ในเวนิส ช่างภาพ ค้นพบสัตว์พิลึกพิลั่น และสิ่งปลอบประโลมความเศร้าโศกของเธอในภาพถ่ายที่บิดเบี้ยวของเมืองซึ่งสะท้อนอยู่ในน้ำ
ยามเมื่อเผชิญกับขีดจำกัดของโลกที่เรารู้จัก นักทำแผนที่ชาวยุโรปสมัยศตวรรษที่สิบหกจะสลักคำเตือนว่า “ตรงนี้มีมังกร” ลงบนลูกโลกทองแดงลูกเล็กๆ ซึ่งหมายความว่า โปรดระวัง: พื้นที่ที่เลยจากตรงนี้ออกไปยังไม่ได้รับการสำรวจและอันตราย
ฉันใช้ชีวิตถ่ายภาพโลกที่ไม่รู้จัก นั่นคือ ชีวิตลับของเกอิชาในญี่ปุ่น อันเป็นเรื่องราวน่าเศร้าของการค้ามนุษย์อันตรายมักซุ่มซ่อนอยู่ใกล้ๆ แต่สารคดีเรื่องเวนิสที่ได้รับมอบหมายจาก เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก เป็นข้อยกเว้น ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเวนิสที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ อิฐทุกก้อน ประตูทุกบาน และสะพานทุกแห่งในจำนวน 400 แห่งของเมืองถูกทำแผนที่และระบายสี นับตั้งแต่มีการประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพ ช่างภาพทุกคนเคยเอ้อระเหยบนสะพานเหล่านั้นและถ่ายภาพเรือกอนโดลากับภาพสะท้อนในคลองที่อยู่ข้างใต้สะพาน เมืองเวนิสไม่ได้เป็นอันตรายต่อฉัน นอกจากคำสาปของภาพจำอันซ้ำซาก
ภารกิจของฉันคือการถ่ายภาพความเปราะบางของเมืองที่มีต่อน้ำ หรือภัยคุกคามจากน้ำท่วมและวิธีที่ชาวเวนิสพยายามหาทางป้องกัน ฉันถ่ายภาพเงาสะท้อนได้สองสามภาพ แต่ฉันอยู่ที่นั่นเพื่อตรวจสอบเรื่องที่ไม่มีใครรู้แน่ชัดเพียงเรื่องเดียว นั่นคือ เวนิสจะจมหายไปใต้น้ำหรือไม่ ภาพสะท้อนเหล่านั้นไม่ได้ให้เงื่อนงำอันใดเลย
โทรศัพท์ในห้องที่โรงแรมของฉันดังขึ้นกลางดึกคืนหนึ่ง พี่ชายของฉันโทร.มาบอกว่า แม่เข้าโรงพยาบาล และฉันควรกลับบ้านทันที ฉันจับเครื่องบินเที่ยวต่อไป แต่ไปถึงไม่ทันเวลา…
แม่เป็นนักบุกเบิกในหมู่ผู้หญิงรุ่นเดียวกัน เธอหนีออกจากเมืองทำเหมืองเล็กๆที่เป็นบ้านเกิดในรัฐไวโอมิงเพื่อเดินทางไปทั่วโลกกับพ่อ พี่ชายทั้งสองของฉัน และตัวฉัน แม่สร้างสรรค์และสนับสนุนความปรารถนาที่จะเดินทางของฉัน “ไม่มีช่องว่างกว้างใหญ่ที่ไหนข้ามผ่านด้วยการกระโดดครั้งเล็กๆ สองครั้งหรอกนะ” การตัดสินใจสำคัญๆในชีวิตก็เช่นกัน แม่จะพูดอย่านั้น “ไปเถอะลูก อย่าได้ลังเล”
ฉันกลับไปเวนิส แต่คลื่นแห่งความโศกเศร้าจะถาโถมใส่ฉันอย่างไม่คาดฝันเวลาเห็นแสงเทียนในโบสถ์ หรือเรือประกอบพิธีศพแล่นผ่านคลอง เสียงของคณะนักร้องประสานเสียงเรียกน้ำตาของฉันได้ทุกครั้ง
ภาพสะท้อนในคลองดึงดูดใจฉันอย่างไม่อาจอธิบายได้ ฉันมักจะหยุดเพื่อถ่ายภาพมัน ซึ่งสร้างความสับสนให้ผู้ช่วยหนุ่มชาวอิตาลีของฉันที่รู้ว่า นิตยสารไม่ตีพิมพ์ภาพถ่ายแนวนามธรรมและคิดว่า ฉันกำลังเสียเวลาเปล่า แต่ยิ่งเขาตั้งคำถามมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งขัดขืนมากเท่านั้น ฉันมักจะถ่ายภาพผ่านน้ำตาและอยากหลบเลี่ยงสายตาของเขา
เมื่อกลับไปวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อให้บรรณาธิการได้ดูความก้าวหน้าของงาน เหตุการณ์อื่นๆหลายเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในชีวิตของฉันทั้งในด้านส่วนตัวและด้านอาชีพ ซึ่งพัดพาฉันเข้าสู่วังวนของความสับสนและการระหกระเหิน ฉันมาถึงขีดจำกัดของโลกที่รู้จักแล้ว
กระนั้น ฉันยังมีทริปสุดท้ายที่ต้องไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพื่อถ่ายภาพ อักกวาอัลตา หรือน้ำท่วมตามฤดูกาล เมื่อน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนหนทาง จัตุรัส และร้านค้าในเวนิสเป็นช่วงๆ ภาพสะท้อนจะปรากฏขึ้นในที่ซึ่งไม่เคยมี และอีกครั้งหนึ่งที่ฉันพบการปลอบประโลมใจอย่างน่าประหลาดในภาพสะท้อนเหล่านั้น สิ่งอื่นๆหายไปสิ้นเมื่อฉันหลงเข้าสู่การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงไปของสายน้ำดำมืดซึ่งไหวเป็นระลอกจากสายลมโชยพัดและเรือที่ผ่านไปมา แล้วทันใดนั้น ก็แตกละเอียดออกเป็นลวดลายและสีสันต่างๆ
เมื่องานที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น ฉันไม่ได้เอาภาพสะท้อนเหล่านั้นให้ใครดู พวกมันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับภาพที่ฉันอยากจะถ่าย ภาพที่พยายามจะสำรวจโลกอันลี้ลับ ประเด็นสังคม และสภาวะของมนุษย์ ฉันลืมเรื่องภาพเหล่านั้นไปแล้ว
ห้าปีต่อมา ฉันพบพวกมันอยู่ในซอกหลืบของไฟล์คอมพิวเตอร์ เมื่อฉันเริ่มคัดเลือกภาพ สัตว์แปลกประหลาดก็ปรากฏออกมาจากส่วนลึกของภาพถ่าย ทั้งสัตว์ประหลาดในตำนาน ตัวการ์ตูน หน้ากากคาร์นิวัล งู และปนาลีหรือการ์กอยล์ พวกมันอยู่ตรงนั้นมาตลอด รอคอยให้จินตนาการของฉันปลุกชีพพวกมัน และอาจท้าทายให้ฉันกล้าที่จะทำแผนที่เส้นทางชีวิตและการถ่ายภาพของตนเอง ให้ฉันหยุดพักจากการค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของผู้อื่น เพื่อสำรวจเบื้องลึกของสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหัวใจฉันเอง
แต่โปรดระวัง: ตรงนี้มีมังกร
เรื่องและภาพถ่าย โจดี คอบบ์
อ่านเพิ่มเติม