ำตกกระเต็งเจ็ง ตั้งอยู่ในป่าเขตร้อน แวดล้อมด้วยความเขียวชอุ่มของแมกไม้นานาพันธุ์ ภาพถ่าย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

น้ำตกกระเต็งเจ็ง
น้ำตกกระเต็งเจ็ง เป็นอีกน้ำตกที่มีความสวยงามของสังขละบุรี ตั้งอยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นไม่สูงมากนัก มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป จากชั้นแรกจนถึงชั้นบนสุดมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ชั้นบนสุดจะสูงประมาณ 5 เมตร สามารถเล่นน้ำได้บริเวณชั้น 1 เพราะสะดวกในการเข้าห้องน้ำ ไม่อันตราย ใกล้ที่ทำการอุทยาน

เขาสันหนอกวัว
อาใจคนรักการเดินป่ากันหน่อย ด้วยเส้นทางเดินป่าสุดท้าทาย “เขาสันหนอกวัว” ซึ่งมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5-6 ชั่วโมง ยอดเขาสันหนอกวัวสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,767 เมตร มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับสันนูนบนหลังของวัว สามารถชมวิวทะเลหมอกได้แบบอลังการ พร้อมทั้งวิวของยอดเขาน้อยใหญ่โดยรอบ อากาศเย็นตลอดทั้งปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม


อ่านเพิ่มเติม :

แนะนำเทศกาลในช่วงฤดูหนาวจากทั่วโลก

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.