เรื่อง ซาราห์ กิบเบนส์
ในคลิปวิดีโอที่ถ่ายจากโดรนเหนือน่านน้ำนอกชายฝั่งดินแดนนูนาวุตของแคนาดา นาร์วาฬตัวหนึ่งใช้งาของมันฟาดปลาค้อดอาร์กติกก่อนจับกินเป็นอาหาร แรงกระแทกอาจทำให้ปลามึนงงและกลายเป็นเหยื่อที่จับได้ง่ายของนาร์วาฬ
แท้จริงแล้ว งาของนาร์วาฬคือฟันที่บิดเกลียวยื่นออกมาจากส่วนหัว และสามารถยาวได้เกือบถึงสามเมตร นอกจากนั้นงาของนาร์วาฬยังปกคลุมไปด้วยปลายประสาทนับพันๆ ที่ช่วยให้พวกมันรับรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัว
นาร์วาฬอาศัยอยู่ในน่านน้ำห่างไกล และเรายังรู้จักพฤติกรรมของพวกมันน้อยมาก ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้แต่คาดเดาว่า นาร์วาฬใช้งาของมันทำอะไร พฤติกรรมที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นครั้งแรกนี้จึงช่วยไขปริศนาที่มีมาช้านานได้
แบรนดอน ลาฟอเรสต์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านชนิดพันธุ์และระบบนิเวศแถบอาร์กติกจากกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประจำแคนาดา อธิบายว่า เพราะเหตุใดนาร์วาฬจึงเป็นชนิดพันธุ์ที่เรารู้จักน้อยมาก
“พวกมันไม่กระโดดทิ้งตัวเหมือนวาฬชนิดอื่นๆ และค่อนข้างขี้อายครับ คลิปวิดีโอนี้จึงให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการใช้งาของมัน” ลาฟอเรสต์บอก
ที่ผ่านมา ลาฟอเรสต์ซึ่งทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลแคนาดา ใช้เวลาศึกษานาร์วาฬในถิ่นอาศัยฤดูหนาวของพวกมัน แต่ความที่ถิ่นอาศัยของพวกมันอยู่ห่างไกล การสังเกตพฤติกรรมด้วยสายตาจึงทำได้ค่อนข้างยาก
มารีอาน มาร์กู นักวิจัยจากกรมประมงและมหาสมุทรของแคนาดา บอกว่า การใช้โดรนเป็นวิธีใหม่ที่ช่วยให้เราศึกษาสัตว์ผู้ลึกลับเหล่านี้ได้ เธอบอกว่า “โดรนเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก เราสามารถเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน” ที่ผ่านมา การใช้เครื่องบินเล็กให้ภาพได้ไม่ชัดเจน และบ่อยครั้งทำให้สัตว์ที่เป็นเป้าหมายตื่นตกใจ
ขณะที่คลิปวิดีโอนี้ช่วยยืนยันทฤษฎีหนึ่งเกี่ยวกับการใช้งาของนาร์วาฬ พวกมันยังอาจใช้งาเพื่อการอื่นด้วย เช่น เจาะน้ำแข็ง ใช้เป็นอาวุธต่อสู่กัน ช่วยเรื่องการคัดเลือกทางเพศ (sexual selection) หรือเป็นเครื่องมือเกี่ยวข้องกับการใช้เสียงสะท้อน เพื่อนำทางหรือระบุตำแหน่ง (echolocation) คล้ายโซนาร์ อย่างไรก็ตาม ลาฟอเรสต์คิดว่า งาเหล่านี้อาจเป็นอวัยวะรับความรู้สึกที่สำคัญมากเพราะปกคลุมไปด้วยปลายประสาทนับพันๆ และรูขุมขนที่ช่วยให้นาร์วาฬรับรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว
งาคือฟันเขี้ยวข้างซ้ายที่ยื่นออกมาจากส่วนหัวของนาร์วาฬเพศผู้ ขณะที่ฟันเขี้ยวข้างขวายังฝังอยู่ในขากรรไกร และไม่มีฟันซี่อื่นใดยื่นออกมาจากด้านในปาก นาร์วาฬใช้วิธีดูดและกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว
ภัยคุกคามร้ายแรงต่อนาร์วาฬซึ่งประชากรร้อยละ 90 อาศัยอยู่ในน่านน้ำของแคนาดา ได้แก่ การพัฒนาอุตสาหกรรม กิจกรรมการทำเหมืองในทะเล การท่องเที่ยว และการเดินเรือ เสียงใต้น้ำจากกิจกรรมเหล่านี้อาจไปรบกวนการสื่อสารของพวกมัน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังอาจส่งผลกระทบต่อนาร์วาฬเช่นกัน เพราะพวกมันเป็นสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่สายใยอาหาร (food web) ขึ้นอยู่กับน้ำแข็งทะเล (sea ice) อย่างมาก น้ำทะเลที่อุ่นขึ้นจึงส่งผลกระทบต่อพวกมันชนิดไม่อาจหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ การอยู่รอดของพวกมันยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชุมชนชาวอินูอิตหรือเอสกิโมที่ต้องพึ่งพานาร์วาฬเป็นอาหารและใช้งาทำงานฝีมือที่ช่วยหล่อเลี้ยงวิถีชีวิต
ภารกิจสำคัญต่อไปของนักวิจัยคือการระบุพื้นที่หรือแหล่งตกลูกของนาร์วาฬ เพื่อช่วยวางแผนในการอนุรักษ์หรือปกป้องพวกมันต่อไป
อ่านเพิ่มเติม : ศึกชิงนางอันดุเดือดของหมึกกระดอง, สัตว์ผสมพันธุ์ในน้ำได้อย่างไร, ชมคลิปวิดีโอที่เผยกลไกการทำงานอันน่าทึ่งของปีกเต่าทองเป็นครั้งแรก