สิ่งที่ซื่อหลางกำลังคลานเข่าค้นหาอยู่ ณ ความสูง 4,700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ของที่ราบสูงทิเบต เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง ส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินขึ้นมานั้น คือเห็ดราดอกเล็ก ๆ ไร้หมวก เป็นแค่ก้านสีน้ำตาลบางพอ ๆ กับก้านไม้ขีดไฟ โผล่จากดินโคลนขึ้นมาไม่กี่เซนติเมตร ซื่อหลาง ยางผี กับภรรยาและญาติมิตรกลุ่มใหญ่ ทำงานวันละ11 ชั่วโมง ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนมิถุนายน เพื่อค้นหา “ถั่งเช่า”
เมื่อซื่อหลางพบเห็ดราดังกล่าว เขาก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ ภรรยาของเขา หยางจิน น่าหมู่ จะเดินเข้ามาสมทบทันที เขาจัดแจงใช้เกรียงแซะรอบก้านเห็ด แล้วค่อย ๆ ยกดินก้อนหนึ่งขึ้นมาอย่างระมัดระวัง หลังจากปัดดินที่ติดอยู่ออก สิ่งที่ปรากฏอยู่บนฝ่ามือดูคล้ายหนอนผีเสื้อสีเหลืองสดที่ตายแล้ว ส่วนที่งอกอยู่บนหัวของมัน คือก้านเห็ดเรียวบางสีน้ำตาล ซื่อหลางหยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสีแดงออกมาจากกระเป๋า เขาหย่อนสมบัติที่พบลงไปในซอง รวมกับชิ้นอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แล้วม้วนปิดซองอย่างเบามือ “เห็ดหนอน” เหล่านี้ คือที่มาของรายได้ก้อนโตจากทั้งหมดที่พวกเขาหาได้ทั้งปี
ทั่วทั้งที่ราบสูงทิเบต สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่เพียงพลิกโฉมเศรษฐกิจในชนบท แต่ยังก่อให้เกิด “การตื่นทอง” ยุคใหม่ แท้จริงแล้ว เมื่อของที่บรรจุอยู่ในซองบะหมี่ของซื่อหลางเดินทางถึงห้างหรูในกรุงปักกิ่ง พวกมันอาจมีราคาคิดตามนํ้าหนักสูงกว่าราคาทองคำถึงสองเท่าตัวเลยทีเดียว
เห็ดราชนิดนี้ เรียกว่า ยารต์ซากันบู (yartsagunbu) ในภาษาทิเบต แปลความหมายได้ว่า “หญ้าฤดูร้อน หนอนฤดูหนาว” หรือที่รู้จักกันในวงการยาจีนว่า “ถั่งเช่า” หากจะว่ากันตามจริงแล้ว มันไม่ใช่ทั้งหญ้า และหนอน หากแต่เป็นตัวอ่อนผีเสื้อ (ghost moth) ชนิดหนึ่ง จากที่มีอยู่หลายชนิด และอาศัยอยู่ใต้ดิน หนอนเหล่านี้ติดเชื้อจากสปอร์ของเห็ดราปรสิต ซึ่งมีชื่อว่า Ophiocordyceps sinensis เห็ดราชนิดนี้จะกัดกินเนื้อในของหนอนผีเสื้อ เหลือไว้แต่โครงร่างแข็งภายนอกในสภาพเดิม จากนั้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน เห็ดราดังกล่าวจะออกดอกในรูปลำก้านสีนํ้าตาลเรียกว่า สโตรมา (stroma) โดยงอกออกมาจากส่วนหัวของหนอนผีเสื้อ
กระบวนการนี้เกิดขึ้นเฉพาะในเขตทุ่งหญ้าแบบแอลป์ บนพื้นที่สูงอันอุดมสมบูรณ์ของที่ราบสูงทิเบต และเทือกเขาหิมาลัยเท่านั้น ที่ผ่านมามีความพยายามในการเพาะเลี้ยง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ผู้คนเชื่อกันมาหลายศตวรรษแล้วว่า ถั่งเช่ามีสรรพคุณเป็นยามหัศจรรย์ และมีฤทธิ์ชูกำลังทางเพศ ปรากฏหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งจากตำราทิเบตสมัยศตวรรษที่ 15 ชื่อว่า มหาสมุทรแห่งสรรพคุณในการเป็นยาเร้ากำหนัด (An Ocean of Aphrodisiacal Qualities ) ที่กล่าวยกย่อง “สรรพคุณไร้ที่ติ” ซึ่ง “มอบประโยชน์เหนือความคาดคิด” แก่ผู้ที่ได้ลิ้มลอง เพียงนำไปต้ม 2 – 3 ก้านในถ้วยชา เคี่ยวกับนํ้าซุป หรือย่างโดยสอดไส้ในเป็ด แล้วโรคาพยาธิทั้งปวงที่เบียดเบียนอยู่จะได้รับการเยียวยา หรืออย่างน้อยผู้คนที่เชื่อก็บอกต่อ ๆ กันมาอย่างนั้น
หมอแผนโบราณจ่ายสมุนไพรถั่งเช่าเพื่อบำบัดอาการปวดหลัง ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ดีซ่าน และอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีสรรพคุณในการรักษาวัณโรค หอบหืด หลอดลมอักเสบ ตับอักเสบ ภาวะเลือดจาง และภาวะมีอากาศในเนื้อเยื่อ ไปจนถึงเป็นยารักษาโรคเอดส์ และอาจช่วยได้แม้กระทั่งอาการผมร่วง
