5 ธีมเที่ยวญี่ปุ่นโดยรถไฟที่คุณจะไม่มีวันลืม

ภาพรถไฟหัวกระสุนกำลังแล่นผ่านภูเขาไฟฟูจิ ก่อนไป เที่ยวญี่ปุ่น ควรซื้อตั๋วรถไฟเจแปนเรลพาส เพื่อที่จะได้สัมผัสกับระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมที่สุดในโลก ภาพถ่ายโดย SEAN PAVONE, ALAMY STOCK PHOTO


นี่คือแผนการเดินทาง เที่ยวญี่ปุ่น ผ่านตั๋วรถไฟเจแปนเรลพาสแบบ 7 วัน ที่จะให้คุณสำรวจดินแดนอาทิตย์อุทัยด้วยมุมมองใหม่

การท่อง เที่ยวญี่ปุ่น หรือดินแดนอาทิตย์อุทัยนั้นเติบโตอย่างพุ่งทะยานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนมีนาคม 2019 มีจำนวนทักท่องเที่ยวนานาชาติเดินทางไปญี่ปุ่นกว่า 2.8 ล้านคน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นดีขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวในช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในปี 2020

สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงคลื่นนักท่องเที่ยวจากจุดหมายยอดนิยม ลองใช้ตั๋วรถไฟเจแปนเรลพาสแบบ 7,14 หรือ 21 วัน ที่จะทำให้คุณเดินทางไปได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น ไปตามเส้นทางการท่องเที่ยวใน 5 ธีมเหล่านี้ ที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ

นี่คือตำแหน่งเมืองที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักในแผนการเดินทางนี้ ซึ่งล้วนเริ่มต้นที่โตเกียว

 ท่องไปตามเส้นทางกวี “ไตรทัศน์แห่งญี่ปุ่น”

ในปี 1643 นักปราชญ์ในสมัยโชกุน ฮายาชิ กาโฮ (Hayashi Gahō) ได้เป็นผู้เสนอ ไตรทัศน์แห่งญี่ปุ่น (Three Views of Japan) ซึ่งเป็นการกล่าวถึง รายชื่อสถานที่สามแห่งในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับการจัดว่ามีความงดงามมากที่สุดในสมัยนั้น ได้แก่ หมู่เกาะกิ่งสน แห่งอ่าวมัตสึชิมะ ในจังหวัดมิยางิ, ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ดูเหมือนเกาะลอยอยู่บนน้ำที่จังหวัดฮิโรชิมะ และดอนทราย อามาโนะฮาชิดาเตะ ในจังหวัดเกียวโต สถานที่เหล่านี้อยู่เหนือกาลเวลาได้เพราะงาน ไตรทัศน์แห่งญี่ปุ่น

นี่เป็นแผนการเดินทางแนะนำในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และระหว่างการเดินทางอย่าพลาดการทานอาหารที่เต็มเติมจิตใจของคุณ ในอ่าวมัตสึชิมะ ลองชิมหอยแครงย่าง และหยุดแวะที่จังหวัดเซ็นไดเพื่อกินลิ้นวัวย่าง ก่อนไปสัมผัสรสชาติอาหารแห่งเมืองเกียวโตด้วยเมนูอาหาร ไคเซกิ คือคอร์สอาหารญี่ปุ่นอันหรูหราที่ปรุงวัตถุดิบตามฤดูกาล และเสิร์ฟอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ก่อนจะปิดท้ายด้วย โอโคโนมิยากิ หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม พิซซ่าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอาหารที่ได้ความนิยมอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

เส้นทางไตรลักษณ์แห่งญี่ปุ่น: โตเกียว (Tokyo) > เซ็นได (Sendai) > มัตสึชิมะ (Matsushima) > เซ็นได (Sendai) > โตเกียว (Tokyo) > เกียวโต (Kyoto) > อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) > เกียวโต (Kyoto) > โอซากา (Osaka) > ฮิโรชิมะ (Hiroshima) > มิยาจิมะ (Miyajima) > ฮิโรชิมะ (Hiroshima) > โอซากา (Osaka) > โตเกียว (Tokyo)

ประตูโทริอิลอยน้ำที่ศาลเจ้าอิตสึกุชิมะที่จังหวัดฮิโรชิมา เป็นหนึ่งใน “ไตรลักษณ์แห่งญี่ปุ่น” ซึ่งได้การกล่าวขวัญโดยกวีชาวญี่ปุ่นยุคเอโดะอย่าง มัตซูโอะ บะโช ภาพถ่ายโดย YURIKO NAKAO, GETTY IMAGES

