ในวันฟ้าใสของฤดูใบไม้ผลิวันหนึ่งทางตอนใต้ของเม็กซิโก ฉันติดตามนัก สำรวจถ้ำ สี่คนข้ามเนินเขาที่มีต้นสนอยู่ดกดื่นและข้ามทุ่งหญ้า เราเข้าใกล้ผาหินสูงตระหง่านบนด้านหนึ่งของภูเขาซึ่งใหญ่โตมโหฬารจนยากที่จะมองเห็นทั้งหมดได้ในครั้งเดียว แต่สิ่งที่ดึงดูดฉันมาที่นี่ พร้อมกับนักสำรวจถํ้าระดับโลก 69 คนจาก 9 ประเทศ ทอดตัวอยู่ตรงเชิงเขา
ถัดจากแอ่งแคบลึกที่ตัดผ่านผาหินคือซิสเตมาเชเว ถํ้าที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจลึกที่สุดในโลก
เมื่อมหาวิหารทางธรณีวิทยาปรากฏต่อสายตา ฉันได้ยินเสียงสบถเบาๆ จากคอรีย์ แฮ็กลีย์ นักสำรวจถํ้าที่อยู่ข้างหน้า ฉัน นี่เป็นการสำรวจถํ้าเชเวปีที่ห้าของเขา และความใหญ่โตของมันยังคงทำให้เขาตกตะลึง
แฮ็กลีย์รู้สึกกระสับกระส่ายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพราะถูกบังคับให้กักตัวอยู่ที่เบสแคมป์เพื่อป้องกันโควิด-19 เขาเรียก ความโกลาหลบนพื้นผิวดินว่า “ความอึดอัด” ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่นำมาใช้กับขอบเขตที่จำกัดของถํ้าได้ แต่สำหรับแฮ็กลีย์และ นักสำรวจถํ้าคนอื่นๆ ความลึกลํ้าของถํ้าเป็นอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ความอึดอัด
พวกมันคือพรมแดนสุดท้ายของการ สำรวจถ้ำ
เมื่อปี 1990 นักสำรวจทิ้งสีย้อมสีเขียวลงในธารนํ้าที่ไหล สู่ปากถํ้าเชเว พวกเขาพบว่านํ้าที่มีสีไหลออกมาใกล้ๆ เชิงเขา ตํ่าลงไปจากปากทางเข้าถํ้าที่สูงที่สุดเท่าที่รู้กันในตอนนั้นราว 2.6 กิโลเมตร ถ้ามนุษย์สามารถหาเส้นทางความยาวทั้งหมดที่สายนํ้าไหลผ่านได้ เชเวก็จะได้รับการประกาศว่าเป็นถํ้าที่ลึกที่สุดในโลก ทำลายสถิติปัจจุบันของถํ้าเวียร์ยอฟกีนาในเขต อับคาเซีย ประเทศจอร์เจีย เกือบ 400 เมตร
ความเป็นไปได้อันเย้ายวนดึงดูดนักสำรวจตลอดหลายสิบปี และการสำรวจในปี 2021 นี้ก็เป็นความพยายามครั้งใหญ่ที่สุด ภายใต้การนำของบิล สโตน นักสำรวจของ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ทีมนัก สำรวจถํ้า ใช้เวลาอยู่ใต้ดินรวมกันมากกว่า 1,500 คืน และค้นพบทางเดินที่ยังไม่มีการสำรวจกว่า 20 กิโลเมตร
ฉันพบสโตนครั้งแรกหลังเขากลับขึ้นมาบนพื้นผิวดินจากการอยู่ใต้ดินนานกว่าสองสัปดาห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในการเดินทางไปยังถํ้าเชเวหลายครั้งของเขานับตั้งแต่ปี 1988 สโตนถามว่า ฉันเคยไปเยือนถํ้าแห่งนี้ไหม ฉันบอกเขาเรื่องการติดตามไปกับสมาชิกคนหนึ่งในทีมของเขา
ฉันเคยไปกับไรลี แบล็กเวล เพียง 10 นาทีหลังเข้าไปในถํ้า เราก็มาถึงทางลงลาดชันช่วงแรกในหลายช่วงต่อเนื่องกัน ของถํ้าเชเว เราโยงตัวเองกับส่วนที่นักสำรวจถํ้าขึงเชือกไว้หลายกิโลเมตร แล้วไต่ลงไป เสียงร้องเรียกอย่างร่าเริงของแบล็กเวลดังสะท้อนออกมาจากความมืด ขณะเราเร่งรีบข้ามหินที่ร่วงลงมาและเดินเลียบไปตามผนังถํ้า จนกระทั่งมาถึงเชิงนํ้าตกเอนเจล ณ ความลึกประมาณ 300 เมตร ถัดไปอีกนิดเป็นแคมป์แรกในห้าแคมป์ที่ทีมสำรวจตั้งขึ้นในเวลานั้น
