ค้นพบเมกะแรปเตอร์สายพันธุ์ใหม่ พร้อมมื้ออาหารสุดท้ายในปาก

“ค้นพบเมกะแรปเตอร์สายพันธุ์ใหม่ พร้อมมื้ออาหารสุดท้ายในปาก

กระดูกจระเข้ถูกล็อกอยู่ระหว่างขากรรไกรของนักล่าอายุ 70 ล้านปี

ซึ่งเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตที่หาได้ยากยิ่ง”

ในขณะที่ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ นักล่าชั้นยอดตัวใหญ่ที่ไม่ต้องการคำแนะนำตัวได้ออกอาละวาดในทวีปอเมริกาเหนือยุคก่อนประวัติศาสตร์ นักล่าชั้นยอดอีกตัวหนึ่งก็เป็นใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ที่เป็นอาร์เจนตินาในปัจจุบัน นั่นคือ เมกะแรปเตอร์ โฮอากีนแรปตอร์ คาซาลี (megaraptor Joaquinraptor casali อ่านตามสำเนียงอเมริกาใต้) ที่เพิ่งค้นพบใหม่ 

แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นเกิดขึ้นเมื่อนักบรรพชีวินวิทยาได้ขุดค้นไดโนเสาร์ตัวนี้ขึ้นมา ภายในขากรรไกรอันใหญ่โตมีกระดูกขาหน้าของจระเข้ยุคครีเทเชียสตัวหนึ่งซ่อนอยู่ เมกะแรปเตอร์ตัวนี้กำลังเผยให้เห็นอาหารมื้อสุดท้ายของมันเมื่อประมาณ 70 ล้านปีก่อน

“ฟอสซิลที่บันทึกพฤติกรรม มันพบน้อยมาก ๆ จนคุณต้องฉลองเมื่อเจอ” แมทธิว ลามันนา (Matthew Lamanna) นักบรรพชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติคาร์เนกีในพิตต์สเบิร์ก และนักสำรวจของเนชั่นแนล จีโอกราฟิก กล่าว

นอกจากกะโหลกของเมกะแรปเตอร์แล้ว ทีมของลามันนายังขุดพบแขน ขาบางส่วน ซี่โครง กระดูกสันหลัง และชิ้นส่วนอื่นๆ ที่กลายเป็นหินอีกด้วย พวกเขาประเมินว่าไดโนเสาร์ตัวนี้มีความยาวมากกว่า 7 เมตร และหนักกว่า 1 ตัน

ตามรายงานที่เผยแพร่บนวารสาร Nature Communications เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ลามันนาและเพื่อนร่วมงานได้บรรยายถึงสายพันธุ์ใหม่นี้ว่ามันน่าจะงับเหยื่อด้วยขากรรไกรยาวแหลมและกรงเล็บที่โค้งยาวอย่างน่าประหลาดใจ แม้จะพบเพียงโครงกระดูกบางส่วน แต่มันก็ถือเป็นหนึ่งในเมกะแรปเตอร์ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมา

ยิ่งกว่านั้น การที่พบว่ามันมีมื้ออาหารสุดท้ายติดมาด้วยยิ่งสร้างความพิเศษให้กับนักวิทยาศาสตร์ มันเผยให้เห็นว่าสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เหล่านี้อยู่สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศเช่นไร ซึ่งหาได้ยากยิ่งและที่ผ่านมาก็พบเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นเช่น ไทรันโนซอรัสที่ชอบกินน่อง และโมซาซอร์ที่มีชิ้นปลาอยู่ในไส้ ฟันที่แหลมคมบอกเราได้ว่าเมกะแรปเตอร์กินเนื้อสัตว์ แต่เศษอาหารที่เก็บรักษาไว้เหล่านี้สามารถแสดงให้เห็นว่ามีอะไรบ้างในเมนู

เมกะแรปเตอร์ลึกลับ

ในปี 2019 ลูซิโอ อิบิริกู (Lucio Ibiricu) นักบรรพชีวินวิทยาจากสถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาในอาร์เจนตินา กำลังสำรวจหินยุคครีเทเชียสในจังหวัดชูบุตในตอนกลางของปาตาโกเนีย เพื่อหาแหล่งฟอสซิลใหม่

ระหว่างที่เขาค้นหานั้น บรูโน อัลวาเรซ (Bruno Alvarez) เพื่อนร่วมงานของอิบิริกู ได้มองเห็นชิ้นส่วนกระดูกขนาดเล็กยื่นออกมาจากหิน มันดูน่าสนใจมากแต่เขาไม่สามารถขุดได้ทันที ต้องรออีกหลายเดือนต่อมา พวกเขาจึงได้กลับมาอีกครั้งเพื่อตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายในอย่างระมัดระวัง

“ในตอนนั้น เราตระหนักได้ว่าการค้นพบนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทีมอย่างแน่นอน” อิบิริกูกล่าว กะโหลกและกระดูกแขนเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าฟอสซิลนี้น่าจะเป็นของเมกะแรปเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มไดโนเสาร์นักล่าลึกลับที่อาศัยอยู่ในเอเชียยุคก่อนประวัติศาสตร์ ออสเตรเลีย และอเมริกาใต้

อันที่จริงแล้ว เมกะแรปเตอร์สร้างความสับสนให้กับนักบรรพชีวินวิทยามาหลายครั้ง ตั้งแต่สกุลของมันที่ถูกตั้งชื่อว่า ‘เมกะ’ ซึ่งหมายความว่าใหญ่กว่าแรปเตอร์อย่างนักล่าเวโลซีแรปเตอร์ที่มีขนาดเท่าไก่งวด ทั้งคู่มีจมูกยาวและต่ำ แขนที่แข็งแรงพร้อมกรงเล็บขนาดใหญ่ 

