27 กันยายน – 6 ตุลาคมนี้ คือครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยมีการจัดมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาเซียน ในชื่อ Sustainability Expo และ Sustainability Expo 2024 (SX2024) ครั้งนี้ จะถูกจัดขึ้นโดยมีหัวใจหลักคือ “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability)
หลักคิด ของ “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) นี้ คือการน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และ ต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทาง ผนวกกับหลักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ (UNSDGs) มาสู่การปฏิบัติจริงให้เกิดเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายแห่งการปฏิบัติและเปลี่ยนแปลงร่วมกัน ภายใต้แนวคิด “Good Balance, Better World สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า”
กิจกรรมแถลงข่าวเมื่อ 12 กันยายนที่ผ่านมา ต้องใจ ธนะชานันท์ ผู้อำนวยการคณะจัดงาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) อธิบายกลยุทธ์ของงาน SX ว่า แพลตฟอร์มของ SX ตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมา นำเสนอในแนวทางที่เรียกว่า B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ซึ่งเป็นการวางผู้บริโภค (Consumer) ให้เป็นแกนกลางเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน นั่นเพราะเมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญจนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว จากนั้นผู้บริโภคจะเชื่อมโยงกลับสู่ภาคธุรกิจ ซึ่งนั่นก็จะทำให้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนกระจายไปในวงกว้าง การให้ “ผู้บริโภค” มีบทบาทเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนแนวคิดคือรูปธรรมที่ส่งเสริมว่า “ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน”
SX ในแต่ละครั้ง ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน มีการแชร์ความรู้ โปรเจคต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งยังรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรม กิจกรรมและเวิร์คช็อปที่ส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนผ่านวิทยากรผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 รายทั่วโลก เครือข่ายธุรกิจจากบริษัทและองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า270แห่ง
“ในงานครั้งที่แล้ว คือ SX2023 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 300,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 164,000 คน หรือกว่า 60% เป็นคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18 ถึง 35 ปี และมีองค์กรกว่า 100 แห่ง ผู้บรรยาย 250 คน และเครือข่ายธุรกิจที่ยั่งยืนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกกว่า 500 เครือข่าย นั่นแสดงให้เห็นว่า ความยั่งยืนนี้คือเรื่องที่ทุกส่วนให้ความสำคัญ และเป็นประเด็นสากลที่คนทั้งโลกต้องผลักดัน”
“งาน SX ไม่ใช่แค่สร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เรายังคาดหวังที่แนวคิดเหล่านั้นจะส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายประเทศไทยที่ต้องการให้อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065” ผู้อำนวยการ SX 2024 อธิบาย
เจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานมีเดีย แอนด์ อีเวนต์ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จํากัด มหาชน อธิบายว่า ในฐานะพาร์ทเนอร์ที่ร่วมจัดงานตลอด 4-5 ปี จุดสำคัญของงาน SX คือความในการขยายเครือข่ายไปยังทุกกลุ่ม ซึ่งนั่นหมายความว่า “C” ในบริบทกลยุทธ์แบบ B2C2B ไม่ใช่เรื่องของผู้บริโภคอย่างเดียว แต่เป็นการ Collaborative ซึ่งร่วมมือกับผู้คนในหลากหลายกลุ่มทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน Start-up อาชีพอิสระ ทำให้ SX ในแต่ละครั้งเป็นเหมือนแพล็ตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่จะร่วมสร้างสังคมที่ดีในมิติต่างๆ
“ความร่วมมือเป็นสิ่งที่ทำให้ SX เติบโตขึ้น เครือข่ายของการอยากให้เมืองดีกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ จากพาร์ทเนอร์กว่า 20 องค์กรในปีแรก ค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี จนในขณะนี้มีองค์กรมากกว่า 270 ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ SX และในฐานะหนึ่งในผู้จัดงาน จำเป็นที่ต้องคัดเลือก Stakeholder ให้เหมาะสมในแต่ละปี เพื่อให้ประเด็นในการสื่อสารในแต่ละครั้งชัดเจนมากขึ้น และครอบคลุมกับคนทุกกลุ่มที่จะมาร่วมสร้างสมดุลให้กับชีวิต”
ใน SX 2024 บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จํากัด จะร่วมสร้างสรรค์ในโซน Better Community ซึ่งจะนำเสนอการสร้างชุมชน-กลุ่มคน ที่ร่วมกันสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดการพัฒนาทั้งคนและเมือง โดยเน้นหน่วยงานที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องและสร้างผลสำเร็จทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชน ผ่านองค์กรเครือข่ายกว่า 50 แห่ง
เนื้อหาว่าด้วย “เมืองที่ดี” นั้น จะประกอบไปด้วย 1. การเป็นเมืองที่สร้างการเรียนรู้ (Learning Society) ที่ไม่ได้หมายถึงการมีจำนวนสถาบันการศึกษาหรือพิพิธภัณฑ์มากขึ้น แต่การที่ชุมชนต่างยอมรับซึ่งกันและกัน และแลกเปลี่ยนความรู้ผ่าน วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชุมชนได้
