ชาวโลกต่างคุ้นเคยกับภาพการประท้วงอันวุ่นวายและดุเดือดที่เกิดขึ้นในฮ่องกงซึ่งมีสาเหตุจากการเรียกร้องเรื่องกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ปฏิรูปกระบวนการเลือกตั้ง และลดการแทรกแซงจากรัฐบาลกรุงปักกิ่ง โดยการประท้วงที่ล่วงมาอย่างยาวนานนี้ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เหตุการณ์เช่นนี้ย่อมส่งผลต่อความมั่นใจทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของฮ่องกงเอง
“ความปลอดภัยของผู้มาเยือนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา” Brea Burkholz ตัวแทนกรรมการบริหารด้านการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวฮ่องกง กล่าวและเสริมว่า “ฮ่องกงเป็นเมืองที่ปลอดภัยและพร้อมต้อนรับทุกคน และจะไม่มีการก่อความรุนแรงหรืออาชญากรรมกับนักท่องเที่ยว”
เว็บไซต์ http://www.discoverhongkong.com/ ได้ให้ข้อมูลสถานการณ์ล่าสุด และมีห้องแชทสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวฯ ตั้งแต่เวลา 09:00-18:00 น. (ตามเวลาฮ่องกง) “เราทำงานร่วมมือกันอย่างหนักกับสายการบิน โรงแรม และบริษัททัวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างเดินทาง” Burkholz กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวมายังฮ่องกงลดลงถึงร้อยละ 40 ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงการระบาดของโรคซาร์สในปี 2003 เป็นต้นมา
แล้วจะเป็นเช่นไร ถ้าได้ท่องเที่ยวในช่วงนี้
ผมมีโอกาสหาคำตอบนี้ระหว่างการพักเปลี่ยนเครื่องบินเป็นเวลา 14 ชั่วโมง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในขณะที่เว็บไซต์ของหน่วยงานสหรัฐอเมริกาเตือนให้เดินทางด้วยความระมัดระวัง ผมเดินไปที่ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวในอาคารผู้โดยสารขาเข้า
“มีสถานที่ไหนที่ควรหลีกเลี่ยงไหมครับ” ผมถามเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการข้อมูลฯ
“การประท้วงมักมีในช่วงสุดสัปดาห์” เจ้าหน้าที่บอกผม “แต่ขอฉันตรวจสอบตารางให้แน่ใจก่อน เรามีแหล่งข้อมูลที่บอกกับเราว่าแต่ละวันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง”
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้วเลื่อนดูข้อความ “อืม… มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงงั้นหรือ” แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “อย่าไปที่นั่นนะคะ แต่ถ้าคุณอยากไปรถรางพีคแทรม ไปตอนนี้เลยค่ะ เพราะตอนหกโมงเย็นของวันนี้จะมีการประท้วงที่ชาร์เตอร์การ์เดนค่ะ”
“แต่” เธอกล่าวเตือน “มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้ายนะคะ”
******************
มองเผินๆ ทุกสิ่งรอบตัวก็เหมือนกับที่ผมมาฮ่องกงครั้งสุดท้ายเมื่อหกเดือนก่อน การลงเรือข้ามฟากสตาร์เฟอร์รียังชวนให้คลื่นเหียนอาเจียน รถราในฮ่องกงยังคงชวนให้ผมอกสั่นขวัญแขวน แต่เนื่องจากมีการประท้วงติดต่อกันมา 5 เดือนแล้ว ผมจึงได้ที่นั่งในรถรางที่เคยหนาแน่นอย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่ารถรางจะเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นด้วย เนื่องจากการจราจรในย่านเซ็นทรัลนั้นเบาบางลงกว่าเมื่อก่อน
จุดหมายแรกของผมคือ วัดหม่านโหมว (Man Mo Temple) วัดลัทธิเต๋าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งสงคราม ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงปรับปรุงสถานที่ แต่ผมสังเกตได้ว่านักท่องเที่ยวที่เคยมีมากมายกลับหายไป
จากนั้นผมเดินเตร็ดเตร่ที่ ถนนฮอลลีวูด เพื่อมุ่งตรงไปที่ ร้าน Lan Fong Yuen คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชานม โต๊ะในร้านมีลูกค้านั่งอยู่อย่างแน่นขนัด โต๊ะถัดจากผมเป็นคนฟิลิปปินส์อายุอยู่ในช่วง 20 ปี ผมถามพวกเขาว่า ลังเลไหมที่จะมาฮ่องกงในตอนนี้
“ไม่เลย” ชายหนุ่มกล่าวและเสริมว่า “ไม่ว่าจะที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น”
ผมเดินใน สวนสัตว์และสวนพฤกษชาติแห่งฮ่องกง อย่างโดดเดี่ยวกับบรรดาเมียร์แคตและลีเมอร์ของที่นั่น ถ้าไม่นับพนักงานดูแลสวนสัตว์ราวสิบสองคนที่คอยดูแลรักษาน้ำพุและกรงนกจำนวนมาก และในยามนี้ก็จะดูอ้างว้างจากผู้คนหรือนักท่องเที่ยวเช่นกัน
คิวที่เคยยาวของ รถรางพีคแทรม รถรางขึ้นเขาอายุ 131 ปี ที่เคยต้องรอนานกว่าสองชั่วโมง ยามนี้เหลือเพียงผู้มาเยือนราว 12 คน และผมไม่พบคิวที่ต่อแถวเลย รถรางที่แล่นขึ้นเขามีผู้โดยสารเพียงครึ่งเดียว แต่ทิวทัศน์บนยอดเขายังคุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญกับการต่อคิวอันยาวเหยียดก่อนได้มาสัมผัสอยู่ดี
ใน ท่าเรือย่านเกาลูน มีผู้โดยสารมากมายที่มาจากสนามบินเพื่อเตรียมตัวขึ้นเรือสำราญ Viking Orion มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง ผู้โดยสารชาวอเมริกันท่าทางดูงุนงงกับขบวนประท้วงที่เพิ่งเกิดขึ้นซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ช่วงตึก
“เรามาที่นี่ครั้งแรกเมื่อ 32 ปีที่แล้ว” ผู้โดยสารคนหนึ่งกล่าว “นี่เป็นเมืองที่ยอดเยี่ยม เรื่องราวในฮ่องกงที่ผมอ่านมาเมื่อราว 2-3 สัปดาห์ก่อนบอกว่าที่นี่ยังคงปลอดภัย”
“การประท้วงมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์” ภรรยาของเขากล่าว “เราเลยไม่กังวลถ้าจะมาในช่วงวันธรรมดา”
ระหว่างที่ผมกลับไปยังสนามบินเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบินในช่วงเย็น ผมไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน MTR ใกล้กับโรงแรมเพนนินซูล่า ตามกำแพงเต็มไปด้วยข้อความสนับสุนนการประท้วง
ในยามเย็นระหว่างสัปดาห์ การประท้วงในฮ่องกงยังมีอยู่อย่างเงียบเชียบ เช่นเดียวกับชีวิตของชาวฮ่องกง