ย่างกรายย้อนไปในเส้นทางประวัติศาสตร์

หลังจากจักรพรรดินารูฮิโตะ จักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ในราชวงศ์กษัตริย์ที่ยืนยาวที่สุดในโลก การขึ้นครองราชย์ของพระองค์ถือว่าเป็นการแหวกม่านประเพณีหลายประการด้วยกัน (รวมไปถึงการขึ้นครองราชย์โดยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิองค์เก่า) ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสที่เราจะได้เดินทางท่องเที่ยวเพื่อสำรวจประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยของญี่ปุ่น

เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงสู่เมืองคานาซาวะ ที่มีอาคารเก่าสมัยเอโดะ (ยุคโชกุน) ที่รอดมาจากการทำลายล้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จากนั้นเยือนเขตน้ำชาตะวันออก (Eastern tea district) และวัดนินจาเก่า (Old Ninja Temple) จากนั้นนั่งรถไฟสู่เกียวโตเพื่อเดินผ่านเสาไม้โบราณโทริอิที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari) และไปดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์จากวัดคิโยมิซึ (Kiyomizu Temple) และสำรวจปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ก่อนที่จะเดินทางไปจังหวัดนางาซากิ เมืองแห่งเดียวที่เปิดรับชาวต่างชาติในช่วงการปิดประเทศกว่า 214 ปี ในสมัยโชกุน ในเมืองนางาซากิมีทั้งอาหารในแบบโบราณและเทศกาลซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาวต่างชาติที่มีอายุนับร้อยปี และยังเป็นบ้านของชาวคริสต์ในญี่ปุ่นซึ่งต้องหลบซ่อนตัวในอดีต ทั้งหมู่บ้านและโบสถ์ได้รับการเสนอให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโก

สถานีรถไฟเส้นทางประวัติศาสตร์: โตเกียว (Tokyo) >> คานาซาวะ (Kanazawa) >> เกียวโต (Kyoto) >> ชิน-โอซากา (Shin-Osaka) >> ฮากาตะ (Hakata) >> นางาซากิ (Nagasaki)

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านที่มีบ้านรูปทรง Gassho Style หรือบ้านหลังคาเป็นสามเหลี่ยมทรงสูง มรดกโลกอีกแห่งของยูเนสโก ในยามหน้าหนาวที่มีหิมะปลกคลุม ภาพถ่ายโดย VICHIE81, GETTY IMAGES

สัมผัสฤดูกาล

ฤดูหนาวและฤดูร้อนส่งมอบการผจญภัยในรูปแบบของตัวเอง แต่ฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวที่เหมาะที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง กิจกรรมยามว่างของชาวญี่ปุ่นอย่างการชมดอกไม้ หรือฮานามิ การชมใบไม้เปลี่ยนสีอย่าง โคโย ได้นำพาพื้นที่ชนบทให้มีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้สีชมพูที่เบ่งบานในช่วงเดือนเมษายน และใบไม้สีส้มสุกสว่างในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นเชอรี่ที่ตกแต่งอยู่ในสวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden) และตัวปราสาทที่อยู่ภายในนั้น เปิดให้เข้าชมทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน และในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ขึ้นรถบัสจาก โทยามะ ไปยัง คานาซาวะ เพื่อชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีบ้านรูปทรง Gassho Style หรือบ้านหลังคาเป็นสามเหลี่ยมทรงสูง อันเป็นมรดกโลกอีกแห่งของยูเนสโก ทีมีฉากหลังแห่งเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม

เส้นทางรถไฟช่วงฤดูใบไม้ผลิ: โตเกียว >> ทาคาโอะ (Takao) >> โอสึกิ (Otsuki) >> ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) >> โอสึกิ (Otsuki) >> ทาคาโอะ (Takao) >> โตเกียว (Tokyo)>> เกียวโต (Kyoto) >> ชิน-โอซากา (Shin-Osaka) >> โอคายามะ (Okayama) >> โอคุ (Oku) >> หมู่เกาะเซโตะอุจิ (Setouchi Islands) >> โอคุ (Oku) >> โอคายามะ (Okayama) >> ชิน-โอซากา (Shin-Osaka) >> คานาซาวะ (Kanazawa) >> โตเกียว (Tokyo)

ภาพใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่วัดในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ภาพถ่ายโดย DAMIEN DOUXCHAMPS, GETTY IMAGES