ขณะที่เศรษฐกิจจีนดีวันดีคืน ความต้องการถั่งเช่าไม่เพียงเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกสถานะในงานเลี้ยงอาหารค่ำ และของขวัญยอดนิยมสำหรับเอาอกเอาใจบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาล
ย้อนหลังไปในช่วงทศวรรษ 1970 ถั่งเช่าครึ่งกิโลกรัมมีราคาเพียง 1-2 ดอลลาร์สหรัฐ กระทั่งถึงต้นทศวรรษ 1990 ราคายังไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยซ้ำ กระทั่งทุกวันนี้ถั่งเช่าคุณภาพระดับพรีเมียม อาจมีสนนราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐทีเดียว
ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้ ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า ปริมาณผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ทั้งปี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 400 ล้านก้านอาจลดลง เมื่อทุ่งถั่งเช่าถูกเก็บเกี่ยวมากเกินไป แดเนียล วิงก์เลอร์ นักนิเวศวิทยา กล่าวเตือนว่า การเก็บเกี่ยวถั่งเช่าอย่างยั่งยืน ผู้เก็บจะต้องปล่อยบางก้านไว้ในดินให้โตเต็มที่ เพื่อให้แพร่เชื้อไปติดตัวอ่อนผีเสื้อในฤดูถัดไป แต่เท่าที่เป็นอยู่ ชาวบ้านส่วนใหญ่กลับเก็บทุกก้านที่พบ แล้วขยับขยายพื้นที่เก็บเกี่ยวไปยังพื้นที่ที่อยู่สูงขึ้นไป
กำไรงามจากถั่งเช่าในแต่ละปี ทำให้ชนเร่ร่อนเลี้ยงจามรีชาวทิเบตหลายพันคนที่เคยยากจนข้นแค้น ได้เป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์ ไอโฟน และโทรทัศน์จอแบน สงครามแย่งชิงพื้นที่เก็บเกี่ยวถั่งเช่า ซึ่งส่วนใหญ่สงวนไว้ให้คนในท้องถิ่นที่มีใบอนุญาต มักนำไปสู่การเผชิญหน้าด้วยความรุนแรง ซึ่งรวมถึงเหตุฆาตกรรม 7 ราย ทางเหนือของเนปาล อันเป็นพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวถั่งเช่าคิดเป็นสัดส่วนเพียงน้อยนิดของโลก
ทุกวันนี้ ตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่นเมืองฉือฉวี บ้านเกิดของซื่อหลางและภรรยา เมื่อพื้นดินอบอุ่นขึ้น และต้นหญ้าเริ่มแทงยอด ผู้คนจะวางมือจากกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิต เพื่อออกเสาะหาถั่งเช่า เด็ก ๆ ที่สายตาดี และมีรูปร่างเตี้ยติดพื้นมักเป็นผู้เก็บเกี่ยวฝีมือดีที่สุด โรงเรียนในบางท้องที่ถึงกับปิดเรียนหนึ่งเดือนให้เป็นวันหยุดเทศกาลเก็บถั่งเช่า
………………………………..
บนชั้น 5 ของตึกอพาร์ตเมนต์ระฟ้าทันสมัยในเขตตะวันออกของกรุงปักกิ่ง หยูเจียนนั่งพิงโซฟา ขนาบข้างด้วยสุนัขพันธุ์บิชงฟริเซสองตัว เธอกำลังจิบชาผสมถั่งเช่าที่เพิ่งชงใหม่ ๆ หยูเจียนอายุ 40 ปี ก่อนหน้านี้ไม่นาน เธอเป็นผู้บริหารของบริษัทอาหารเพื่อสุขภาพแห่งหนึ่ง แต่เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2010 เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมดลูก หยูเจียนเข้ารับการรักษาตามแบบแพทย์สมัยใหม่ รวมถึงการทำเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ตัดสินใจไปปรึกษาหมอสมุนไพรจีนแผนโบราณด้วย เขาจ่ายถั่งเช่าให้เธอ และหยูเจียนก็ใช้มันมาประมาณ 6 เดือนแล้ว
ทุกเย็นเธอจะใส่ถั่งเช่าสองก้านลงไปในนํ้าหนึ่งแก้ว แล้วแช่ทิ้งไว้หนึ่งคืน พอตอนเช้าก็เอานํ้านั้นไปต้มพร้อมกับอินทผลัมแห้งเล็กน้อย เธอดื่มนํ้าชาที่ได้และกินถั่งเช่าที่แช่นํ้าจนนุ่มแล้ว หยูเจียนซื้อแต่ถั่งเช่าคุณภาพดีที่สุดเท่านั้นโดยซื้อจากร้านขายยาในเครือของบริษัทถงเหรินถัง ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ยี่ห้อที่ดังและแพงกว่าของจาซีไฉจี้ เธอต้องจ่ายเงินมากกว่า 550 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับถั่งเช่าขนาดกลางหนึ่งถุง ซึ่งมี 24 ก้าน และพอกินไปได้ 2 อาทิตย์
“ฉันคิดว่าคุ้มค่ะ” หยูเจียนบอกอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่เธอรู้ว่าประสิทธิผลของมันยังเป็นที่กังขา
ผลการศึกษาจำนวนหนึ่งซึ่งทำในจีนเป็นหลัก เผยว่าถั่งเช่ามีสารช่วยควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันชื่อ บีตา-กลูแคน (beta-glucan) และสารต้านไวรัสชื่อ คอร์ไดเซพิน (cordycepin) การวิจัยด้านการรักษา 2-3 ชิ้น ชี้ว่า ถั่งเช่าสามารถบรรเทาพยาธิสภาพหลายอย่างที่มันถูกสั่งจ่ายเพื่อรักษามาช้านาน รวมถึงโรคหลอดลมอักเสบ หอบหืด เบาหวาน ตับอักเสบ คอเลสเตอรอลสูง และความผิดปกติทางเพศ ทว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยแย้งว่า การศึกษาเหล่านี้ทำกันในวงแคบ และวิธีวิทยาการวิจัยก็ยังเป็นที่กังขา
เบรนต์ บาวเออร์ ผู้อำนวยการโครงการการแพทย์สนับสนุนและผสมผสาน (Complementary and Integrative Medicine Program) แห่งเมโยคลินิก ผู้ศึกษาวิจัยยาสมุนไพรมาอย่างกว้างขวาง กล่าวว่า “เท่าที่ผ่านมา ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เราต้องพึ่งพายังไม่บ่งชี้ถึงผลการรักษาที่ชัดเจน จนกว่าจะมีใครทำการวิจัยด้านการรักษาในวงกว้างโดยใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงครับ”
พอล สแตเมตส์ นักวิทยาเห็ดรา ชี้ว่า นอกจากนี้ ถั่งเช่าป่ายังอาจปนเปื้อนเชื้อราซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จัก และบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ “เผลอ ๆ คนจะได้รับพิษเอานะครับ” เขาเตือน และเสริมว่า “สำหรับคนที่ไม่เชี่ยวชาญ ต้องบอกว่างานนี้เสี่ยงสุด ๆ เลยละครับ”
กระนั้น ไม่ว่าหลักฐานจะยังห่างไกลความจริงเพียงใด ก็ไม่อาจหยุดยั้งความเชื่อที่แพร่สะพัดไปทั่ว หยูเจียนบอกว่า เธอสัมผัสได้ถึงผลการรักษาของถั่งเช่าทั้งทางร่างกายและจิตใจ มันช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้น และฟื้นฟูชี่ (qi) หรือพลังชีวิต เธอว่าอย่างนั้น แต่กำลังวังชาจริง ๆ ของเธอนั้น ต้องบอกว่าขึ้น ๆ ลง ๆ
แม้หยูเจียนจะค่อนข้างซูบผอม แต่ผิวพรรณกลับมีเลือดฝาด และมีท่วงท่ากระฉับกระเฉง ในวันที่แข็งแรงคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะยกความดีให้ถั่งเช่า แต่ในวันที่อาการไม่สู้ดี เธอจำต้องระลึกว่า การรักษาทุกวิธีล้วนมีข้อจำกัด กระนั้นเมื่อเธอไปพบแพทย์ครั้งหลังสุด หยูเจียนเล่าว่า หมอตกใจกับอาการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็วของเธอ
“เขาจำไม่ได้ด้วยซํ้าค่ะว่า ฉันเป็นผู้ป่วยมะเร็ง” เธอทิ้งท้าย (หลังการเขียนสารคดีเรื่องนี้เสร็จสิ้นลง โรคมะเร็งของหยูเจียนกลับกำเริบขึ้น และสุดท้ายก็พรากชีวิตเธอไป)
………………………………..
ปัจจุบัน การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับถั่งเช่าเพิ่มมากขึ้น จากฐานข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการแพทย์ทางธรรมชาติ (Natural Medicines Comprehensive Database) ได้แบ่งระดับความน่าเชื่อถือของการใช้ถั่งเช่าเป็นการรักษาทางเลือกจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอต่อการบ่งบอกประสิทธิภาพ (Insufficient Evidence to Rate) และในด้านเสริมประสิทธิภาพในการออกกำลังกายถูกจัดให้อยู่ในระดับที่อาจไม่ได้ผล (Possibly Ineffective)
หากรับประทานในระยะเวลาสั้นและปริมาณที่พอเหมาะ ถั่งเช่าค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่มีข้อควรระวังบางประการ ดังนี้
เรื่อง : ไมเคิลฟิงเกิล
ภาพถ่าย : ไมเคิล ยามาชิตะ
จากสารคีเรื่อง ขุมทองแห่งธิเบต ตีพิมพ์ในนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนสิงหาคม ปี 2012