นักบรรพชีวินวิทยาตั้งสมมติฐานว่าพวกมันเป็นญาติใกล้ชิดของไทรันโนซอรัส แต่ก็สามารถเจริญเติบโตได้ในถิ่นที่อยู่อาศัยที่ไม่มีไทรันโนซอรัส ทว่าจนถึงปัจจุบันสายพันธุ์เมกะแรปเตอร์ส่วนใหญ่นั้นรู้จักได้แค่จากซากกระดูกที่แตกหักเท่านั้น

“เมกะแรปเตอร์เป็นปริศนามาตลอด เนื่องจากฟอสซิลส่วนใหญ่ของพวกมันถูกทุบทำลายจนเละเทะ” ลามันนากล่าว “(ฟอสซิลที่พบ)สมบูรณ์เพียงพอที่จะแสดงให้เราเห็นว่าไดโนเสาร์นักล่าที่พิเศษเหล่านี้เคยมีอยู่จริง แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะบอกอะไรเราเกี่ยวกับพวกมันได้มากนัก”

เชื่อกันว่าเมกะแรปเตอร์ยุคแรกสุดจะมีอายุราว 132 ล้านปีก่อน ขณะที่ โฮอากีนแรปตอร์ (ตัวที่พบใหม่) น่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มสุดท้ายที่มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 70 ถึง 66 ล้านปีก่อน ในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ก่อนที่เคราะห์น้อยจะทำให้ยุครุ่งเรืองของไดโนเสาร์สิ้นสุดลง

“การค้นพบครั้งใหม่นี้นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจว่าไดโนเสาร์เมกะแรปเตอร์สามารถอยู่รอดได้จนถึงปลายยุคมีโซโซอิก” เฟอร์นันโด โนวาส (Fernando Novas) นักบรรพชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติเบอร์นาร์ดิโน ริวาดาเวีย อาร์เจนตินา กล่าว

ก่อนหน้านี้โนวาสเคยค้นพบเมกะแรปเตอร์ ไมพ มาโครโธแรกซ์ (Maip macrothorax) ในอาร์เจนตินาด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ค้นพบเมกะแรปเตอร์ตัวใหม่ เขาจึงตั้งข้อสังเกตว่าเมกะแรปเตอร์ในอเมริกาใต้มีจำนวนมากและมีความหลากหลายมาก

อาหารเย็นมื้อสุดท้ายของไดโนเสาร์?

โฮอากีนแรปตอร์ เป็นนักล่าชั้นยอดที่ออกล่าเหยื่อผ่านป่าทึบทางตอนใต้ของอาร์เจนตินาได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันกำลังกินจระเข้ก่อนที่จะตายจริงหรือ?

เป็นไปได้ว่ากระดูกจระเข้อาจเข้าไปติดอยู่ระหว่างขากรรไกรของเมกะแรปเตอร์โดยบังเอิญ แต่หากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากทำให้ซากสัตว์หลายชนิดปะปนกัน แหล่งฟอสซิลเหล่านี้คงกลายเป็นเพียงเศษซากกองกระดูกที่ปะปนกัน

แต่กระดูกแขนของโฮอากีนแรปตอร์กลับมีจุดที่เชื่อมต่อกันบางส่วน มีชิดกัน และบางส่วนยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ด้วยซ้ำ ตำแหน่งของกระดูกเหล่านี้ที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงบ่งชี้ว่ากระแสน้ำที่ฝังฟอสซิลนั้นไม่แรงนัก จึงมีโอกาสน้อยที่จะพัดพากระดูกอื่น ๆ จากบริเวณโดยรอบเข้ามา

ทีมวิจัยกล่าวว่าจะต้องมีการศึกษาต่อไป แต่ลักษณะกระดูกของไดโนเสาร์ที่ถูกหยุดนิ่งไว้บ่งชี้ว่าจระเข้เป็นอาหารมากกว่าที่จะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ “พระแม่ธรณีก็กำลังเล่นตลกอย่างโหดร้ายกับลูซิโอ ตัวฉันเอง และผู้เขียนร่วมของเรา เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไดโนเสาร์กับจระเข้นี้อย่างน่าประหลาดใจ” ลามันนากล่าว

อิบิริคูเสริมว่าไม่มีกระดูกอื่นใดนอกจากกระดูกจระเข้ที่พบใกล้กับ โฮอากีนแรปตอร์ ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ไดโนเสาร์จะถูกฝังพร้อมกับอาหารมื้อสุดท้าย

“นี่เป็นแง่มุมที่น่าตื่นเต้นของการค้นพบนี้” โนวาสกล่าว “และผมคิดว่ามันอาจเป็นภาพที่แสดงให้เห็นปฏิสัมพันธ์ทางนิเวศวิทยาระหว่างกลุ่มนักล่าสองกลุ่มที่แตกต่างกันนี้”

เมื่อเดือนที่แล้ว โนวาสและเพื่อนร่วมงานได้บรรยายถึงจระเข้สายพันธุ์ใหม่ในยุคครีเทเชียสตอนปลายชื่อ Kostensuchus atrox จากชั้นหินที่มีอายุใกล้เคียงกับยุคของโฮอากีนแรปตอร์ ทำให้มันอาจเป็นจระเข้ประเภทเดียวกับที่กลายเป็นอาหารในปากของเมกะแรปเตอร์ตัวนี้

สืบค้นและเรียบเรียง

วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา

https://www.nationalgeographic.com

https://www.nationalgeographic.


อ่านเพิ่มเติม : ข่านคูลู ไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่จากมองโกเลีย

ที่ใกล้เคียงที่สุดของ T- rex

© COPYRIGHT 2025 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.