ณ หมู่เกาะคะแนรี พวกเราอาจอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นเลยทีเดียว
พื้นผิวขรุขระดูน่าอันตรายทอดตัวออกไปไกลสุดสายตา มีเนินที่เป็นเถ้าสีดำล้อมรอบอยู่ นี่คือธารลาวาใหม่บนเกาะลาปัลมาในกลุ่มเกาะภูเขาไฟคะแนรี นอกชายฝั่งประเทศโมร็อกโก พวกมันก่อตัวขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 เมื่อหินหลอมเหลวเกือบสองร้อยล้านลูกบาศก์เมตรปะทุจากภูเขาไฟตาโฆไกเตบนเกาะเป็นเวลานานสามเดือน
การเดินทางเข้าไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทุ่งลาวายังคงสงวนไว้เฉพาะนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม ฉันติดตาม ออกตาบิโอ เฟร์นันเดซ โลเรนโซ รองประธานสมาพันธ์ถ้ำวิทยาหมู่เกาะคะแนรี (Canary Islands Speleology Federation) เฟร์นันเดซพร้อมด้วยนักวิจัยจากสถาบันธรณีวิทยาและเหมืองแร่แห่งสเปน หรือไอจีเอ็มอี (Geological and Mining Institute of Spain: IGME) รับผิดชอบการสำรวจและตรวจสอบอุโมงค์ที่ลาวาจากการปะทุทิ้งไว้ซึ่งในบทความทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เรียกว่า อุโมงค์ไฟหรือถ้ำลาวา (pyroduct / lava tube) แต่บนเกาะลาปัลมา พวกมันมีชื่อเรียกที่ไพเราะดั่งบทกวีมากกว่าว่า กัญโญสเดฟูเอโก หรือถ้ำพระเพลิง
เฟร์นันเดซยื่นหมวกนิรภัยให้ฉัน ตรวจดูปริมาณน้ำดื่ม แล้วมุ่งหน้าไปยังรั้วสีขาวที่มีป้ายเตือนเราว่าห้ามเข้า ถนนที่พาเรามายังสถานที่นี้ถูกตัดขาดอย่างฉับพลันและหายไปภายใต้ชั้นลาวา
เราพบอุโมงค์เพลิงได้เกือบทุกหนทุกแห่งบนโลกที่มีหรือเคยมีกิจกรรมภูเขาไฟ โพรงถ้ำเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา ทางธรณีวิทยาที่สั้นมาก ผิดกับถ้ำทั่วไปซึ่งใช้เวลาก่อตัวหลายล้านปี แต่ใช่ว่าภูเขาไฟทุกแห่งจะให้กำเนิดถ้ำหรืออุโมงค์ลาวา การปะทุต้องยาวนานพอเพื่อพ่นลาวาออกมาในปริมาณมากพอ ลาวานั้นต้องร้อนมากพอและประกอบด้วยสสารที่เหมาะสมเพื่อให้ยังคงหลอมเหลวอยู่ได้ และยังต้องเคลื่อนที่ลงลาดเขาด้วยความเร็วที่เหมาะสมด้วย
เฟร์นันเดซซึ่งยืนถือแท่งไม้ยาวสีขาวที่ช่วยให้เขาเคลื่อนที่อย่างคล่องแคล่วเหนือลาวาที่แข็งตัวแล้ว เขาจับตามองเราทุกย่างก้าวราวกับเป็นผู้พิทักษ์พื้นที่เกิดใหม่แห่งนี้ “เหยียบตรงที่ผมเหยียบนะครับ” เขาเตือน “สิ่งแวดล้อมทั้งหมดนี้เปราะบางมากๆ” มันดูออกจะย้อนแย้งที่ภูมิประเทศอันอลังการนี้ครั้งหนึ่งสามารถกลืนกินบ้านเรือนและไร่กล้วยได้ มาตอนนี้ กลับเปราะบาง
