สำรวจเทคโนโลยีดาวเทียม เพื่อการประเมินคาร์บอนในป่า สู่ภารกิจที่ทุกคนช่วยลดโลกร้อนได้
ติดตาม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ลงพื้นที่เพื่อประเมินคาร์บอนเครดิตในป่า และตอบคำถามที่ว่าเทคโนโลยีดาวเทียมช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกือบทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทยร่วมลงนามและให้สัตยาบันในความตกลงปารีส Paris Agreement เพื่อร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่ช่วยส่งเสริมคือกลไกคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่องค์กรต่าง ๆ สามารถกักเก็บได้หรือลดการปล่อยได้
GISTDA ได้เข้ามามีบทบาทในภารกิจนี้โดยการนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมและเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ร่วมกับแบบจำลองเชิงพื้นที่ มาช่วยในการติดตามพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ และประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้และการเกษตร เพื่อสนับสนุนการดูดซับก๊าซเรือนกระจกในอากาศจากพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวของประเทศ
เทคโนโลยีอวกาศเกี่ยวข้องกับการกักเก็บคาร์บอนอย่างไร? ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เราได้เดินทางไปสังเกตการณ์การทำงานของ GISTDA ในระหว่างที่เข้าไปสำรวจการเก็บกักคาร์บอนในพื้นที่ป่าบก จังหวัดระยอง และป่าชายเลน จังหวัดจันทบุรี โดยการสำรวจครั้งนี้ได้ใช้เทคโนโลยีไลดาร์จากอุปกรณ์สำรวจภาคพื้น เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติของต้นไม้ ในลักษณะของข้อมูล Point Clouds โดยในแต่ละจุดจะแสดงค่าพิกัดและความสูงของวัตถุต่าง ๆ ในตำแหน่งทางราบและทางดิ่งในแปลงตัวอย่าง
ข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่นี้เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างพื้นที่ เพื่อใช้เป็นตัวแทนของการคำนวณค่ามวลชีวภาพ และการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า โดยใช้เทคโนโลยีไลดาร์ เพื่อเพิ่มความถูกต้อง แม่นยำ และมีความน่าเชื่อถือในการนำข้อมูลไปใช้งานให้เพิ่มมากขึ้น
GISTDA มีความตั้งใจในการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้และการเกษตรของประเทศ ด้วยข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็น Green Carbon จากป่าบก เช่น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ฯลฯ และ Blue Carbon จากป่าชายเลน และหญ้าทะเล โดยอาศัยคุณสมบัติเด่นของดาวเทียมต่าง ๆ โดยเฉพาะดาวเทียม THEOS-2 ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยประเมินพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนไทยมีความตระหนักถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหันมาสนับสนุนธุรกิจหรือองค์กรสีเขียว ที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นได้
GISTDA กับการใช้เทคโนโลยีเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ
-
ในอนาคตคาดการณ์ว่า คาร์บอนเครดิต จะเป็นที่ต้องการมาก ประชาชนจะหันมาปลูกต้นไม้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศแล้ว ยังสามารถเป็นช่องทางที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนจากการขายคาร์บอนเครดิตได้อีกด้วย
-
การนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานจะทำให้สามารถจำแนกประเภทป่าไม้ วิเคราะห์ความหนาแน่นชั้นเรือนยอดต้นไม้จากแบบจำลองเชิงพื้นที่ เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าได้อย่างถูกต้องเพียงพอกับการใช้งาน ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ อีกทั้งยังประหยัดเวลา แรงงานคนที่ต้องใช้ในการสำรวจภาคสนามและลดความผิดพลาดจากการสำรวจ
-
ในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ผู้ซื้อจะเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าปริมาณที่จำกัดไว้ จึงต้องซื้อคาร์บอนเครดิตมาเพื่อชดเชยกับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกินเกณฑ์ควบคุม เช่น ชุมชนสามารถขายคาร์บอนเครดิตในป่าชุมชนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดได้
-
เนื่องจากทรัพยากรป่าไม้ ช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์แล้ว ยังมีคุณสมบัติในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศและกักเก็บคาร์บอนไว้ในเนื้อไม้ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านทรัพยากรป่าไม้ในรูปแบบของคาร์บอนเครดิตให้แก่ชุมชนและประเทศได้อีกด้วย
ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนสถานที่ถ่ายทำ
-
เทศบาลตําบลมะขามคู่ (ป่าเขาจอมแห จังหวัดระยอง)
-
ป้าเล็ก (สวนยางพารา จังหวัดระยอง)
-
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (สวนพฤกษศาสตร์ป่าชายเลนนานาชาติ ร.9 จังหวัดจันทบุรี)
© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.