เมื่อฉันพูดเรื่องประสบการณ์ในวันนั้นให้สโตนฟัง แววตาเจ้าเล่ห์ก็แวบขึ้นบนใบหน้าของเขา “นั่นเป็นเพียงยอดภูเขานํ้าแข็งครับ” เขาบอก “แคมป์หนึ่งเป็นแค่โรงเรียนอนุบาล”
นักสำรวจถํ้าเดินตามเขาวงกตหลายระดับผ่านไปยังด้านล่างของภูเขา ทางเดินบางเส้นซึ่งถูกแม่นํ้าสลักเสลามาตลอดหลาย ล้านปี มีขนาดใหญ่พอจะจอดเครื่องบินโบอิง 747 แต่อีกหลายเส้นแคบมากจนนักสำรวจถํ้าผ่านไปได้ต่อเมื่อหายใจออก เพื่อกดซี่โครงของตนเองเท่านั้น
ขณะที่ลูกทีมของสโตนทดสอบขีดจำกัดของการสำรวจ โดยพยายามไปให้ถึงความลึกที่เป็นสถิติและเก็บรวบรวมข้อมูลการทำแผนที่ระหว่างทาง มิตรภาพและการทำงานเป็นทีมมีความสำคัญยิ่ง พอสิ้นสุดฤดูการสำรวจปี 2021 แคมป์ที่ไกลที่สุดและลึกที่สุดอยู่ห่างจากทางเข้าถํ้าที่ใกล้ที่สุด 11.8 กิโลเมตร หรือเดินทางประมาณห้าวัน มีคนที่ได้รับคัดเลือกเพียงไม่กี่คนทำ งานตรงจุดนั้น ส่วนคนอื่นๆ ดูแลการขึงเชือกยาวหลายกิโลเมตรหรือค้นหาเส้นทางที่ปลอดภัย และไปได้ไวกว่า และทุกคนต้องขนสัมภาระหนักอึ้งซึ่งบรรจุเสบียงและอาหารให้พลังงานสูงไป เก็บไว้ตามแคมป์ต่างๆ
ผู้คนที่เชเวให้เหตุผลแตกต่างกันในการอุทิศตนเพื่อการสำรวจถํ้า หลายคนถูกกระตุ้นด้วย “ความสงสัยใคร่รู้ที่ไม่รู้จักพอค่ะ” แบล็กเวลบอก แต่การค้นหาก็อาจทำให้ท้อแท้ได้ไม่ยาก
แฮ็กลีย์และเพื่อนร่วมทีม เบฟ เชด ย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาสิ้นหวังเมื่อปี 2017 ขณะตามหาเส้นทางผ่านส่วนหนึ่งของถํ้า ซึ่งตั้งชื่อตามหาดอันสวยงามแห่งหนึ่งของเม็กซิโก แต่ในความเป็นจริง นั่นคือรอยแยกแคบๆ ที่นํ้าและโคลนกระหนํ่าใส่จากช่องบนเพดาน แฮ็กลีย์จำ ได้ว่าเชดซึ่งถูกโคลนกลบทับ หันมาบอกเขาว่า “บางครั้งฉันก็สงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่มีงานอดิเรก อย่างอื่น เช่น การดูนก”
ชุมชนที่เข้มแข็งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เชดออกสำรวจถํ้ามาตลอด 30 ปี เธอพบความสงบใต้ดินด้วย “มันห่างไกลจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน”
สำหรับคนจำนวนมาก การสำรวจถํ้ายังเป็นสัญลักษณ์ของการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด ในทริปสำรวจทางเข้าอื่นๆ ของถํ้าเชเวแบบวันเดียว สมาชิกทีมสามคนพบหลุมซึ่งเสียงสะท้อนของมันบ่งบอกว่าลึกมาก และหย่อนตัวลงไปให้ไกลเท่าที่เชือกจะอำนวย พวกเขากลับมาหลังจากนั้นหลายชั่วโมง ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น และรายงาน ว่า เลยจากจุดที่พวกเขาไปถึงยังมีทางเดินอีกมากให้สำรวจ
การสร้างสถิติแทบไม่ใช่ประเด็นเลย นักสำรวจถํ้าหลายคนบอกฉัน “จะยังมีถํ้าที่น่าจะลึกที่สุดในโลกรอเราอยู่เสมอ” เชดทิ้งท้าย “เราทุกคนแค่พยายามทำบางสิ่งร่วมกันค่ะ บางสิ่งที่ไม่มีใครสักคนในหมู่พวกเราทำได้ด้วยตนเอง”
เรื่อง MAYA WEI-HAAS
ภาพ KASIA BIERNACKA
ติดตามสารคดี สำรวจถ้ำลึกสุดโลก ได้ที่นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนมิถุนายน 2565
สั่งซื้อนิตยสารได้ที่ https://www.naiin.com/product/detail/547936