ล่าแสงเหนือ ในแคนาดา ที่นี่…ไม่มีถนนไปถึง
Photo Story: ล่าแสงเหนือ ในเมืองเชอร์ชิลล์ ประเทศแคนาดา
ล่าแสงเหนือ – ในพื้นที่ทางตอนเหนือของแคนาดาอันหนาวเหน็บ เป็นที่ตั้งของเมืองเชอร์ชิลล์มีประชากรเพียง 900 คน แต่กลับดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และนักผจญภัยจากทั่วโลก
เมืองเล็ก ๆ ริมอ่าวฮัดสันในเขตห่างไกลของรัฐแมนิโทบาแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางสำคัญของประเทศด้านการอนุรักษ์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแบบใหม่ สิ่งแรกที่ผู้มาเยือนเชอร์ชิลล์มักจะรับรู้ได้คือความห่างไกล เมืองนี้ไม่มีถนนเชื่อมต่อกับส่วนอื่นของโลก — การเดินทางโดยเครื่องบินสองชั่วโมง หรือทางรถไฟเป็นเวลาสองวันจากวินนิเพกเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะเข้าไปได้
ในวัฒนธรรมอินูอิต มีการเรียกแสงเหนือเรียกว่า aksarnirq และเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของผู้ที่เพิ่งจากไป ซึ่งบางครั้งกล่าวกันว่าพวกเขานั้นเล่นฟุตบอลกับกะโหลกวอลรัสบนท้องฟ้า หรือเป็นแสงจาก “คบเพลิง” ที่พวกเขาถือไว้เพื่อนำทางผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
เนื่องจากเชอร์ชิลล์ตั้งอยู่ใต้เขตออโรร่าของซีกโลกเหนือโดยตรง (โซนที่ล้อมรอบโดยขั้วแม่เหล็กโลก) จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือ แม้ว่าปรากฎการณ์อันตระการตานี้จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงปลายฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็สามารถมองเห็นแสงเหนือในเมืองเชอร์ชิลล์ได้สูงสุด 300 คืนต่อปี
ในพื้นที่ทางตอนเหนือของแคนาดาอันหนาวเหน็บ เป็นที่ตั้งของเมืองเชอร์ชิลล์มีประชากรเพียง 900 คน แต่กลับดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และนักผจญภัยจากทั่วโลกสิ่งแรกที่ผู้มาเยือนเชอร์ชิลล์มักจะรับรู้ได้คือความห่างไกล เมืองนี้ไม่มีถนนเชื่อมต่อกับส่วนอื่นของโลก — การเดินทางโดยเครื่องบินสองชั่วโมง หรือทางรถไฟเป็นเวลาสองวันจากวินนิเพก (Winnipeg) เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะเข้าไปได้แต่ที่ตั้งที่โดดเดี่ยวไม่ได้หมายความว่าเมืองนี้จะไม่มีกิจกรรมอะไรทำ เชอร์ชิลล์เป็นที่ตั้งของบริษัททัวร์หลายแห่ง ซึ่งจัดทริปเพื่อชมสัตว์ป่า เช่น สุนัขจิ้งจอก กวางคาริบู หมาป่า และหมีขั้วโลกบริษัท Frontiers North Adventures ซึ่งได้รับการรับรองจาก B Corp เป็นหนึ่งในนั้น บริษัทนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศหลายรูปแบบ Bob Demets เป็นคนขับรถบั๊กกี้ตุนดราไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของโลก โดยเขานำทัวร์ไปชมหมีขั้วโลกในขณะเดียวกัน เชฟ Connor Macaulay รับผิดชอบการปรุงอาหารเพื่อรับประทานใต้แสงเหนือบนทุ่งทุนดราที่ร้านอาหารเคลื่อนที่ Dan’s Dinerเนื่องจากเชอร์ชิลล์ตั้งอยู่ใต้เขตออโรร่าของซีกโลกเหนือโดยตรง (โซนที่ล้อมรอบโดยขั้วแม่เหล็กโลก) จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือ แม้ว่าปรากฎการณ์อันตระการตานี้จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงปลายฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็สามารถมองเห็นแสงเหนือในเมืองเชอร์ชิลล์ได้สูงสุด 300 คืนต่อปีด้วยอุณหภูมิในฤดูหนาวที่ลดลงถึง -30C หรือต่ำกว่านั้น จึงสามารถชมแสงเหนือได้อย่างดีที่สุดจากความสะดวกสบายของรถบั๊กกี้ตุนดรา ซึ่งติดตั้งจุดชมวิวกลางแจ้งและเลานจ์ในร่มในวัฒนธรรมอินูอิต เรียกแสงเหนือเรียกว่า aksarnirq และเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของผู้ที่เพิ่งจากไป ซึ่งบางครั้งกล่าวกันว่าพวกเขานั้นเล่นฟุตบอลกับกะโหลกวอลรัสบนท้องฟ้า หรือเป็นแสงจาก “คบเพลิง” ที่พวกเขาถือไว้เพื่อนำทางผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เชอร์ชิลล์มี 3 ชีวนิเวศ (biomes) – ทะเลอาร์กติก ทุนดราแบบอาร์กติก และ ป่าเขตหนาว (boreal forest) – เมืองนี้ได้ต้อนรับวาฬเบลูกาจำนวนมากในทุกฤดูร้อน รวมทั้งบรรดาหมีขั้วโลกทุกฤดูใบไม้ร่วงเมืองนี้เป็นจุดดึงดูดนักวิจัยอย่าง Louise Archer ผู้ศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่ออาร์กติกกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง Polar Bears International และผู้ที่ชื่นชอบสัตว์ป่า เช่น Jim Baldwin ไกด์นำทางของ Frontiers North ซึ่งนำการเดินทางด้วยรองเท้าหิมะไปยังทุ่งทุนดราหนึ่งในบริษัททัวร์ที่ดำเนินการโดยสมาชิกชุมชนท้องถิ่นคือ Wapusk Adventures บริษัทนี้เป็นของทีมพ่อ-ลูก ที่เป็นนักขี่สุนัขลากเลื่อน นำเสนอทัวร์ทางวัฒนธรรม การนั่งสุนัขลากเลื่อน และโอกาสในการชมแสงเหนือจาก ‘กระโจมออโรร่า’ (aurora tipi)มีหมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในเชอร์ชิลล์ เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า ‘เมืองหลวงของหมีขั้วโลก’ ต้องขอบคุณ Sea Walls โครงการศิลปะสาธารณะที่มุ่งดึงความสนใจไปยังปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงมีภาพของหมีประดับประดาตามอาคารต่างๆ ของเมือง รวมถึงกำแพงของร้านค้าเล็กๆชาวเมืองเลี่ยงการออกนอกบ้านในเวลามืดค่ำและปล่อยรถของพวกเขาไว้โดยไม่ล็อครถเพื่อให้เป็นที่พักพิงแก่ผู้ที่พบเจอกับหมี ทว่า กลับเป็นหมีต่างหากที่กำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งที่นี่และทั่วอาร์กติก เนื่องจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย พวกมันกำลังสูญเสียถิ่นที่อยู่และล่าจับแมวน้ำได้น้อยลง ทำให้แหล่งไขมันที่จำเป็นต่อชีวิตของพวกมันหมดลง ส่งผลให้ลูกหมีเกิดน้อยลงและประชากรลดลง ประชากรหมีในอ่าวฮัดสันลดลงถึงหนึ่งในสามในช่วงห้าปีที่ผ่านมาเรื่องและภาพ YULIA DENISYUK
วาฬหลังค่อมกระโจนขึ้นเหนือผิวน้ำ เพื่อกินปลา
© COPYRIGHT 2025 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.