ทิวทัศน์สวยงามจากยุคกำเนิดโลก
ภาพทิวทัศน์สวยงามเหล่านี้จะพาเราเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ของโลก 4.5 พันล้านปี เผยให้เห็นถึงภูมิศาสตร์ยุคดึกดำบรรพ์ กำเนิดโลก ที่ได้ก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นมา
“การเดินทางที่ผ่านทั้งเวลา พื้นที่ และความหลากหลายได้ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างเรากับธรรมชาตินั้นแข็งแรงและบันดาลให้เกิดความเคารพต่อโลก” Olivier Grunewald ช่างภาพชาวฝรั่งเศส กล่าว
เป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้วที่เขากับคู่ชีวิต Bernadette Gilbertas ซึ่งเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและนักเขียน ได้เดินทางท่องโลก และบันทึกภาพสถานที่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังที่สร้างโลกอันโดดเด่นของเรา จนออกมาเป็นโปรเจกต์ภาพถ่ายที่ชื่อว่า ‘จุดเริ่มต้น’ (Origin)
ดวงดาวหินที่เกิดมาจากความวุ่นวายและขับเคลื่อนด้วยวิวัฒนาการเป็นบ้านของสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตนับล้าน หนึ่งในนั้นคือโฮโมเซเปียนส์ ที่หลงใหลในความมหัศจรรย์ของโลก และสามารถพลังทลายความมหัศจรรย์ที่ลงได้เช่นกัน
หลังจากมีความกังวลในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อม Grunewald และ Gilbertas ได้ส่งพลังของพวกเขาเพื่ออุทิศให้กับโลกที่น่ามหัศจรรย์นี้
“ต้องใช้เวลากว่า 4.5 พันล้านปีเพื่อสร้างสรรค์โลกที่น่าหลงใหล อุดมสมบูรณ์ และน่าอยู่ขนาดนี้” Grunewald กล่าวและเสริมว่า “แล้วตอนนี้เราจะทำอย่างไรต่อไป เราจะทำให้วิกฤตด้านระบบนิเวศแผ่ขยายออกไป หรือสุดท้ายเราจะตัดสินใจเพื่อป้องกันความเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น”
ทั้ง Grunewald และ Gilbertas ได้บันทึกภาพแก่นของสถานที่อันเป็นประจักษ์พยานถึงความเป็นมาอันยาวนานของโลกของเรา ซึ่งรับชมได้ผ่านภาพถ่ายเหล่านี้
เรื่อง BYEVA VAN DEN BERG
ภาพ OLIVIER GRUNEWALD
ปลุกบรรยากาศแห่งโลกในอดีต ลาวาไหลจากรอยแตกของภูเขาไฟ Eyjafjallajökull ในไอซ์แลนด์ระหว่างการปะทุเมื่อปี 2010 ลาวาได้เติมเต็มโกรกธารที่เกิดจากแผ่นเปลือกโลกขยับตัวและน้ำจากธารน้ำแข็งชีวิตเกิดขึ้นบนโลกเมื่อ 3.5 พันล้านปีก่อน ซึ่งสภาพแวดล้อม น้ำ และปฏิกริยาภูเขาไฟมีลักษณะคล้ายกับแอ่งดานาคิล (Danakil Depression) ในเอทิโอเปีย แหล่งแร่อุดมสมบูรณ์ ทุ่งปล่องน้ำร้อน Dallol (Dallol hydrothermal) แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ลุ่มน้ำสีเขียวและสีฟ้า พื้นผิวกำมะถันสีเหลือง น้ำพุร้อน และผลึกเกลือหยาดฝนยามเช้าจากพื้นที่ชุ่มน้ำ Pantanal ในบราซิล ประดับไปด้วยจอกหูหนู (eared watermoss – Salvinia auriculata) ซึ่งเป็นเฟินน้ำท้องถิ่น ความอุดมสมบูรณ์ของพืชที่นี่สามารถย้อนกลับไปได้ยังจุดเริ่มต้นของยุคสาหร่ายโบราณ (ancient microalgae)แสงแวววาวจากดวงอาทิตย์ที่ทอดมาที่หน้าผาในจุด