เช้าตรู่ของวันหนึ่งปลายเดือนสิงหาคม ปี 2017 เจ้าหน้าที่ศุลกากรสหรัฐฯสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากล มันมีรูปร่างหน้าตาคล้ายแมวและกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นของรถยนต์ Chevy Camaro ระหว่างการเดินทางข้ามจากเม็กซิโกเข้ามาในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ข้อมูลจากศาลระบุว่า ผู้โดยสารในรถคันนั้นคือ Eriberto Paniagua วัย 21 ปี ตัวเขานั่งอยู่บนเบาะและบอกแก่เจ้าหน้าที่ว่าสัตว์ที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เขานั้นเป็นแค่ “แมว” เท่านั้น
แต่ขนสีส้มที่สลับกับลวดลายสีดำบ่งชี้ว่านี่ไม่ใช่แค่แมวบ้านธรรมดา ในเวลาต่อมาเจ้าสัตว์ตัวนี้ถูกส่งไปตรวจสุขภาพยังสวนสัตว์ San Diego มันคือลูกเสือเบงกอลวัย 4 – 5 ลัปดาห์ ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ฟันของมันเพิ่งจะขึ้นได้ราวสองสัปดาห์ เจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์ตั้งชื่อให้มันว่า “Moka” และขณะนี้มันกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดีที่นั่น
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2018 Luis Valencia วัย 18 ปี ผู้ทำหน้าที่ขับรถยนต์ถูกตัดสินโทษจำคุก 6 เดือน ฐานลักลอบนำเข้าเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกา
พระราชบัญญัติว่าด้วยสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐฯ ห้ามการนำเข้าเสือหรืออวัยวะของเสือเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้แม้การกระทำดังกล่าวจะเป็นการก่ออาชญากรรมต่อรัฐบาลกลาง แต่ทางสหรัฐฯ อนุญาตให้สามารถเก็บของกลางนั้นๆ ที่พบไว้ในประเทศได้
ด้วยความผิดฐานลักลอบนำเข้าสัตว์ป่า เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา Valencia จำต้องเผชิญกับโทษจำคุก 20 ปี หรือถูกปรับเป็นเงิน 250,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 7,900,000 บาท ส่วน Paniagua ผู้มีส่วนร่วมในการลักลอบครั้งนี้ด้วยจะถูกพิจารณาคดีในวันที่ 26 นี้ และอาจได้รับโทษแบบเดียวกัน
รายงานจากสำนักข่าวบีบีซี ทนายความของ Valencia อ้างว่าตัวเขาต้องการที่จะนำลูกเสือไปเป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้านใน เมือง Perris รัฐแคลิฟอร์เนีย ตัวเขาเล่ารายละเอียดให้แก่หน่วยงานเพื่อสัตว์ป่าและปลาของสหรัฐฯฟังว่า เขาเห็นชายคนหนึ่งมาพร้อมกับเสือตัวเต็มวัย ในเมืองตีฮัวนา จึงตัดสินใจซื้อลูกเสือจากชายคนนั้นมาในราคา 300 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 9,400 บาท) แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับคำให้การเมื่อเจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นข้อความและภาพถ่ายที่เขาติดต่อกับพวกลักลอบค้าสัตว์ป่า ไม่กี่วันก่อนเดินทางไปเม็กซิโก โดยในโทรศัพท์ของเขานั้นมีภาพของลูกเสือหลายตัวรวมไปถึงเสือตัวเต็มวัยและอัยการยังพบข้อความที่เขากล่าวอ้างเกี่ยวกับรายได้หลายพันดอลล่าร์ที่ได้มาจากการขายลิง, เสือจากัวร์ และสิงโตอีกด้วย
Dan Crum เจ้าหน้าที่พิเศษจากหน่วยงานด้านสัตว์ป่าและปลาของสหรัฐฯระบุว่าผลการสอบสวน Valencia พบว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งเป็นธุรกิจผิดกฎหมายที่ทำรายได้มากถึงหลายล้านดอลล่าร์สหรัฐทั่วโลก จากผลการสอบสวนนำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องในขบวนการเพิ่มเติมอีก 16 ราย และเข้าช่วยเหลือสัตว์ป่าอีกราว 200 ตัว ได้แก่ ตัวเงินตัวทอง, งูเห่า และนกที่มีเสียงร้องไพเราะอีกจำนวนหนึ่ง
บริเวณชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐ สถานที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าจับกุม Valencia และยึดลูกเสือมานั้นเป็นพื้นที่สีแดงสำหรับขบวนการค้าสัตว์ป่า มากกว่า 1 ใน 4 ของสินค้าจากสัตว์ป่า จากบรรดาเรือลักลอบที่ถูกจับได้ในปี 2005 – 2014 ล้วนมาจากภูมิภาคลาตินอเมริกา ส่วนสัตว์ป่ายอดนิยมที่ถูกลักลอบนำเข้าแบบเป็นๆ ได้แก่นกแก้วและสัตว์เลื้อยคลาน ข้อมูลจาก Nicholas Chavez เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านสัตว์ป่าและปลาของสหรัฐฯ
“ขบวนการค้าสัตว์ป่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่มาก” Crum กล่าว “สหรัฐอเมริกาเป็นทั้งจุดหมายปลายทางและจุดขนส่งสินค้า ซึ่งพรมแดนระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและเม็กซิโกคือพื้นที่ที่เป็นปัญหามากที่สุด”
เป็นเวลากว่า 26 ปีแล้ว ที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถยึดเสือที่ยังมีชีวิตได้ระหว่างการขนส่ง ปกติแล้วเสือไม่ใช่สัตว์ที่ถูกขนส่งบ่อยนักในสหรัฐฯ เนื่องจากขนาดที่ใหญ่โตของมันนั้นเป็นที่สังเกตได้ง่าย แต่ข้อมูลจากศูนย์ฟื้นฟูดูแลแมวใหญ่ในฟลอริดาเผยว่า มีเสือในสหรัฐอเมริกามากกว่าพื้นที่อื่นๆ ในโลก ประมาณตัวเลขที่จำนวน 5,000 ตัว ข้อมูลจากกองทุนสัตว์ป่า แต่ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่แล้วเกิดในสวนสัตว์ ไม่ใช่่ลักลอบเข้ามา
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า Valencia และ Paniagua ตั้งใจจะทำอย่างไรกับลูกเสือ ส่วนใหญ่แล้วชะตากรรมของพวกมันจะถูกขายในฐานะสัตว์น่าตื่นเต้นเร้าใจ พวกมันอาจลงเอยด้วยการเดินไปตามริมถนนสักแห่งรอให้ใครก็ตามที่สนใจจ่ายเงินเพื่อจะสัมผัสหรือถ่ายรูปเซลฟี่กับมัน
Carole Baskin เจ้าหน้าที่จากศูนย์ฟื้นฟูดูแลแมวใหญ่ในฟลอริดาขนาดของมันอาจเป็นอันตรายมากกว่าความบันเทิง “ในวัย 16 สัปดาห์ ลูกเสือเหล่านี้ตัวโตแล้ว พวกมันมีกรงเล็บที่ใช้ตะปบและฟันที่กัดคุณได้” นอกจากนั้นเธอยังกังวลเกี่ยวกับเสือตัวเต็มวัยที่อาจเป็นแม่ของมัน ชะตากรรมของมันอาจจะลงเอยด้วยการถูกฆ่า อวัยวะถูกส่งต่อไปยังตลาดในเอเชีย ที่ค่านิยมและขบวนการลักลอบเหล่านี้ได้ลดประชากรเสือแต่เดิม 50,000 – 80,000 ตัวเหลือเพียงไม่ถึง 3,500 ตัวในปัจจุบัน ภายในเวลาแค่ศตวรรษเดียว
เรื่อง Jani Actman
อ่านเพิ่มเติม