เราเดินกันไปช้าๆ เฟร์นันเดซหยิบหินตะกอนภูเขาไฟสีขาวโพลนก้อนเล็กๆ ขึ้นมาแล้วยื่นให้ฉัน นักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า หินเรสทิงโกไลต์ (restingolite) ตามการปะทุของภูเขาไฟในภูมิภาคลาเรสติงกาบนเกาะเอลเอียร์โรที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อปี 2011 เมื่อมีการพบหินสีค่อนข้างขาวหลายร้อยก้อนลอยอยู่ในมหาสมุทร ก่อให้เกิดการถกเถียงทางวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่สิ้นสุด ผิดกับการปะทุครั้งนั้น สมมุติฐานหนึ่งสำหรับต้นกำเนิดของมันคือ พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานที่ลาปัลมาก่อตัวขึ้น อันได้แก่ตะกอนมหาสมุทรโบราณจากก้นทะเลอายุสองล้านปี ดาบิด ซันซ์ มังกัส วิศวกรธรณีผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา สภาพภูมิอากาศสุดขั้วและผลพวงที่ไอจีเอ็มอีกล่าวว่า “มันเหมือนการมองออกนอกหน้าต่างเข้าไปในอดีตของเราครับ”
ไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังสำรวจภูเขาไฟปะทุบนเกาะลาปัลมา นักวิทยาศาสตร์ก็ตรวจพบถ้ำลาวา พวกมันมองเห็น ด้วยตาเปล่าได้ไม่ชัดเจนนัก ภาพจากโดรนในช่วงการปะทุช่วยคาดการณ์เส้นทางที่ธารลาวาน่าจะไหลไป ถ้ำหนึ่งค้นพบ เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022 หลังการปะทุสิ้นสุดลงได้หกเดือน ระหว่างที่คนงานเริ่มตัดถนนใหม่บนลาวาที่แข็งตัวแล้ว เมื่อพวกเขาพบโพรงเหมือนถ้ำและต้องหยุดงานชั่วคราว และนั่นเป็นตอนที่ซันซ์ซึ่งย้ายจากมาดริดมาประจำการที่หมู่เกาะ คะแนรีเพื่อศึกษาผลพวงจากการปะทุ เข้าร่วมทีมและเริ่มสำรวจอุโมงค์เพลิงเกิดใหม่บนเกาะลาปัลมานี้
“จากข้อมูลภาคสนามที่ได้จากกลุ่มเกาะฮาวาย ซึ่งเป็นบริเวณที่พบกลุ่มถ้ำภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เราคาดการณ์ว่าการสำรวจอุโมงค์จะเริ่มขึ้นได้หลังการปะทุประมาณสองปีครับ” เขาบอก แต่ที่นี่ “เราพบว่ามันเข้าถึงได้ แต่ลำบากสักหน่อย”
ถ้ำที่เรียกว่าถ้ำแดง คือผลิตผลของธารลาวาที่ไหลเข้าไปในเมืองเล็กๆ ชื่อโตโดเกเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบัน ทางเข้า สองทางซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 60 เมตรทำให้อากาศหมุนเวียน “แทนที่จะมีอากาศร้อนพัดออกมา ปากถ้ำดูดอากาศบริสุทธิ์ จากด้านนอกเข้าไปครับ” เฟร์นันเดซกล่าวและเสริมว่า “นี่คือห้องปฏิบัติการที่ดีที่สุดที่เรามีในขณะนี้เพื่อเรียนรู้ว่า ธารลาวา เย็นตัวลงอย่างไร” เราเปิดไฟฉายคาดศีรษะ คลานเข้าไปข้างใน แล้วได้พบกับผนังสีค่อนข้างแดงอย่างน่าประหลาด บนเพดานถ้ำเราเห็นหินลาวาสีน้ำตาลเข้มย้อยลงมาเหมือนหยดน้ำ
ภายในถ้ำ อากาศเย็นกว่าผนัง เครื่องวัดอุณหภูมิวัดค่าได้ตั้งแต่ 50-100 องศาเซลเซียส เราใช้มือที่สวมถุงมือยันผนังไว้ขณะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าทีละก้าว ความชื้นและอุณหภูมิทำให้ถ้ำมีความรู้สึกสบายตัวเหมือนอยู่ในโรงอาบน้ำแบบตุรกี
