ถ้าถามว่ากลัวไหม ก็ต้องตอบว่า “ไม่” แต่ในใจลึก ๆ เราคิดว่า ถ้าคนจะตาย อยู่ที่ไหนก็ตายได้ ไม่ต้องไปถึงยะลาหรอก คนที่นั่นเขายังใช้ชีวิตประจำวันกันได้ แล้วทำไมเราจะไปเที่ยวสักครั้งไม่ได้ละ แล้วในที่สุดเราก็ตัดสินใจล่องใต้ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ เขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา จนได้
ครั้งแรกที่ออกเดินทางผมเจอด่านตรวจระหว่างทางเยอะมาก บอกตามตรงว่าตื่นเต้น เพราะเราไม่เคยเจอแบบนี้ แต่ก็เหมือนได้รับรางวัลปลอบใจนั่นคือวิวสวย ๆ ตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนของผู้คน สลับกับวิวทะเลขณะที่รถกำลังเคลื่อนผ่านบนเส้นทางระหว่างจังหวัดปัตตานีกับยะลา ถนนเส้นนี้มีโค้งเยอะมาก เสียจนเรานึกว่ากำลังขับรถขึ้นเหนือ เรียกว่าใครขี้เมารถละก็ แนะนำให้กินยาแก้เมารถรอไว้ได้เลย แต่ถ้าหลับคุณอาจจะพลาดชมวิวสวย ๆ ได้นะ
สำหรับความปลอดภัยของที่นี่ ขอเล่าว่าช่างแตกต่างจากข่าวในทีวีและหนังสือพิมพ์อย่างสิ้นเชิง เพราะเราได้พบเจอแต่ผู้คนที่มีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างเรา นี่คือสิ่งที่ผมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเยือนยะลา และขอสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาที่นี้อีกครั้งแน่นอน
และนี่คือการกลับมายังจังหวัดยะลา จังหวัดสุดท้ายปลายด้ามขวานของประเทศไทย อีกครั้งสำหรับผม…
ทริปนี้ผมออกเดินทางมากับเพื่อน ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นผมและเพื่อนได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เบตงมาแล้ว แต่รอบนี้พวกเราขอแวะมาเที่ยวที่บันนังสตาเพิ่มเติมดูบ้าง เพราะทราบมาว่าที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่อยู่ที่ “เขื่อนบางลาง”
การเดินทางมายังเขื่อนบางลาง เราสามารถมาได้ง่าย ๆ และสะดวกสบาย ไม่ว่าจะขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือใช้บริการรถสาธารณะ โดยช่วงเวลาที่พวกเราเดินทางไปนั้น ถนนที่มุ่งหน้าไปยังเขื่อนบางลางกำลังอยู่ในช่วงของการปรับปรุง เพื่อรองรับสนามบินเบตงที่จะเปิดบริการเร็ว ๆ นี้ จากภาพรวมผมถือว่าไม่ยุ่งยาก หรือลำบากจนเกินไปสำหรับทุกคนนะครับ
เมื่อมาถึงที่บริเวณเขื่อนบางลาง เราก็จะเจอจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามมาตรฐานปกติ โดยระหว่างทางจากหาดใหญ่ เราได้เจอด่านตรวจแบบนี้มาแล้วตลอดทาง ครั้งนี้จึงไม่ตื่นเต้นสักเท่าไหร่ พอผ่านด่านตรวจมาแล้ว เราได้นัดหมายเจอะเจอกับบังต๊ะ ไกด์ท้องถิ่นผู้จะพาเราออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางเขื่อนบางลาง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “เกาะป็อปคอร์น” โดยก่อนเดินทางมาถึงเขาเพียรสอบถามอย่างเป็นห่วงและมีน้ำใจว่า เราเดินทางมาถึงไหนกันแล้ว กลัวว่าจะมาไม่ถูกตลอดทาง
