กว่า 5,000 ปีที่ชาวเอสกิโม ต้องอาศัยอยู่ในสภาพอากาศอันหนาวเหน็บของแถบขั้วโลกเหนือ อีกทั้งหิมะยังปกคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งนั้นก็แปลว่าทัศนียภาพพื้นที่สีเขียวของพวกเขาก็แทบจะเป็นศูนย์เลย แต่อากาศหนาวก็ไม่เป็นอุปสรรค พวกเขาได้สร้างที่อยู่อาศัยเพื่อที่จะรับมือกับสภาพอากาศอันเลวร้าย โดยมีชื่อเรียกว่า “อิกลู”เป็นที่รู้จักกันว่า บ้านเอสกิโม ประกอบไปด้วยน้ำแข็ง โดยจุดเด่นของมันคือ ด้วยความที่คุณสมบัติของมันเป็นน้ำแข็ง ทำให้บ้านเอสกิโมนั้นสามารถเก็บกักความร้อนได้ดีเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ทำให้บริเวณภายในของบ้านนั้น มีอุณหภูมิที่อุ่นกว่าภายนอกมากถึง 4-15 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว
และด้วยอานิสงค์จากการสร้างอิกลูของชาวเอสกิโม โรงแรมทั่วโลกต่างได้นำแนวคิดนั้นเองมาปรับใช้ พร้อมกับทำให้การอาศัยอยู่กับน้ำแข็งนั้น เป็นเรื่องที่สุดแสนสบายสำหรับคนปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาการบนจานน้ำแข็ง การนอนแผ่ราบไปกับเตียงน้ำแข็งที่ตกแต่งไปด้วยขนสัตว์ ที่ทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในพระราชวัง พร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดหรู่ หรือแม้กระทั่งชื่นชมการละลายของแผ่นน้ำแข็ง และแสงอโรร่าสุดสวยงาม
สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับบรรยากาศหน้าหนาวของแท้ วันนี้ทางเนชั่ลแนล จีโอกราฟฟิก ได้รวบรวม โรงแรมน้ำแข็ง สไตล์อิกลู 9 แห่งมาไว้ในบทความนี้แล้ว
Borealis Basecamp, Alaska
ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของอลาสกานั้น จะมาเที่ยวกันในช่วงของฤดูร้อนกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยความที่ทางโรงแรม Borealis Basecamp ตั้งอยู่บน 25 ไมล์ในทางเหนือของ Fairbanks และบริเวณรอบยังมีต้นสปรูซและต้นเบิร์ชปกคลุมไว้ ทำให้มีความเหมาะกับการไปพักผ่อน สัมผัสอากาศหนาวเป็นอย่างยิ่ง ด้วยโดมขนาดความยาว 10 ฟุต ทั้งหมด 10 อาคาร โดยวิวสามารถมองเห็นได้ผ่านทางเพดานของห้องได้อย่างโดยตรงเลย พร้อมกับวิวในตอนกลางคืนที่สามารถมองเห็นแสงออโรร่าได้อย่างชัดเจน เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย
ในส่วนของวัสดุที่ใช้ในการสร้างห้องพักคือฉนวนใยแก้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับวัสดุที่นักวิจัยใช้ในการอยู่อาศัย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ดีไซน์ภายในที่เป็นแบบยุโรปพร้อมกับโต๊ะทำอาหารที่ทำมาจากต้นต้นเบิร์ชที่ปลูกเองในท้องถิ่น ห้องน้ำส่วนตัวพร้อมกับระเบียง ระบบทำความร้อนภายใน โดยก่อนจะไปสัมผัสกับปูอลาสกา พร้อมกับชมวิวของโดม Wickersham และ White Mountains ที่่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนั้น แขกสามารถไปเดินเล่นถ่ายรูปแสงออโรร่า หรือแม้กระทั่งนั่งรถสุนัขเคลื่อนชมวิวรอบ ๆ ก่อนได้
ICEHOTEL, Sweden
