ตามข้อมูลจากสื่อจีน โรงไฟฟ้าจีน พลังงานแสงอาทิตย์ ใหม่นี้ตั้งอยู่บนทะเลทรายอุรุมชี (Ürümqi) ซึ่งเป็นเมืองเอกในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มันครอบคลุมพื้นที่กว่า 133 ตารางกิโลเมตร
.
ทางโครงการกล่าวว่า โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 6.09 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงอย่างมากที่จะเลี้ยงประเทศเล็ก ๆ อย่างปาปัวนิวกินีหรือแคมเมอรูนโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากแหล่งอื่น
.
ทั้งนี้ แหล่งพลังงานดังกล่าวจะใช้จ่ายให้กับประชาชนในเมืองซินเจียงซึ่งเป็นเขตการปกครองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร และมีประชากรในพื้นที่ประมาณ 25 ล้านคน
.
“ในปี 2023 จีนเริ่มดำเนินการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์มากเท่ากับที่ทั่วโลกทำในปี 2022” สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุในรายงาน Renewables เมื่อเดือนมกราคมปี 2023 พร้อมกับเรียกโครงการฟาร์มแสงอาทิตย์นี้ว่าเป็นสิ่งที่ ‘ไม่ธรรมดา และ โดดเด่น’ ท่ามกลางการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
.
นับเป็นความก้าวหน้าในการจัดการกับวิกฤตสภาพอากาศที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนรายใหญ่ที่สุด ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ
.
แต่นักวิเคราะห์หลายคนยังมองโลกในแง่ดี เนื่องจากในช่วงหลังที่ผ่านมานี้มีสัญญาณบ่งชี้ว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของจีนอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว และต่อไปจะเป็นช่วงที่ลดลงเรื่อย ๆ โดยมีระดับคาร์บอนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตามการวิเคราะห์ของ Carbon Brief
.
ซึ่งทางรายงานจาก The Economist เองก็ระบุแนวโน้มไปในทางเดียวกันเมื่อเดือนเมษายน แม้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการลดลงอย่างแน่นอน แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ยังคงเชื่อมั่นและมองโลกในแง่ดีว่าประเทศยักษ์ใหญ่นี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายก๊าซเรือนกระจกได้ภายในปี 2030
.
“ภายในปี 2030 เกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตไฟฟ้าของจีนจะมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน” IEA คาดการณ์
.
ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความพยายามในการลงทุนฟาร์มพลังงานกังหันลม และฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในประเทศ แม้โครงการล่าสุดนี้จะเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ทว่าจีนก็ยังมีอีก 2 โครงการยักษ์ที่เริ่มดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้วโดยตั้งอยู่ทางตะวันตกของจีน
.
ได้แก่ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในทะเลทราย Ningxia Tenggeli ของ Longyuan Power Group และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Golmud Wutumeiren ของ China Lüfa Qinghai New Energy ซึ่งมีกำลังการผลิตถึง 3GW ทั้งหมดต่างเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายที่จะกลายเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งต้องการการลงทุนอย่างมากในพลังงานหมุนเวียน
.
“การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญนี้ (ในการบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์) เกิดขึ้นจากความรู้สึกรับผิดชอบของเราในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันกับมนุษยชาติ” ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง กล่าวในปี 2021 ขณะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศ “และความต้องการของเราเองในการรักษาการพัฒนาที่ยั่งยืน”
.
หากอัตราการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนในจีนยังคงเป็นแบบนี้ไปในอนาคต ซึ่งทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จีนอาจบรรลุเป้าหมายของพวกเขาล่วงหน้าอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของประเทศในด้านพลังงานสะอาด
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
ที่มา
.
https://www.reuters.com/world/china/worlds-biggest-solar-farm-comes-online-chinas-xinjiang-2024-06-03/
https://www.iflscience.com/the-largest-solar-power-plant-in-the-world-just-got-switched-on-74560
https://www.evwind.es/2024/06/08/the-worlds-largest-solar-photovoltaic-pv-power-plant-has-just-opened-in-china/98957
https://interestingengineering.com/energy/china-opens-worlds-biggest-solar-farm