Toroweap ที่อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอนแห่งนี้เผยประวัติศาสตร์แห่งภูมิศาสตร์โลก มีอายุมานานกว่า 2 พันล้านปีชิ้นส่วนน้ำแข็งลอยที่ทะเลสาบธารน้ำแข็ง Jökulsárlón ภายใต้แสงเหนือที่สุกสกาว แสงเหนือจะปรากฎขึ้นเมื่อลมสุริยะชนกับสนามแม่เหล็กโลกที่ปกป้องโลกจากรังสีดวงอาทิตย์และเดินทางมาร่วมกัน เกิดขึ้นในพื้นที่สูงในโลกยุคดึกดำบรรพ์ หินภูเขาไฟสร้างแพของชิ้นส่วนเปลือกโลก เช่นแอ่งยุบปากปล่องภูเขาไฟที่กำลังเดือดปุดในภูเขาไฟ Nyiragongo ตั้งอยู่ที่ภูเขาวิรุงกา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกช่วงรุ่งเช้า แสงอาทิตย์ที่เกาะเมฆฉายลงเหนืออูลูรู โขดหินทรายขนาดใหญ่ที่ตั้องยู่ใจกลางออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 500 ล้านปีที่แล้ว ด้วยความสูง 863 เมตร โขดหินลูกนี้ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจิน ตั้งเด่นอยู่พื้นที่กว้างใหญ่ของรัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ออสเตรเลียเมื่อราวห้าล้านปีที่แล้ว แม่น้ำโคโลราโดได้สร้างหินทรายมีลักษณะผาชัน สมชื่อโค้งเกือกม้า (Horseshoe Bend) ที่มลรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกาต้นคีฟเวอร์ในนามีเบียได้รับการดูแลโดยชนเผ่าซานที่เอากิ่งก้านของต้นไม้มาทำเป็นที่เก็บลูกธนู ต้นไม้ที่กำลังอยู่ในภัยคุกคามจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นมีร่มไม้กว้างเพื่อเป็นพื้นที่ให้กับคนทอผ้า (weavers)ป่าฝน Hoh ในพื้นที่ใจกลางสวนโอลิมปิกในรัฐวอชิงตันคือหนึ่งในพื้นที่ป่าไม้อบอุ่นไม่ผลัดใบ (Temperate Rainforest) ในทวีปอเมริกาเหนือ ชีวิตหลากหลายรูปแบบต่างเบ่งบานในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นสน มอส และเฟินทุกๆ เดือนตุลาคม หงส์วูเปอร์ (Whooper Swans) ในไซบีเรียต้องหลบหนีจากพื้นที่อุณหภูมิสุดขั้วที่อาจต่ำสุดได้ถึง -50 องศาเซลเซียส หลังจากการอพยพกว่า 3,800 กิโลเมตร ใช้เวลา 18 ชั่วโมง พวกมันจะมาถึงที่พื้นที่อบอุ่นที่ฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นแนวปะการังฮาร์ดีคือหนึ่งในแนวปะการังนับพันของแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟของออสเตรเลียอันเป็นโครงสร้างของโลกที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เกิดขึ้นในมหาสมุทรเมื่อ 600 ล้านปีก่อน แต่กิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์กำลังเป็นภัยต่อระบบนิเวศอันเปราะบางนี้ครั้งหนึ่งเคยมีวัวกระทิงกว่า 50 ล้านตัวร่อนแร่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่หลังจากพวกมันถูกฆ่าครั้งใหญ่เพื่อหวังให้ชนพื้นเมืองอเมริกันหิวโหย ก็เหลือวัวกระทิงแค่ 600 ตัวในปี 1875 แต่ทุกวันนี้ สายพันธุ์นี้ได้รับการฟื้นฟูมากกว่า 5,000 ตัวที่อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตน