นักวิทยาศาสตร์แบ่งความรักออกเป็น 4 ประเภท แล้วคุณล่ะเป็นประเภทไหน

“นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU)

แบ่งความรักของมนุษย์ออกเป็น 4 ประเภท

ซึ่งเผยให้เห็นว่าแต่ละคนต่างแตกต่างกันไปเวลามีความรัก”

บางคนกล่าวว่ารักคือการให้ บ้างก็ว่ารักคือการเอาใจใส่ แต่หลายคนก็เชื่อว่ารักคือเติบโตไปด้ววกัน ทั้งหมดเป็นคำนิยามของความรักซึ่งแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ความเชื่อ และวัฒนธรรมของแต่คน แต่สำหรับวิทยาศาสตร์ บางทีความรักอาจเรียบง่ายกว่านั้น

“(ความรักโรแมนติกคือ)สถานะแรงจูงใจที่มักสัมพันธ์กับความปราถนาที่จะผสมพันธุ์กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งระยะยาว” อดัม โบเด จากสาขามานุษยชีววภาพจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าว

“ความรักโรแมนติกเกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตและเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางปัญญา อารมณ์ พฤติกรรม สังคม พันธุกรรม ระบบประสาท และระบบต่อมไร้ท่อที่แตกต่างกันในทั้งสองเพศ ตลอดช่วงชีวิตส่วนใหญ่ ความรักโรแมนติกหน้าที่ในการเลือกคู่ การเกี้ยวพาราสี เพศสัมพันธ์ และการสร้างสายพันธ์” เขาเสริม

โบเด กล่าวว่า คำจัดกัดความที่ว่ามานี้อาจดูไม่สวยงามนัก แต่ก็ถือเป็นคำจัดกัดความที่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา เห็นถึงประโยชน์ชัดเจน และมีความแม่นยำที่สุดในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่าจริง ๆ แล้วความรักนั้นมีกี่รูปแบบกันแน่?

โรแมนติกที่ไม่เหมือนกัน

ทีมวิจัยจึงได้ทำการสำรวจข้อมูลความรักโรแมนติกในช่วงปี 2022 ซึ่งถือเป็นการศึกษาระหว่างวัฒนธรรมที่กว้างที่สุดเกี่ยวกับความโรแมนติกของผู้คน โดยครอบคลุม 33 ประเทศและมุ่งเน้นไปที่ตวามรักของคนรุ่นปัจจุบัน จึงได้เลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นคู่รักวัย 18-25 ปีที่คบหากันไม่ถึง 2 ปี 

จากตรงนี้ทีมงานได้พยายามวัดตัวแปรในความสัมพันธ์ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมโรแมนติกต่าง ๆ ของคู่รัก ซึ่งได้แก่ ความเข้มข้นของความรัก การคิดหมกมุ่น (หรือคิดถึงคู่รักมากน้อยเพียงใด) ระดับความมุ่งมั่น จำนวนครั้งที่พวกเขามีความรัก และความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ ท้ายที่สุดก็นำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์

“นี่เป็นเอกสารฉบับแรกที่แสดงให้เห็นโดยประจักษ์ว่าเราไม่ได้รักในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด” โบเด กล่าว “ดูเหมือนจะชัดเจนมาก ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ยังไม่เคยแสดงให้ได้เห็นมาก่อน” ทีมวิจัยระบุว่าพวกเขาได้ผลลัพธ์ของความรักโรแมนติกออกมา 4 แบบคือ อ่อน, ปานกลาง, เข้มข้น และ ใคร่

ระดับอ่อนโยน: มีอยู่ในกลุ่มตัวอย่างประมาณ 1 ใน 5 หรือประมาณ 20.02% โดยมีลักษณะพิเศษก็คือ มีความเข้มข้นต่ำที่สุด หมกมุ่นน้อยที่สุด มุ่งมั่นต่ำที่สุด และมีความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ต่ำที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น กลุ่มนี้ยังมีสัดส่วนของคนที่คิดว่าคู่ของตน “รักอย่างแน่นอน” น้อยที่สุด – เพียง 25.31% – และมีสัดส่วนผู้ที่มีเพศสัมพันธ์น้อยที่สุดด้วยเช่นกัน ที่ 82.72%

