ช่วงที่ผ่านมา การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้กลายมาเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นหนึ่งในรูปแบบของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่คุณต้องรักษาความสะอาดของพื้นที่ แต่คุณจำเป็นต้องคิดถึงผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมในสถานที่ท่องเที่ยวรวมไปถึงประชากรในท้องถิ่น เมื่อคุณเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่การคงสภาพดั้งเดิมของพื้นที่นั้นไว้ แต่คุณควรสร้างผลกระทบเชิงบวกกับพื้นที่นั้นด้วยเพื่อกระจาย ความสุขอย่างยั่งยืน ทั้งผู้มาเยือนและเจ้าบ้าน
การท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญของประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอุษาคเนย์นี้ยังเต็มไปด้วยโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ลองท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ถ้าคุณกำลังวางแผนการเดินทาง คำแนะนำเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวพร้อมไปกับการให้บางสิ่งบางอย่างกลับคืนแก่โลก ผ่านจุดท่องเที่ยวยอดนิยม 3 แห่งในฟิลิปปินส์
เกาะโบราไกย์
ความสวยงามของหาดทรายขาวอันเลื่องชื่อ โบราไกย์เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของฟิลิปปินส์มาช้านาน อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 ความมีชื่อเสียงนี้เป็นเหตุให้ทางการจำเป็นต้องประกาศปิดเกาะเป็นเวลา 6 เดือน และปัจจุบันมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวันที่จะเข้าชมเกาะ ถ้าคุณอยากเดินทางไปโบราไกย์ คุณควรพิจารณาถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่เลย
การเล่นไคต์เซิร์ฟ คุณต้องอาศัยแรงลมสำหรับการควบคุมทิศทาง คุณสามารถเคลื่อนที่ไปบนผืนน้ำได้อย่างรวดเร็ว หากมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ที่หาดบูลาบ็อก ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม และอีกหนึ่งสถานที่คือหาดไวท์บีช ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
ซิปไลน์ การห้อยโหนไปบนเส้นสลิงเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มจินตนาการในการชมทิวทัศน์ในมุมมองเดียวกับนกที่กำลังโผบิน และกิจกรรมนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ฟรีไดฟ์ หรือการดำน้ำโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ ที่แม้จะใช้อุปกรณ์ในการดำน้ำน้อยลงแล้ว คุณยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่อัศจรรย์ใต้ท้องทะเลแบบใกล้ชิด
การเดินชมธรรมชาติบนเกาะ นอกจากเป็นกิจกรรมที่ยั่งยืนแล้ว คุณยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับพืชและสัตว์นานาพันธุ์บนเกาะแห่งนี้ พร้อมกับเผาผลาญพลังงานไปในตัว กิจกรรมนี้อาจเป็นแค่การเดินทอดน่องเรื่อย ๆ หรือการเดินป่าจริงจังตลอดสองชั่วโมง หรืออีกหนึ่งวิธีคือการเรียนรู้บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เป็นบ้านของ กิ้งก่า ลิง เต่าทะเล บนเกาะ
การเรียนทำอาหาร ถ้าคุณต้องการเรียนรู้การปรุงอาหารแบบฟิลิปปินส์ดั้งเดิม คุณจะรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมอาหาร และยังได้สูตรอาหารกลับไปฝากคนที่บ้านด้วย
อ่าวมะนิลา
อ่าวมะนิลาเป็นท่าเรือตามธรรมชาติที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ล้อมรอบเมืองหลวงอย่างมะนิลาเอาไว้ ท่าเรืออันมีชื่อเสียงแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องพระอาทิตย์อัสดงที่สวยงาม รุ่มรวยประวัติศาสตร์ และมีกิจกรรมเชิงพาณิชย์มากมาย
ในเชิงประวัติศาสตร์ อ่าวมะนิลาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เนื่องจากบทบาทสำคัญในช่วงการค้าระหว่างฟิลิปปินส์และเม็กซิโกเป็นระยะเวลา 250 ปี บางส่วนของอ่าวมะนิลาอุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายฝั่งของเมืองปารานาเก และเมืองลาสปีนาส ซึ่งเป็นบ้านและแหล่งผสมพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ทั้งพืช ปลา นกอพยพ และสัตว์อื่น ๆ มลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และขยะเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่ออ่าวมะนิลา องค์กรต่าง ๆ อย่าง PEMSE ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปกป้องทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้ได้ด้วยการเลือกหนึ่งในกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเหล่านี้