ขึ้นชื่อว่าเป็น โรงแรมน้ำแข็ง ที่เปิดมายาวนานที่สุด (เปิดตั้งแต่ปี 1990) ICEHOTEL ก็ต้องมีความแตกต่างจาก โรงแรมน้ำแข็ง ด้วยกันเองหน่อย โดยทางโรงแรมนั้นได้ถูกแปลงโฉมใหม่ด้วยก้อนน้ำแข็งกว่า 5,000 ตันจากทะเลสาบน้ำแข็ง Torne ในประเทศสวีเดน
กิจกรรมการตกแต่งแปลงโฉมของโรงแรมในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 29 ก็ได้รับความสนใจจากจิตรกรทั่วทุกมุมโลก โดยในปีนี้มีผู้ให้ความสนใจทั้งหมด 35 ราย แขกสามารถนอนพักท่ามกลางเหล่าลูกอมยักษ์ในร้านขายของ อีกทั้งยังสามารถชมนกนางนวลบินเล่นกันอย่างสนุกสนาน หรือแม้กระทั่งตั้งแคมป์กลางป่าก็ได้
Hotel of Ice Balea Lake, Romania
The Hotel of Ice Balea Lake ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศโรมาเนีย เหนือน้ำทะเล 6,500 ฟุต ทางโรมแรมได้รับการปรับแต่งใหม่ทุกเดือนธันวาคม และแม้ว่าทางโรมแรม จะอยู่ใกล้กับถนนเส้นยอดนิยมอย่าง Transfagaransan ที่ตัดผ่านทางตอนใต้ของยอดเขาคาร์เพเทียน แต่ทว่าในฤดูหนาวนั้น ถนนจะปิดให้บริการชั่วคราว โดยทางเดียวที่สามารถเข้าออกโรงแรมได้ก็คือผ่านทางรถเคเบิลที่ทางโรงแรมจัดขึ้นให้เท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการล่องแก่งบนหิมะ เช่ารถหิมะจากทางโรมแรมเอง หรือแม้กระทั่งเดินสำรวจพื้นที่ในบริเวณของ Winter Park ได้ โดยในช่วงเย็น จะมีการเสริฟ์อาหารเย็น 4 คอร์สภายในห้องอาหารที่ทุกอย่าถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำแข็ง โดยมีเพียงแค่เครื่องครัวกับอาหารเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น
Sorrisniva Igloo Hotel, Norway
จากทั้งหมด 26 ห้องนอน มีให้เลือกแนวทั้งหมด 4 แบบ บาร์น้ำแข็ง หรือแม้กระทั่งโบสถ์ขนาดย่อมที่ทำขึ้นด้วยน้ำแข็ง ทั้งหมดนี้มีอยู่ใน The Sorrisnva Igloo Hotel ด้วยความร่วมมือจากคนงานท้องถิ่นและจิตรกรกว่า 30 คน กำแพงน้ำแข็งของปีนี้ ถูกตกแต่งไปด้วยความหลัง ประเพณี ความเชื่อของชาวเอสกิโม ไม่ว่าจะเป็นไวกิ้ง โทรลล์ส และสัตว์ป่าในตำนาน โดยที่พักของแขกจะประกอบไปด้วย เตียงน้ำแข็งที่ประดับไปด้วยพรม และหนังกวางเรนเดียร์ และในช่วงฟ้าม่น แขกสามารถเช่ารถหิมะไปสำรวจหุบเขา Finnmark หรือว่าเลือกพักในเต้นท์ (Lavvo) เพื่อที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวซามี
Whitepod Eco-Luxury Hotel, Switzerland
Whitepod Eco-Luxury Hotel ตั้งอยู่ทางตีนเขาของหุบเขา Dents-du-Midi ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเทือกเขาแอลป์ ทำให้วิวทิวทัศน์โดยรอบของโรงแรมนั้นจึงมีความสง่างามในชนิดที่ว่าไม่เป็นสองรองใคร โดยทางห้องพักนั้นมีตั้งแต่สไตล์ล่ำสมัย ไปจนถึงสไตล์ที่ออกแบบมาให้รู้สึกเหมือนว่ากำลังตั้งแคมป์อยู่ในป่าเขา ทางโรงแรมเปิดให้เข้าพักได้ตลอดทั้งปี โดยมีเตาผิงช่วยสร้างความอบอุ่น อีกทั้งบริเวณภายนอกของทางโรงแรมสามารถปรับเปลี่ยนภายนอกให้เข้ากับสภาพอากาศของประเทศสวิสเซอร์แลนด์อีกด้วย สำหรับในช่วงฤดูหนาว เด็ก ๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับการเดินไปบนหิมะ โดยมีสุนัขเลื่อนคอยนำทาง และในส่วนของผู้ปกครองนั้น ก็จะมีห้องซาว์นาและการนวดคลายเส้นรองรับไว้เช่นเดียวกัน
