เนื้อร้าย …กับบทสุดท้ายของชีวิต

เนื้อร้าย …กับบทสุดท้ายของชีวิต

เสียงนกเอี้ยงร้องเจื้อยแจ้วอยู่บนต้นไทรหน้าบ้าน แข่งกับเสียงไอยาวต่อเนื่องที่ดังแว่วอยู่เบื้องล่าง ร่างกายของชาย ผอมบางนั่งอยู่ในเปล คงมีเพียงรองเท้าแตะคู่เก่ากับกางเกงขาสั้นเป็นอาภรณ์คลุมกาย สายยางเล็กๆ ความยาวราว 6 นิ้วงอกออกมาจากหน้าท้อง โดยมีผ้ากอซสีขาวพันอยู่รอบโคนสาย

เป็นเวลาร่วมครึ่งปีมาแล้วที่อาหารไม่ผ่านปากลงไปยังกระเพาะอาหาร หากถูกบดปั่นจนแหลกเหลวโดยมีสายยางทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงอาหารแทนหลอดอาหารที่มี “เนื้อร้าย” ปิดกั้นอยู่

สุราเข้มข้นเป็นสิ่งที่โปรดปราน และเรื่องราวความขัดแย้งในครอบครัวเป็นสาเหตุของการร่ำสุราอย่างยกกำลังสอง อาการเจ็บคอจนไม่สามารถกินข้าวได้ เกิดขึ้นประมาณกลางปี 2554 พร้อมๆกับที่ร่างกายอ่อนแรงลงเรื่อยๆ

“คุณลุงมีเนื้อร้ายที่หลอดอาหาร เดี๋ยวผมนัดวันเจาะช่องท้องให้อาหารทางสายยางนะครับ” เป็นคำตอบของหมอ หลังจากที่ส่องกล้องตรวจลำคอและนำชิ้นเนื้อไปตรวจ ครอบครัวกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง แม้จะรู้ดีว่าต้องมีคนหนึ่งจากไป ไม่ช้าก็เร็ว แต่ความหวังและกำลังใจของคนในครอบครัวไม่เคยเหือดหาย

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผมอยู่บนรถเมล์ ป.2 สายหมอชิต-สุพรรณบุรี เป็นการเดินทางที่ทั้งยาวนานและเศร้าที่สุดในชีวิต ระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตรเจิ่งนองด้วยน้ำตา เพราะผมต้องอยู่ในโลกที่ไม่มี “พ่อ” อีกต่อไป

เรื่องและภาพ ชลิต สภาภักดิ์

รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง จากโครงการประกวดสารคดีภาพ “10 ภาพเล่าเรื่อง” ปี 2012 โดยนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย  

 

เนื้อร้ายที่เกาะกุมหลอดอาหาร ทำให้พ่อไม่สามารถกลืนกินอาหารได้นานนับเดือนร่างกายจึงผ่ายผอม สีหน้าและแววตาของพ่อสะท้อนสภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยว
อาการป่วยทำให้พ่อจำต้องพักงานหนักนอกบ้าน งานเล็กๆน้อยๆ ในบ้านอย่างการช่วยแม่ทำขนม อย่างน้อยก็ทำให้ชีวิตคนป่วยไม่ต้องอยู่นิ่งเฉยตลอดเวลา และยังช่วยคลายเครียดได้ด้วย
ภาพพ่อที่ได้แต่นั่งดูพวกเรากินข้าวเป็นความเจ็บปวดของครอบครัว
ความที่พ่อมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาตลอด เมื่อต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ความกังวลจึงมักแสดงออกมาให้เห็น
กระนั้น พ่อก็ยังอารมณ์ดีและมีเรื่องเล่าให้พวกเราฟังเสมอเมื่อเสร็จการตรวจแต่ละขั้นตอน ในภาพนี้ พ่อกำลังเล่าถึงการทำงานของเครื่องสแกนกระดูกโดยทำไม้ทำมือประกอบ
เมื่ออาหารไม่สามารถผ่านหลอดอาหารได้เหมือนคนปกติ การเจาะช่องท้องเพื่อให้อาหารปั่นผ่านทางสายยางจึงเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายที่อ่อนแอของพ่อ เพื่อทำการรักษาในขั้นตอนต่อไป
เมื่อการแพทย์แผนปัจจุบันหมดทางเยียวยา พ่อไม่ปฏิเสธวิธีรักษาตามความเชื่อต่างๆ เช่น โยเร และการปิดทอง
คนไข้
เพลงลูกทุ่งยุคสุรพล สมบัติเจริญ เคยเป็นที่โปรดปรานของพ่อมาก แต่วันนี้เพลงเหล่านั้นแทบไม่มีความหมาย “เวลาเจ็บป่วย ฟังเพลงอะไรก็ไม่เพราะ” คือคำตอบของพ่อเมื่อผมถามว่าอยากฟังเพลงอะไร
กลางเดือนกุมภาพันธ์ พ่อจากไปด้วยกฎแห่งธรรมชาติ “ไม่น่าจะได้เผาลูกตัวเองเลย” เป็นคำพูดปนนํ้าตาจากหัวอกแม่ เมื่อย่าบอกลาพ่อเป็นครั้งสุดท้ายในงานเผาศพพ่อ
รูปถ่ายสมัยวัยหนุ่มที่พ่อสั่งเสียไว้ตั้งแต่ก่อนจากไปว่าให้ใช้ตั้งหน้าศพ

อ่านเพิ่มเติม สิ่งที่ควรรู้หากอยากจบชีวิตในสวิตเซอร์แลนด์

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.