ศิลปิน นักเดินทาง พิธีกรรายการสารคดีท่องเที่ยว
นอกเหนือจากฝีมือด้านการแสดงแล้ว เรย์ แมคโดนัลด์ ยังเป็นพิธีกรรายการสารคดีท่องเที่ยวผู้มากประสบการณ์ เขาคือผู้บุกเบิกรายการสไตล์แบ็กแพ็กคนแรกๆ ของเมืองไทยที่โดดเด่นด้วยบุคลิกเฉพาะ จากการพาผู้ชมเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ หลากหลายทั้งใกล้และไกล เรย์ถือเป็นนักเดินทางตัวยงที่ออกผจญภัยมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเขาบอกว่า “เป็นการค้นหาตัวเอง” สำหรับเขา ตั้งแต่วัยเด็กเป็นต้นมา “แค่ข้ามถนนไปซื้อผักบุ้งให้แม่” ก็ถือเป็นการเดินทางได้แล้ว
การสำรวจกับการเดินทาง
คำว่าสำรวจของเรย์อาจไม่ได้เทียบเท่ากับบรรดานักวิทยาศาสตร์ หรือนักสำรวจตัวจริง เรย์นิยามว่าการสำรวจของเขาน่าจะเป็นแค่ชั้นอนุบาล เพราะมันเป็นแค่การผจญภัยมากกว่า แต่จริงๆ จะนับว่าเป็นการสำรวจก็ได้หากนับจากสิ่งที่ได้กลับมา เพราะทุกการเดินทางเรย์ระบุว่ามันคือการค้นหาบางอย่างเช่นกัน เมื่อเราเริ่มต้นค้นหาจะเป็นการสำรวจไปในตัว และไม่ว่าสถานที่นั้นจะใกล้ไกลก็ตาม ตัวเราเองเปลี่ยนแปลงไปเสมอเมื่อการเดินทางครั้งนั้นสิ้นสุดลง อาจเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างนั่งเครื่องบินกลับ รู้สึกว่าชีวิตมันมีความหมาย รู้สึกมองโลกเปลี่ยนไป เข้าใจตัวเองมากขึ้น หรือโชคดีที่ได้เกิดมา จะอะไรก็แล้วแต่ มันจะค่อยๆ ซึมเข้ามา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
“ก่อนจะถึงการเดินทางครั้งสุดท้าย ที่มันอีกยาวไกลแค่ไหนเราก็ไม่รู้ มันยังมีอีกหลายที่ที่เราอยากจะออกไปค้นหาถ้ายังมีแรงอยู่ ยังบ้าคลั่ง ก็ยังจะอยากออกไปเรื่อยๆ”
การเดินทางไม่มีวันสิ้นสุด
หลายคนชอบถามเรย์ว่าทำไมจึงเดินทางไปที่เดิมซ้ำๆ ไม่เบื่อบ้างหรือ แต่สำหรับเขาการเดินทางมันไม่มีวันสิ้นสุด เรย์สมมุติว่ามีสถานที่ที่หนึ่งที่เขาเคยไปแล้วตอนอายุ 20 ปี แต่พอได้กลับไปอีกครั้งตอนอายุ 40 ปี มันไม่เหมือนเดิม เพราะตอนอายุ 20 ปี เรย์อธิบายว่าเขามีวิธีคิดแบบหนึ่ง มีความต้องการ มีประสบการณ์แบบหนึ่ง แต่พออายุมากขึ้นมุมมองที่มองโลกมันต่างออกไปสิ่งนี้ช่วยให้เขาเห็นรายละเอียดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งจริงๆ มันอาจจะมีอยู่แล้วตั้งแต่เขาอายุ 20 ปี แต่ในตอนนั้นไม่เคยเห็นมันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สถานที่ดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เป็นตัวบุคคลต่างหากที่ข้างในมันเปลี่ยนไป และถ้ามีโอกาสเรย์ยังคงอยากจะเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ ที่เขาเคยไปแล้วซ้ำอีกเรื่อยๆ เพื่อดูว่าเมื่ออายุมากขึ้นแล้วเขาจะได้อะไรใหม่จากการเดินทางไปที่เดิม
เพราะการเดินทางมันไม่มีวันสิ้นสุด หากมองแบบสัจธรรมแน่นอนว่ามีการเดินทางครั้งสุดท้ายที่สิ้นสุดจริงๆ คือ One Way Ticket ที่ทุกคนหนีไม่พ้น (ความตาย) แต่กว่าจะถึงเวลานั้น และเราทุกคนเองก็ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ สำหรับเรย์แล้ว โลกมันกว้างใหญ่รอให้เราเดินทางไปค้นพบ ไปเรียนรู้อีกมาก ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะออกไปหรือไม่ ทั้งนี้ส่วนตัวแล้วเขาค่อนข้างชอบที่คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ออกเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เลย ต่างกับคนรุ่นก่อนๆ ที่ต้องรอให้เกษียณ รอให้พร้อมก่อน สมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่ได้คิดว่าต้องมีบ้าน มีรถ แต่พวกเขามองว่าประสบการณ์ชีวิตคือสิ่งสำคัญที่ต้องกอบโกย ซึ่งมันล้ำค่ามาก เพราะประสบการณ์เหล่านี้มันจะช่วยให้บุคคลนั้นๆ มองโลกได้กว้างกว่า มองเห็นมิติที่หลากหลายกว่าคนที่ไม่ได้ออกไปพบเจออะไรใหม่ ที่สำคัญคือเรย์เน้นย้ำว่าต้องเปิดใจกว้าง อย่าเอาบรรทัดฐานแบบไทยไปวัด ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม พยายามทำความเข้าใจให้ได้ เพราะถ้าทั้งโลกเหมือนๆ กันไปหมด เราก็ไม่รู้ว่าจะเดินทางไปทำไม จริงไหม?
ความประทับใจที่ได้เดินทาง
เรย์เล่าว่าเริ่มเดินทางทริปแรกคือตั้งแต่เด็กมาก ไม่รู้จะนับอันไหนเป็นความประทับใจที่สุด แค่ข้ามถนนไปซื้อผักบุ้งให้แม่ หรือไปเที่ยวกับทีมฟุตบอลก็นับเป็นการเดินทาง เช่นกัน
แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาอย่างชัดเจนเลยก็คือ ประสบการณ์จากการเดินทางที่ผ่านมามันทำให้เรย์รู้สึก humble (ถ่อมตน) นี่คือคำจำกัดความที่เขาระบุว่าใช่ที่สุด เมื่อเราเจออะไรที่มันยิ่งใหญ่มากๆ ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ ธรรมชาติที่มันใช้เวลาก่อร่างสร้างตัวเป็นแสน เป็นล้านปี และจะอยู่ไปอีกเป็นล้านๆ ปี พอเรย์ได้ไปเห็นไปสัมผัส มันทำให้เขารู้เลยว่าตัวเล็กแค่ไหน ไม่มีความสำคัญแค่ไหน มีหลายที่ที่ทำให้เรย์รู้สึกแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น จุดชมวิวที่กาฐมาณฑุ ตอนนั้นเรย์อายุ 15 ปี เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเทือกเขาหิมาลัยกว้างสุดลุกหูลูกตา เขาเล่าว่ารู้สึกอึ้งไปเลย และนั่งมองมันอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง รู้สึกดีใจที่เกิดมาได้เห็นมัน
อ่านเพิ่มเติม