Kakslauttanen Arctic Resort, Finland
Kakslauttanen Arctic Resort ตั้งอยู่ระหว่างทางไป Arctic Sea ใกล้ ๆ อุธยานแห่งชาติ Urho Kekkonen ซึ่งเป็นอุธยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ โดยจะพบเห็นกับบ้านเอสกิโมที่ทำจากแก้วขนาด 2-4 คน เรียงไว้เพื่อที่จะเป็นที่ชมแสงเหนือ ที่จะสาดส่องสวยงามรอบ ๆ ป่าแลปแลนด์ พื้นที่ส่วนใหญ่ของทางโรงแรมนั้นประกอบไปด้วยกระท่อมไม้ ที่ประดับไปด้วยหลังคาแก้ว ห้องภาพที่ถูกจัดแสดงโดยสมาชิกของสมาคมจิตรกรแลปแลนด์ ห้องซาว์น่าในแบบของชาวพื้นเมือง 5 ห้อง และสระว่ายน้ำที่เป็นน้ำแข็ง
Hotel Igloo Grandvalira, Andorra
Hotel Igloo Grandvalira ก็ถูกปรับแต่งดีไซน์ใหม่ทุกปี เฉกเช่นเดียวกับ โรงแรมน้ำแข็งทั่วไป ทางโรงแรมจะมีทางเชื่อมที่ตกแต่งด้วยน้ำแข็งระหว่างห้องพักไปถึงอ่างจากุซซี่ที่จัดไว้ให้สำหรับแขกข้างนอก โดยในบางปี ทางโรงแรมจะเปิดที่พักให้เข้ามาอาศัยเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น ในทุก ๆ ปี โรงแรมมักจะย้ายสถานที่ตั้งอยู่เสมอ แต่ก็ยังไม่ออกไปจากบริเวณรีสอร์ทของ Graandvalira โดยปีก่อน ทางโรงแรมได้เปิดให้เข้าพักเพียง 5 ห้องเท่านั้น โดยภายในแต่ละห้อง จะมีงานศิลปะยอดนิยมที่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ จากพิพิษภัณฑ์ของประเทศอันดอร์ร่า อย่าง Carmen Thyssen ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ทางโรงแรมเองได้โฟกัสไปที่การจัดทำห้องอาหารน้ำแข็ง ที่จะเสริฟ์อาหารสัญชาติอันดอร์ร่าทั้งหมด 3 คอร์ส อย่างเช่น Cod Gratin with Garlic Muslin, Escudella Soup, และ Catalan Duck Leg โดยทุกมื้อจะถูกเสิร์ฟบนน้ำแข็งด้วยกันหมด
White Desert Antarctica’s Whichaway Basecamp, Antarctica
เมื่อพูดถึงแอนตาร์คติกา เรื่องอินเตอร์เน็ตก็แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย รวมถึงการเล่นน้ำก็คงเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน เพราะน้ำไม่เป็นน้ำแข็งก็มีสภาพที่หนาวเกินกว่าจะลงไปเล่น แต่ก็แลกมาด้วยความเงียบสงบ เหมาะสำหรับใครที่อยากมาพักผ่อน ผ่อนคลายสมองเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดและห้องไว้นั่งเล่น คิดไอเดียทำงานอีกด้วย พร้อมกับเตาสำหรับสร้างความอบอุ่นให้แก่แขกที่มาพัก รวมไปถึงห้องรับประทานอาหารสุดหรู โรงแรมตั้งอยู่ในบริเวณของสำนักงานวิจัยวิทยาศาสตร์ของประเทศอินเดียและรัสเซีย โดยเพนกวินอาเดลีมักจะมาผสมพันธุ์กันในบริเวณนี้กันเป็นประจำ และทางเดียวที่จะสามารถเข้าพักโรงแรม Whichaway Basecamp แห่งนี้ได้คือ การเช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจากเมืองเคป ทาวน์
Hotel Arctic, Greenland
***แปลและเรียบเรียงโดย รชตะ ปิวาวัฒนพานิช
โครงการนักศึกษาฝึกงาน กองบรรณาธิการ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย
บทความอื่น ๆ : ดำสำรวจใต้ผืนน้ำแข็งของกรีนแลนด์