ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง คุณหมออิราคลี คเวดากูริดเซ (Irakli Khvedaguridze) มักควบม้าขาว “บิโชล่า” ของเขาเดินทางไปหาคนไข้ เมื่อหิมะในฤดูหนาวปกคลุมสูงเกินกว่าจะควบม้า คุณหมอต้องทำสกีไม้ที่ทำจากสนเบิร์ชไว้ใช้สำหรับการสัญจร หากหิมะหนาสูงเกินหัวเข่า คุณหมอก็จำเป็นจะต้องเดินเท้าไปหาคนไข้
คุณหมออิราคลีเป็นนายแพทย์วิชาชีพเพียงผู้เดียวในดินแดน “ตูเชติ” (Tusheti) ของประเทศจอร์เจียซึ่งเป็นแถบชนบทบนภูเขาที่มีพื้นที่กว้างถึง 1 พันตารางกิโลเมตร ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว คุณหมอก็ต้องเดินทางไปหาคนไข้อยู่เสมอ ทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เขาไม่ลืมที่จะพกมีด ปืนยาวล่าสัตว์ กล่องไม้ขีดไฟ เสบียงอาหารอย่างน้อยสำหรับสองวันและอุปกรณ์การแพทย์ไปด้วย “ไม่ว่าฤดูหรืออากาศจะเป็นยังไง ทุกครั้งที่คุณออกเดินทาง อะไรก็เกิดขึ้นได้ คุณอาจจะตกเขาหรือบาดเจ็บเป็นแผล มันเป็นชีวิตของการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและในดินแดนห่างไกล” คุณหมอเล่า
คุณหมอเป็นที่พึ่งของชุมชนชาวทุช (Tush) ที่ต้องอาศัยอยู่บนภูเขาในช่วงฤดูหนาวยาว 8 เดือน ซึ่งหลายปีก่อนเคยมีเด็กชายเดินไปเหยียบระเบิดใต้ดินเก่าจนเกือบขาขาดซึ่งคุณหมออิราคลีได้ช่วยรักษาชีวิตของเด็กชายคนนั้นไว้ได้ และเมื่อไม่กี่ปีก่อน เคยมีชายเมาสุราในหมู่บ้านโอมาโลประสบอุบัติเหตุยิงตัวเองด้วยปืนยาวล่าสัตว์ เขาต้องถูกเคลื่อนย้ายทางอากาศลงไปแถบพื้นราบของจังหวัดคาเคตี
แต่โดยปกติแล้ว คุณหมอมักทำหน้าที่รักษาคนไข้ที่มีอาการทั่วๆ ไป เช่นชายเลี้ยงแกะที่มีอาการปวดหลัง ผู้สูงอายุที่มีอาการแสบร้อนกลางอก นักท่องเที่ยวชาวเช็กที่ถูกสุนัขเลี้ยงแกะขย้ำระหว่างเดินเขา หรือนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่มีอาการป่วยหลังจากดื่มน้ำจากลำธารธรรมชาติ
ขณะที่คุณหมอกำลังเยี่ยมเยือนเพื่อนของเขาในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเพียงบ้านไม้และเล้าแกะไม่กี่หลังเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คุณหมอได้รับโทรศัพท์จากสายด่วนฉุกเฉิน 112 ของประเทศจอร์เจียว่ามีชายในหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไป 12 กิโลเมตร มีอาการเจ็บหน้าอกอและหัวใจเต้นเร็ว คุณหมอจึงออกเดินทางไปหาคนไข้โดยการเดินเท้า
วันต่อมา เฮลิคอปเตอร์ถูกส่งไปรับตัวคนไข้ซึ่งเป็นชายสูงผอม อายุราว 40 ปีที่กำลังอยู่ในอาการมึนเมา คุณหมออิราคลีขึ้นโดยสารเฮลิคอปเตอร์เพื่อเฝ้าดูระหว่างการทางไปยังโรงพยาบาลในเมืองทบิลีซี (Tbilisi) เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ไม่กี่วันถัดไป คนไข้ก็ออกจากโรงพยาบาลแต่ภาวะสุราเป็นพิษก็ส่งตัวเขากลับไปอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคม
“ตูเชติ” ดินแดนบ้านเกิดของคุณหมอ
คุณหมออิราคลีเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1941 ในดินแดนตูเชติ ชาวทุชมีสายเลือดเป็นชาวเลี้ยงแกะ พวกเขามีวิถีชีวิตแบบ “ทรานส์ฮิวแมนซ์” (transhumance) ซึ่งเป็นการอพยพเคลื่อนย้ายคนและปศุสัตว์ไปและกลับจากแหล่งและเล็มหญ้าในฤดูร้อนและฤดูหนาว เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ชาวทุชส่วนใหญ่จะอพยพกลับไปที่ราบและถนนคดเคี้ยวในช่องเขาอาบาโน (Abano Pass) จะถูกปิดจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ
คุณหมออิราคลีอาศัยอยู่ที่บอชอร์นา (Bochorna) ซึ่งเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่เหนือป่าสนของช่องเขาโกเมตสารี (Gometsari gorge) บ้านสองชั้นของคุณหมอสร้างจากหินกาบสีเทาน้ำตาลและไม้ รอบบ้านเป็นทิวทัศน์ของหุบเขาเขียวขจี บริเวณเนินด้านล่างมีเสาหินและหลังคาของบ้านสะท้อนแววเขียวของหญ้าจากเนินด้านบน
“คุณพ่อ คุณปู่และบรรพบุรุษของผมล้วนเกิดและเติบโตที่นี่ ดินแดนนี้เป็นของพวกเรา” คุณหมอกล่าว
คุณหมออิราคลีสำเร็จการศึกษาที่ศูนย์การแพทย์แห่งจอร์เจีย (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งรัฐทบิลีซี) เมื่อปี ค.ศ. 1970 และคุณหมอก็เริ่มทำงานแรกของเขาที่โรงพยาบาลในเมืองทบิลีซี จนในปี ค.ศ. 1979 แพทย์ประจำการที่ตูเชติคนเดิมเกษียณจากงาน คุณหมออิราคลีจึงรับหน้าที่ผลัดเวรไปประจำการ 1 เดือนที่ตูเชติปีละสองครั้ง คุณหมออิราคลีเกษียณอายุด้วยวัย 68 ปีเมื่อ ค.ศ. 2009 แต่แทนที่จะหยุดพัก คุณหมอเลือกที่จะมาประจำการอย่างถาวรในตูเชติ
คุณหมอทำงานในตูเชติด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่มีจำกัด กระเป๋าแพทย์สนามเยอรมันประดับด้วยสัญลักษณ์กาชาดเป็นกระเป๋าที่คุณหมอใช้เก็บอุปกรณ์การแพทย์เช่น หูฟังแพทย์ ยากแก้ปวด เครื่องมือเย็บแผลและยาคลายกล้ามเนื้อ คุณหมอเรียกงานของเขาว่าเป็น “สื่อกลางระหว่างพระเจ้าและผู้ป่วย” (mediation between God and the sick)
“ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว กลางวันหรือกลางคืน สภาพฟ้าฝนจะเป็นอย่างไร หรือต่อให้ผมแก่จนอายุ 90 ปี เมื่อมีคนต้องการผม ผมก็ต้องไป มันเป็นหน้าที่ของผม” คุณหมออิราคลีกล่าว
การรักษาคนไข้บนภูเขา
คุณหมออิราคลีมีคนไข้อยู่ทั่วแถบภูเขาในตูเชติ หญิงอายุ 59 ปีผู้เป็นเพื่อนบ้านและคนไข้คนหนึ่งของคุณหมอคือคุณเอลซ่า อิวาชิดเซ (Elza Ivachidze) เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา คุณเอลซ่ามีอาการปวดแขนและหายใจไม่คล่อง คุณหมอจึงให้ยาแก้ปวดและฉีดยาให้คุณเอลซ่า
“บางครั้งเขาก็ใช้วิธีรักษาดั้งเดิมแบบโบราณนะ เช่นให้ดื่มชาสมุนไพรกับกินลูกแพร์ เขาไม่ได้ให้กินแค่ยาทุกครั้งไป” คุณเอลซ่ากล่าว เธอกังวลถึงอนาคตหากไม่มีคุณหมออิราคลี “คุณหมอเป็นคนที่อาวุโสและฉลาดที่สุดในหมู่บ้าน จะมีใครมาทำหน้าที่แทนเขาได้บ้าง?”
คนไข้อีกรายของคุณหมอเป็นชายเลี้ยงแกะชื่อว่าเรโซ พาเทนิชวีลี (Rezo Partenishvili) เมื่อเดือนสิงหาคม คุณเรโซมีอาการปวดหลังรุนแรง สามวันผ่านไปเขาเจ็บจนยืนไม่ได้ คุณหมออิราคลีจึงควบม้าบิโชล่าเพื่อเดินทางข้ามภูเขาไปหาชายเลี้ยงแกะ
คุณหมอใช้เวลาเดินทางลงจากเขานับชั่วโมง เมื่อเขาใกล้ถึงที่หมาย สุนัขคอเคเซียน เชพเพิร์ด (Caucasian Shepherd) สามตัวต้อนรับเขาด้วยเสียงเห่าหอนมาจากไกล คุณหมอลงจากม้าและเดินไปหาคนไข้ของเขาที่เล้าแกะ ข้างในเขาพบกับคุณเรโซซึ่งกำลังนอนอยู่บนเบาะผ้าขนแกะ คุณเรโซอาศัยอยู่กับคนเลี้ยงแกะอีกสี่คน พวกเขาเล่าว่าช่วงนี้เป็นฤดูที่พวกเขาต้องใช้เวลานั่งงอตัวตัดขนแกะอยู่เป็นวันๆ ทำให้มีอาการปวดหลังบ่อย
จากการสอบถามของคุณหมอ คุณเรโซมีอาการปวดหลัง ปวดท้อง ท้องเสียและไซแอ็ททิคาหรืออาการปวดร้าวลงขา คุณหมอจึงจ่ายยาเม็ดสีชมพูแผงหนึ่งไว้กินระหว่างมื้ออาหาร คุณหมอต้องการจะฉีดยาอินโดเมตทาซิน (indomethacin) เพื่อแก้ปวดแต่คุณเรโซค้านด้วยเสียงพึมพำว่าเขาไม่อยากฉีด
“คุณจะบอกว่าคุณกลัวเข็มเล็กๆ แค่นี้อย่างนั้นเหรอ” คุณหมอกล่าวพร้อมกับเตือนคุณเรโซว่าถ้าเขาไม่ฉีดยา เขาจะต้องนอนติดเตียงอยู่อีกเป็นเดือนกว่าจะทำงานได้อีก คำเกลี้ยกล่อมของคุณหมอทำให้คุณเรโซยอมดึงกางเกงลงเพื่อฉีดยา หลังการฉีดยา ชายอีกคนที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ใกล้ๆ จึงเอ่ยปากถามคุณหมอเรื่องอาการหายใจลำบากของเขา
“เอาบุหรี่ออกมาจากปากนั่นสิ!” คุณหมอตอบ ชายเลี้ยงแกะหัวเราะก่อนที่เขาจะโยนบุหรี่ของเขาทิ้งลงกองไฟที่อยู่ตรงหน้า แล้วคุณหมอก็เดินทางกลับ
อนาคตที่ยังไม่แน่นอน
ถนนในฤดูหนาวช่วงสิ้นปีถูกปิดนานถึงสองเดือน คนเลี้ยงแกะพาแกะของพวกเขาอพยพออกจากพื้นที่เพื่อไปหาแหล่งอาศัยชั่วคราวอีกครั้ง ดินแดนตูเชติจึงดูเปล่าเปลี่ยว มีเพียงแกะฝูงเล็กๆ ที่เห็นได้จากอีกฝากของภูเขาเป็นบางครั้งคราเมื่อหมอกบาง
การมาเยือนของฤดูหนาวเหน็บตอกย้ำให้เห็นถึงความห่างไกลและความขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานในตูเชติอีกครั้ง การเดินทางที่ต้องใช้พละกำลังสูง ระบบประปาที่ไม่ทั่วถึงทำให้การหาน้ำอาจใช้เวลาทั้งเช้า น้ำมันรถที่ต้องใช้อย่างจำกัดเนื่องจากไม่มีปั๊มน้ำมัน คนในพื้นที่ต้องพึ่งพาเสบียงและของยังชีพจากญาติๆ ที่อาศัยอยู่ในที่ราบโดยใช้มีเฮลิคอปเตอร์ทหารช่วยลำเลียง
ฤดูหนาวมาพร้อมกับความเงียบเหงาและความโดดเดี่ยว “บางครั้งผมได้ยินเสียงสุนัขป่าแว่วมาจากไกล มันทำให้ผมรู้ว่าข้างนอกยังมีชีวิตอื่นอยู่” คุณหมอเล่า
แม้คุณหมอมีทางเลือกที่จะใช้ชีวิตวัยเกษียณของเขาอย่างสุขสบาย แต่คุณหมอไม่อยากตัดขาดความผูกพันกับบ้านเกิดและคนไข้ของเขา
“สักวันนึงผมก็ต้องไปจากที่นี่” คุณหมอกล่าว “แต่ผมไม่รู้ว่าจะมีหมอคนไหนยอมเสี่ยงชีวิตแบบนี้อีกมั้ย”
ภาพ