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศด้วยการปั่นจักรยานไม้ไผ่รอบเมืองประวัติศาสตร์อินตรามูรอส ผู้นำเที่ยวจะนำพาคุณไปสำรวจส่วนต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงของวอลล์ซิตี้ด้วยวิธีการที่ทั้งปลอดภัย สนุก และได้ความรู้ โดยทั่วไป กลุ่มทัวร์จัดขึ้นเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 5-10 คน (สูงสุดไม่เกิน 15 คน) และผู้นำเที่ยวจะดูแลคุณตลอดการปั่นจักรยานชมเมืองแห่งนี้
คริสตจักรและพิพิธภัณฑ์ซานอะกุสติน / ฟอร์ตซานติอาโก การเดินชมเมืองมะนิลาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจและเรียนรู้ประวัติศาสตร์รวมถึงวัฒนธรรมของประเทศ อนุสาวรีย์ต่าง ๆ อย่างโบสถ์ซานอะกุสติน และฟอร์ต ซานติอาโก เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยี่ยมชม ซานอะกุสติน เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ สร้างขึ้นในปี 1571 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในมรดกโลก มีสถาปัตยกรรมและศิลปะที่เก่าแก่ ของที่ใช้ตกแต่งภายใต้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา และมีเครื่องเล่นออร์แกนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่สิบแปด และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสุสานของบุคคลสำคัญหลายท่านทั้งชาวสเปนและฟิลิปปินส์ ตัวอย่างเช่น นายพลมิเกล โลเปซ เด เลกัสปี ที่ตั้งของโบสถ์แห่งนี้อยู่บริเวณจุดยุทธศาสตร์ คือบริเวณปากแม่น้ำปาสิก ส่วนฟอร์ตซันติอาโก เป็นหนึ่งในศูนย์บัญชาการทางทหารสเปน อังกฤษ อเมริกัน และญี่ปุ่นในช่วงที่เข้ามายึดครองฟิลิปปินส์ ป้อมแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งชาติและถูกฟื้นฟูให้กลับมามีสง่าราศีเหมือนดังเดิม
ซากาดาซ่อนตัวอยู่ในตอนกลางของภูเขากอร์ดิเยรา ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลของฟิลิปปินส์ ถูกทิ้งร้างอย่างไร้การแตะต้องจากอาณานิคมสเปน และเป็นที่รู้จักในแง่การรักษาวัฒนธรรมพื้นเมืองและความสวยงามทางธรรมชาติ หากคุณอยากสัมผัสกิจกรรมในเชิงยั่งยืน ลองเลือกหนึ่งจากสี่กิจกรรมที่เราแนะนำ
โฮมสเตย์ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นคือการอยู่ร่วมกับคนท้องถิ่น ที่นี่คุณจะพบกับชาวบ้านที่ยินดีเปิดประตูบ้านของเขาแก่ผู้มาเยือน เรื่องราคาก็สมเหตุสมผล และคุณยังได้ช่วยให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความยั่งยืน
น้ำตกโบมด-อก การเดินปีนเขาและการว่ายน้ำเป็นวิธีการสัมผัสสิ่งแวดล้อมอย่างละมุน น้ำตกแห่งนี้คนท้องถิ่นมักเรียกว่า “น้ำตกใหญ่” ต้องใช้วิธีการเดินป่าเข้าไปโดยใช้เวลาในการเดินประมาณหนึ่งชั่วโมงในแต่ละเที่ยว คุณสามารถหาข้อมูลและจ้างไกด์ท้องถิ่นได้ที่ศูนย์ข้อมูลบังกาอัน
การปั่นจักรยานเสือภูเขา พื้นที่สูงและภูมิประเทศแบบเทือกเขาสร้างความสมบูรณ์แบบสำหรับการปั่นจักรยานเสือภูเขา นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานและผจญภัยในรูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมกับชมทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของที่นี่ได้
ซิปไลน์ เช่นเดียวกับที่โบราไกย์ การเล่นซิปไลน์ในซากาดาเป็นกิจกรรมที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณจะได้ชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงาม
เมื่อคุณท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน คุณไม่เพียงแต่ทิ้งรอยเท้าคาร์บอนอันน้อยนิดไว้บนโลก แต่คุณยังวางตัวเองไว้ในรอยทางของการผจญภัย การค้นพบตัวเอง และเชื่อมต่อกับความหมายของชีวิต ด้วยวัฒนธรรมใหม่ ๆ
***แปลและเรียบเรียงโดย ศุภพิชา คุณวุฒิ
โครงการนักศึกษาฝึกงาน กองบรรณาธิการ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ลอนดอนผงาด