ระดับปานกลาง: มีอยู่ประมาณ 4 ใน 10 คนหรือ 40.91% โดยระบุว่าเป็นกลุ่มที่ ‘ค่อนข้างมาตรฐาน’ หรือก็คือ ‘ไม่มีอะไรโดดเด่น’ ตามงานวิจัย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเป็นผู้ชายมากกว่า มีลูกน้อยกว่า ‘มีความเข้มข้นค่อนข้างต่ำ หมกมุ่นต่ำ(แต่สูงกว่ากลุ่มก่อนหน้า) มุ่งมั่นค่อนข้างสูง และมีเพศสัมพันธ์ความถี่ปานกลาง’ 

ระดับเข้มข้น: มีอยู่ประมาณ 1 ใน 3 หรือ 29.42% ซึ่งทีมวิจัยระบุว่าเป็นพวก ‘คลั่งรัก’ ที่มีอารมณ์รุนแรงสูงสุด หมกมุ่นมากที่สุด มุ่งมั่นมากที่สุด และมีเซ็กส์บ่อยครั้งกว่าปกติ สำหรับผู้คนที่กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงคือประมาณ 6 ใน 10 คน 

ระดับใคร่ (Libidinous): มีน้อยที่สุดคือ 1 ใน 10 หรือ 9.64% โดยจะเป็นคนที่มีความรักอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่ากลุ่มก่อนหน้า ลักษณะพิเศษคือมีเพศสัมพันธ์เฉลี่ย 10 ครั้งต่อสัปดาห์และมากถึง 20 ครั้ง ‘มีอารมณ์สุดขั้วค่อนข้างสูง หมกมุ่นค่อนข้างสูง มุ่งมั่นค่อนข้างสูง และมีเซ็กส์บ่อยครั้งเป็นพิเศษ’ กลุ่มนี้มีแนวโน้มมีผู้ชายมากกว่าเล็กน้อย และมีสัดส่วนส่วนของความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันสูงที่สุด

งานในอนาคต 

ทีมวิจัยเชื่อว่ายังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมาเกี่ยวกับความแตกต่างเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวแปรของเพศ สถานะทางเพศ และรสนิยมทางเพศ ตลอดจนผลกระทบต่ออารมณ์ของความรักโรแมนติก และผลกระทบความสัมพันธ์ในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ได้ 

นอกจากนี้พฤติกรรมของความรักอาจบ่งชี้ถึงการตัดเลือกตามวิวัฒนาการ กล่าวคือการแสดงออกเหล่านี้ได้บ่งบอกถึงกลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการเลือกคู่ครองและการสร้างความสัมพันธ์ของคู่รัก พวกเขายังแนะนำให้การศึกษาในอนาคตตรวจสอบปัจจัยด้านความแตกต่างทางวัฒนธรรมหรือชาติพันธุ์ รวมไปถึงความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ ในด้านการแสดงออกถึงความโรแมนติกด้วย

“ยังมีการวิจัยด้านความรักโรแมนติกที่ไม่เพียงพอซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างครอบครัวและความสัมพันธ์ มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม และความเป็นสากลที่ได้เสนอว่า ซึ่งเราต้องการให้นักวิจัยทั่วโลกช่วยกันในเรื่องนี้” โบเด กล่าว 

“สิ่งสำคัญก็คือเราไม่ได้รักในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด บางคนมีเซ็กส์มากถึง 20 ครั้งต่อสัปดาห์เมื่อพวกเขาตกหลุมรัก บางทีมนุษย์อาจจะยังคงวิวัฒนาการในแง่ของวิธีการแสดงออกอยู่” 

สืบค้นและเรียบเรียง

วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

ที่มา

https://www.sciencedirect.com

https://reporter.anu.edu.au

https://www.iflscience.com

https://scitechdaily.com

https://www.theguardian.com


อ่านเพิ่มเติม : ถ้าไม่เคย อกหัก จะรู้จักความรักได้อย่างไร? รู้ “รัก-อกหัก” ในทางวิทย์ฯ

© COPYRIGHT 2025 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.