2.การเป็นเมืองที่ใส่ใจ (Caring City) สำกรับคนทุกกลุ่ม การอยู่ร่วมกันผ่านการยอมรับความหลากหลาย 3. การเป็นเมืองแห่งการลงมือทำ จากการที่ชุมชน สังคมร่วมกันเปิดโอกาส ทั้งยังมีรูปแบบตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม (Community Shapers) 4.เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยศิลปะวัฒนธรรม (Art-Driven City) 5. สนามชวนคิด (Gathering space) ซึ่งสนทนาพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งด้านบวกและด้านลบเพื่อให้เกิดแนวทางในการสร้างสังคมที่ดีกว่า
“นอกจากนี้เรามีมีพื้นที่ SX Market place ซึ่งเป็นพื้นที่การจำหน่ายสินค้าที่ทำให้สินค้าหรือบริการถึงมือผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนธุรกิจยั่งยืนของกลุ่มผู้ประกอบการไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ให้ธุรกิจรายที่ดีในรายเล็กๆสามารถพบเจอกับผู้บริโภคได้โดยตรง ร่วมสนับสนุนซึ่งกันและกัน”
SX 2024 ยังให้ความสำคัญกับเด็ก บ่มเพาะความรู้ ตามแนวคิด The Future Shapers เพื่อให้งานนี้เป็นพื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต ซึ่งใน SX มีพื้นที่ KIDS ZONE ซึ่งออกแบบเพื่อเด็กโดยเฉพาะ มีนิทรรศการและกิจกรรม ผ่านการเล่น-ทดลอง-เรียนรู้ เพื่อการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ และยั่งยืน โดยเน้นการสื่อสารเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เทคโนโลยี โดยมีพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมเช่น องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) นิตยสาร National Geographic
นอกจากกิจกรรมใน KIDS ZONE แล้ว ในเวที Grand Plenary Hall ชั้น G วันที่ 6 ตุลาคม เวลา 11.00 – 12.00 น. National Geographic ยังเชิญนักสำรวจระดับโลกมาสร้างแรงบันดาลใจในหัวข้อ “Ways we are Following the Water” จากมาร์ติน เอดสตรอม (Martin Edström) นักสำรวจของ National Geographic ชาวสวีเดน ผู้ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องด้วยถ่ายภาพ 360 องศาและเทคโนโลยี Immersive เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวสำคัญของยุคสมัย เช่นเดียวกับ มาลิน เฟเซไฮ (Malin Fezehai) ช่างภาพ นักทำภาพยนตร์ นักข่าว และนักสำรวจ ของ National Geographic ที่จะมาถ่ายทอดวิธีคิดในการสร้างผลงานที่สร้าง Impact ตลอดหลายสิบปีในสนาม (รายละเอียดติดตามในเว็ปไซต์ www.NGTHAI.com และเฟสบุ๊ค National Geographic ฉบับภาษาไทย)
มาร์ติน เวนสกี้-สตอลลิ่ง คณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และประธาน Joint Foreign Chambers of Commerce (JFCCT) กล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันนี้ว่า JFCCT มีคณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งยึด SDGs เป็นกรอบการทำงาน และบูรณากับบริษัทในกลุ่มสมาชิก โดยที่กลุ่มสมาชิกต่างมองว่าปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมคือเรื่องสำคัญ อย่างไรก็ตามการจะแก้ปัญหาสภาพอากาศ พลังงาน หรือน้ำ ไม่สามารถแก้ไขอย่างแยกส่วนได้ แต่ทุกส่วนต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน และเชื่อว่าความร่วมมือ เช่น การลดขยะในเมือง และความไม่เท่าเทียม หากถูกกระตุ้นด้วยการงานระดับประเทศก็จะทำให้คนได้ไอเดีย และเกิดความตระหนัก
ขณะที่ ชญานันท์ ภักดีจิตต์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายถึงแผนปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการที่จะทำอย่างไรให้ไทยเป็น Carbon Neutral ให้ได้ และการดูแลเรื่องคาร์บอนเครดิตอย่างจริงจัง และเรายังกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (DCCE) เป็นกรมน้องใหม่ที่จัดตั้งมาได้ 1 ปีเพื่อรับมือกับบริบทการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและโลกร้อน ซึ่งเรากําหนดมาตรการและกลไก ด้านการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ และติดตามประเมินผลความสําเร็จของแผน
“การไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน อย่างเช่นงาน SX 2024 ภาคการศึกษา และประชาชน เพราะหน่วยราชการอย่างเดียว ทำคนเดียวไปไม่ได้เร็ว ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เน้นการร่วมมือร่วมใจ”
เกี่ยวกับงาน Sustainability Expo 2024
พลิกวิกฤตโลกเดือด สู่โลกอนาคตที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ในทศวรรษลงมือทำ และพลังแห่งความร่วมมือ เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติใน “ยุคโลกเดือด” กับการรวมตัวของภาคีเครือข่าย ที่เป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่พร้อมขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนทุกมิติ ในงาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) คณะผู้จัดงานนำโดย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เอสซีจี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้ง เครือข่าย TSCN (Thailand Supply Chain Network )
วันแสดงงาน : วันที่ 27 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น.
สถานที่ : ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
ชั้น 2 : งานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
ชั้น G : โซน SEP INSPIRATION, โซน Better Me โซน Better Living โซน Better Community และ โซน Better World
ชั้น LG: SX Food Festival, SX Kids Zone, SX Marketplace และ SX REPARTMENT STORE
10 โซนต่างๆ ในงานมีดังนี้
โซนนิทรรศการชั้น G จำนวน 5 โซน
โซนกิจกรรมให้คุณได้ลงมือทำเพื่อโลก ชั้น LG จำนวน 4 โซน