เส้นทางแสวงบุญราเมง

เรื่องราวของราเมงทุกชนิดนั้นเริ่มต้นที่โตเกียว ที่ร้าน คนจิกิ โฮโตโตกิสุ (Konjiki Hototogisu) ร้านราเมงระดับมิชลินสตาร์ จากนั้นขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปที่ร้าน อิชิเมง ราเมง (Ichimen Ramen) ในโอซากา หลังจากเดินเล่นตามทางเดินข้างคลองโดทงโบริ (Dotonbori) มาแล้ว และที่จังหวัดฟุกุโอกะ ร้าน ฮากาตะ อิซโซ (Hakata Issou) เสิร์ฟราเมงเส้นเล็กตรงในน้ำซุปครีมกระดูกอันเป็นเอกลักษณ์

ระหว่างทางกลับโตเกียว ลองเลือกที่นั่งริมหน้าต่างรถไฟเพื่อชมวิวของภูเขาไฟฟูจิ และลองราเมงน้ำซุปส้มยูซุ และตัวเลือกแบบมังสวิรัติที่ร้าน อาฟูริ ราเมง (Afuri Ramen) ในกรุงโตเกียว ก่อนนั่งรถไฟมุ่งตรงสู่เมืองซัปโปโรเพื่อชิมราเมงซุปมิโซะอุ่นๆ อย่าลืมลองซดน้ำซุปเสียงดังๆ เพราะถือเป็นมารยาทที่สุภาพ

เส้นทางรถไฟสายราเมง: โตเกียว Tokyo >> โอซากา Osaka >> ฮากาตะ/ฟุกุโอกะ Hakata/Fukuoka >> โตเกียว Tokyo >> ชิน-อาโอโมริ (Shin-Aomori) >> ชิน-ฮาโกะดาเตะ (Shin-Hakodate) >> ซัปโปโร (Sapporo)>> ชิน-ฮาโกะดาเตะ (Shin-Hakodate) >> ชิน-อาโอโมริ (Shin-Aomori) >> โตเกียว (Tokyo)

บรรยากาศบ่อน้ำพุร้อน ทามัตซุคุริ-ออนเซ็น จังหวัดชิมาเนะ ขอบคุณภาพถ่ายจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Tamatsukuri_Onsen

ชุ่มฉ่ำไปกับบ่อน้ำพุร้อน

เส้นทางรถไฟนี้สายนี้อาจดูช้าไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับรถไฟความเร็วสูง แต่มันจะวิ่งผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างน่าตะลึงในระหว่างทางสู่บรรดาบ่อ ออนเซน หรือบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ในฮาโกเนะ ลองเข้าพักที่เรียวกัง (โรงแรมแบบญี่ปุ่น) ที่มีออนเซนในตัว ก่อนจะเดินทางไปที่ โดโก-ออนเซ็น (Dogo-Onsen) หนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุด และ ทามัตซุคุริ-ออนเซ็น (Tamatsukuri-Onsen) ที่ที่เทพเจ้าในศานาชินโตเคยกล่าวไว้ว่า ได้มาแช่น้ำพุร้อนที่นี่ จากนั้นจับรถไฟผ่านโตเกียวขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปยังเมืองไอซุวากามัตสึ สถานที่ที่คุณจะรื่นรมย์ไปกับบ่อน้ำร้อนที่อยู่ด้านข้างน้ำตกที่โรงแรม โชซุเกะ โนะ ยาโดะ ทาคิโนะยู (Shosuke no Yado  Takinoyu)

เส้นทางรถไฟออนเซ็น: โตเกียว >> โอดะวาระ (Odawara) >> (ฮาโกะดาเตะ) Hakone >> โอดะวาระ (Odawara) >> โตเกียว (Tokyo) >> โอกายามะ (Okayama) >>  มัตสึยามะ (Matsuyama) >> โดโก ออนเซ็น (Dogo Onsen) >> มัตสึยามะ (Matsuyama) >> โอกายามะ (Okayama) > > ทามัตซุคุริ ออนเซ็น (Tamatsukuri Onsen) >> โอกายามะ (Okayama) >> โตเกียว (Tokyo) >> โคริยามะ (Koriyama) >> ไอซุวาคามัตสึ (Aizuwakamatsu) >> โคริยามะ(Koriyama) >> โตเกียว (Tokyo)

เรื่องโดย ARI BESER


อ่านเพิ่มเติม ค้นพบไฮไลท์และเสน่ห์ที่ซ่อนเร้น 10 อย่างในเกียวโต 

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.