หลังผ่านการค้นหาผู้ประกอบการธุรกิจยั่งยืน (Social Enterprise) และได้มีโอกาสผลักดันทุกศักยภาพของผู้เข้าร่วมรายการให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกับการเอื้อประโยชน์ต่อสังคมมาเป็นเวลา 3 ซีซันแล้ว ในปีนี้ รายการ WIN WIN WAR Thailand เปิดโอกาสครั้งใหม่นี้อีกครั้ง
นอกจากเงินรางวัล 2,000,000 บาทที่จะได้รับสำหรับตำแหน่งสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันแล้ว ระหว่างทางตลอดรายการ คือบทเรียน ความรู้ คำแนะนำ และการแบ่งปันประสบการณ์จากกรรมผู้ทรงคุณวุฒิมากความสามารถ เพื่อดึงศักยภาพของแต่ละธุรกิจออกมาให้ได้มากที่สุด
ธุรกิจเพื่อสังคม กับปลายทางที่ความยั่งยืนโดยรวมของสังคม
นิยามของ “ธุรกิจแบ่งปัน” เป็นแนวคิดหลักของรายการ เพราะธุรกิจยั่งยืนเหล่านี้เองจะช่วยสร้างรายได้ไปพร้อมกับการเอื้อประโยชน์ต่อสังคมในแง่มุมที่หลากหลาย ทั้งหัวเรื่องการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม หรือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้กลไกด้านธุรกิจในการแก้ปัญหา ไปพร้อมกับการส่งเสริมธุรกิจและและส่งเสริมโลกใบนี้ที่จะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน
“เรื่องของการทำงานด้านเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน” คุณต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ C asean เริ่มต้นเล่าถึงวัตถุประสงค์และแนวความคิดหลักของรายการ
“เพราะอยากให้การทำธุรกิจเพื่อสังคมเหล่านี้ในวงกว้างมากขึ้น เลยคิดกันต่อว่า ถ้าเราสามารถเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่มีความคิด และมีธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง หรือแค่อยากมีไอเดียทำธุรกิจที่ดีต่อสังคม สามารถพัฒนาต่อเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ ก็น่าจะเป็นการขยายผลให้กลไกเหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้น จึงเป็นที่มาของรูปแบบรายการโทรทัศน์ที่เฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน”
เปิดโอกาสในวงกว้างผ่านรายการโทรทัศน์
เมื่อคิดถึงรายการโทรทัศน์ ทางทีมงานจึงคิดถึง คุณกิติกร เพ็ญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Heliconia H Group ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรายการเรียลิตี้ชื่อดังระดับประเทศ และได้เชิญมาเป็นที่ปรึกษาของรายการนี้
“ชื่อของรายการคือ WIN WIN WAR เป็นการต่อสู้กันซึ่งต้อง WIN ที่ธุรกิจจะต้องมีไอเดียดี มีโอกาสในการเติบโต ในขณะเดียวกัน WIN ตัวที่สอง คือ WIN ต่อสังคมในมุมต่างๆ เพราะฉะนั้นคอนเซ็ปต์ก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นรายการนี้จะไม่เหมือนรายการธุรกิจอื่นๆ คือ ธุรกิจดีแล้ว ก็ต้องดีต่อสังคมด้วย”
โดย WAR เกิดมาจาก W – Willingness ความมุ่งมั่น, A – Ability ความสามารถ และ R – Readiness ความพร้อม นั่นคือแบบทดสอบที่ทางรายการจัดให้กับผู้แข่งขัน ผ่านการนำเสนอรายละเอียดธุรกิจทั้งหมด 2 รอบ เพื่อค้นหาผู้ชนะตำแหน่งสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน
ทางด้าน คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการ Amarin Group และกรรมการผู้ตัดสินในรายการ ก็ได้บอกเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมากับทั้ง 3 ซีซัน ทั้งความสำเร็จ และก้าวต่อไปที่รายการกำลังมองหาสุดยอดนักธุรกิจคนใหม่ในซีซันใหม่นี้
“ในฐานะที่เป็นบรรณาธิการ ได้เห็นอะไรมาเยอะและเจอคนมาเยอะ เชื่อไหมครับว่าตอนตัดสิน เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากผู้เข้าแข่งขันเต็มไปหมด หรือบางข้อมูลเป็นข้อมูลที่ทีมงานเตรียมเป็นข้อมูลแบ็คอัพเพื่อเสริมความรู้ของกรรมการ”