บังต๊ะ คือ ชาวบ้านคนท้องถิ่นที่ชื่นชอบการสำรวจหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ โดยการมาเจอกับเกาะป็อปคอร์นนี้ เขาเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนเกาะนี้เป็นเกาะร้างที่ไม่มีผู้คนสนใจ แต่เขากลับสังเกตว่า เกาะแห่งนี้มีความสวยงามและศักยภาพที่สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ สำหรับเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับชุมชน เขาจึงค่อย ๆ ลงมือเก็บขยะและทำความสะอาดรอบ ๆ เกาะ จนสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เกาะดูสะอาดสวยงาม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน รองรับนักท่องเที่ยวจากที่ต่าง ๆ ได้อย่างน่าภูมิใจ
บังต๊ะเล่าช่วงแรก ๆ ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ แต่ปัจจุบันที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างถิ่น เดินทางมาเที่ยวกันเยอะขึ้น จากกระแสการรีวิวในโลกโซเชียล ทำให้เกาะป็อปคอร์นเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเวียนมาพักผ่อน
เกาะป็อปคอร์น หรือปูลายาฆง (ภาษายาวี) เป็นชื่อเดิมที่ชาวบ้านคนในท้องถิ่นใช้เรียกกัน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบางลาง นอกจากมาท่องเที่ยวแบบไปกลับ ที่นี่ยังอนุญาตให้สามารถมากางเต็นท์พักผ่อนได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-พฤษจิกายน ของทุก ๆ ปี แต่มีข้อห้าม เช่นเดียวกับการไปพักผ่อนในเขตอุทยานฯ เนื่องจากพื้นที่บนเกาะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบางลางนั่นเอง
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก บังต๊ะได้เตรียมไว้ให้บริการอย่างครบครัน มีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ เครื่องครัว เครื่องนอน เต็นท์ ฯลฯ เมื่อใช้แล้วอย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาดกันด้วยนะ เพื่อจะได้มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ แบบนี้ อยู่กับเราไปนาน ๆ
สำหรับอาหาร เราต้องเตรียมกันมาเอง หรือบางคนอาจจะแวะซื้อที่ตลาดสดเมืองใหม่ที่ยะลาก็ได้ แต่ขอบอกว่าอาหารทะเลที่นี่สดมาก สามารถซื้อมาปิ้งย่างเองได้ ส่วนเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบรับประทานเนื้อวัว ผมขอแนะนำเลยครับ เพราะที่นี่เนื้อวัวเขาเด็ดจริง ๆ
และด้วยความที่เราใช้เครื่องครัวร่วมกับสมาชิกท่านอื่น ๆ เพื่อน ๆ บางคนอาจนับถือศาสนาอิสลาม จึงขอแนะนำให้นำเนื้อหมูมาเองจะดีกว่า หรืออาจงดมื้ออาหารที่มีส่วนประกอบเป็นเนื้อหมูไปสักครั้ง ก็คิดว่าคงไม่เป็นไรนะ
สำหรับใครที่แอบกังวลว่าที่นี่จะมีสัญญาณโทรศัพท์หรือไม่ ก็ไม่ต้องกลัวนะครับ เพราะบนเกาะมีสัญญาณโทรศัพท์ให้คุณอัปเดตชีวิตกันได้สบาย ๆ แต่เมื่อมาเที่ยวในสถานที่ลักษณะนี้ ผมอยากแนะนำว่าไม่ต้องเล่นโทรศัพท์จะดีกว่า เพื่อเสพบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และใช้เวลาพูดคุยผูกมิตรกับเพื่อนใหม่
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผมอยากชวนให้ลองมาเที่ยวที่นี่ดูสักครั้ง จะมาเป็นกลุ่ม หรือคนเดียวก็ได้ รับรองว่าจบทริปไปแล้ว คุณจะได้มิตรภาพจากเพื่อนใหม่กลับไปแน่นอน
สามารถติดต่อบังต๊ะ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 09-3785-3944
FB: ดุลพาต๊ะ ดือราแม (https://www.facebook.com/profile.php?id=100033046464320)
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เที่ยวค้างคืนบน เกาะร้าง กลางเขื่อนศรีนครินทร์