“จะบอกว่ารายการนี้ดีใน 3 มุม ดูสนุก ส่วนนี้ยกความดีให้โปรดิวเซอร์, มีสาระ ถ้าคุณไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษ แนะนำให้ดูทุกตอน มีหลากหลายแบ็คกราวด์มาก เราได้ความรู้ในเชิงธุรกิจ จุดยืนเรื่องความยั่งยืน ความมุ่งมั่นของแต่ละคน เป้าหมาย แต่ที่สำคัญคือ ได้เห็นกรรมการให้คำแนะนำที่มาจากธุรกิจในโลกจริง”
“และถ้าตัดความเป็นรายการหรือการแข่งขันออกไป อันนี้คือโครงการสนับสนุนธุรกิจยั่งยืนของทาง C asean เราอยากสนับสนุนคนที่ลุกขึ้นมาทำธุรกิจเพื่อชุมชน เพื่อความยั่งยืน และส่งคืนประโยชน์ให้กับสังคม”
รายการในซีซันใหม่นี้ได้ทำการรวบรวมผู้ทำธุรกิจ ทั้งสตาร์ทอัป หรือคนที่มีใจรักในการทำธุรกิจแต่ยังไม่มีทุนเข้ามาสมัคร เพื่อส่งเสริมและพัฒนา และนอกจากผู้ใหญ่แล้ว ปีนี้ยังมีการเปิดตัวรายการใหม่ WIN WIN WAR OTOP Junior เปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 9-14 ปี ใช้ความรู้ในห้องเรียน ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างเป็นสินค้าหรือบริการที่เอื้อประโยชน์ให้สังคม
WIN WIN WAR OTOP Junior ทักษะนอกห้องเรียนที่หาได้ในรายการนี้เท่านั้น
“รายการใหม่นี้ เราเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนที่ทำผลิตภัณฑ์จำหน่ายในชุมชนเข้ามาประกวด นั่นหมายความว่าเราจะส่งเสริมเด็กเหล่านี้ โรงเรียน และครูที่คอยดูแลโครงการ เพื่อพัฒนาให้เด็กรู้เรื่องธุรกิจ และนำธุรกิจที่เขาคิดขึ้นมาเข้ามานำเสนอในรายการ” คุณกิติกรแนะนำรายการใหม่
“เราหยิบจุดเรื่อง ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ มาเป็นจุดที่เราคิดว่าผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ควรจะต้องเรียนรู้” คุณต้องใจเล่า “แต่จะทำอย่างไรให้เห็นผลอย่างชัดเจนว่ามีทักษะเหล่านี้ได้ดีจริง เราจึงหยิบเรื่องของผลิตภัณฑ์โรงเรียนขึ้นมา การที่เด็กนักเรียนและครูทำโครงการเหล่านี้ควรจะมีผลที่ชัดเจน ด้วยการนำวิชาต่างๆ ในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ แล้วก็ต้องทำให้ธุรกิจตรงนี้อยู่ได้ มีการทำบัญชีธุรกิจ เพื่อให้ในที่สุด เด็กๆ ได้ลองทำจริง มีทักษะด้านอาชีพจริง และอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน”
ทางด้านคุณเจรมัยเสริมในเรื่องทักษะทางธุรกิจเพื่อสังคมกับเยาวชน “รายการหรือโครงการตรงนี้ทำให้เห็นตัวอย่างของการเอาหลายวิชามาใช้ในชีวิตจริง หรือสหวิชาชีพ โดยไม่ต้องรอว่าต้องเป็นคนทำงานก่อน เวทีแบบนี้ทำให้เขาลองได้ในโรงเรียน มีครูส่งเข้ามาลองของกับคนทั้งประเทศ ผมก็คิดว่ามันเป็นการเรียนรู้แบบสมัยใหม่ และทำให้ครูเห็นว่า นี่คือหนึ่งในวิธีการสอนนักเรียนให้รู้จักชีวิต ไม่ใช่แค่กับวิชาในห้องเรียน”
ตำแหน่งสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน WIN WIN WAR Thailand Season 4 รับเงินรางวัล 2,000,000 บาท และได้รับการสนับสนุนจากทีมที่ปรึกษาเพื่อให้ความฝันในการทำธุรกิจแบ่งปันเป็นความจริง และสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปัน WIN WIN WAR OTOP Junior จะได้รับรางวัลทุนการศึกษา และโอกาสดูงานด้านนวัตกรรมอย่างยั่งยืนที่ประเทศสิงคโปร์
สำหรับรายละเอียดและเกณฑ์การแข่งขันของรายการ WIN WIN WAR Thailand และ WIN WIN WAR OTOP Junior สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : WIN WIN WAR Thailand หรือสอบถามได้ที่ LINE OA: @winwinwarthailand หรือ http://bit.ly/3xCSa6N และโทรศัพท์ 0-2785-9977