เฟร์นันเดซอ่านค่าอุณหภูมิจากโดรนตรวจจับความร้อน ลึกเข้าไปจากปากถ้ำประมาณ 90 เมตร เขาบอกให้เราหยุด ความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ข้างหน้าไม่ไกลนัก ถ้ำแคบลงและมีอุณหภูมิสูงกว่า 250 องศาเซลเซียส ภาพในวิดีโอเห็นอากาศสั่นไหวเหมือนภาพลวงตา
อ่านเพิ่มเติม
มัมมี่พันปี ความลี้ลับแห่ง หมู่เกาะคะแนรี
เมื่อภูเขาไฟระเบิด ไม่ใช่แค่ลาวาที่ฆ่าคุณได้
ปากถ้ำนี้เป็นเพียงหนึ่งในจำนวนกว่าร้อยแห่งที่ระบุพิกัดได้จนถึงขณะนี้ สวนใหญ่จากการใช้โดรนบินขึ้นไปสำรวจ แม้บางแห่งยังคงถูกอำพรางไว้ไม่ให้เห็นจากทางอากาศ มีถ้ำเพียงน้อยนิดที่ได้รับการสำรวจ ปากถ้ำหรือช่องเปิดจะสำรวจได้ก็ต่อเมื่อมีอุณหภูมิเหมาะสม ในธารลาวาหนาถึง 20 เมตร การเย็นตัวลงอาจใช้เวลาสองปีครึ่ง ธารลาวาที่หนา 45 หรือ 60 เมตร กระบวนการนี้อาจกินเวลา 20 ปี
ถ้ำเหล่านี้ยังมีสิ่งให้เรียนรู้อีกมาก และอาจไม่ได้เกี่ยวกับโลกของเราเท่านั้น อานา เซเลีย มิลเลอร์ นักจุลชีววิทยาธรณี จากสถาบันทรัพยากรธรรมชาติและชีวเกษตรกรรมในเซบิยา มุ่งความสนใจไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ดวงตามนุษย์มองไม่เห็น การค้นพบครั้งแรกๆ ของเธอเกิดขึ้นในถ้ำพระเพลิงบนเกาะลาปัลมา จากการศึกษาตะกอนถ้ำคล้ายวุ้นหน้าตาประหลาดพิกล หรือตะกอนถ้ำที่เกิดจากแร่ธาตุ
งานวิจัยสิ่งมีชีวิตสุดขั้วของมิลเลอร์ โดยเฉพาะแบคทีเรียที่สามารถดึงพลังงานจากสารอนินทรีย์เพื่อเจริญเติบโต ส่งผลให้องค์การอวกาศยุโรปรับเธอเข้าทำงานในโครงการแพนเจีย-เอกซ์ (Pangaea-X Project) ภารกิจของโครงการ คือการฝึกมนุษย์อวกาศให้เก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างแบคทีเรียบนเกาะลานซาโรเตที่อยู่ใกล้เคียง ภายในถ้ำลาวาแห่งหนึ่ง ที่มีสภาพแวดล้อมเทียบเคียงได้กับถ้ำลาวาบนดวงจันทร์และดาวอังคาร
นับจากปี 2009 เมื่อยานสำรวจอวกาศของญี่ปุ่นค้นพบแอ่งมารีอุสฮิลส์ (Marius Hills) ซึ่งอาจเป็นทางเข้าไปยังถ้ำ ภูเขาไฟแห่งหนึ่งบนดวงจันทร์ บรรดานักวิทยาศาสตร์ก็พากันศึกษาความคล้ายคลึงระหว่างถ้ำภูเขาไฟบนโลกและดาวเคราะห์อื่นๆ กันแล้ว สำหรับมิลเลอร์ คำถามไม่ใช่ว่าเราจะพบชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงอื่นไหมอีกต่อไป แต่เป็นเมื่อใดต่างหาก
“ถ้ำบนดาวอังคารและดวงจันทร์แตกต่างจากถ้ำของเราอย่างมากในแง่สภาวะแวดล้อมและความโน้มถ่วง ซึ่งส่งผล ต่อขนาดและความเสถียร อย่างไรก็ตาม กระบวนการก่อตัวและสภาพแวดล้อมมีความคล้ายคลึงกับถ้ำบนโลกมากกว่า ที่คิดกันครับ” ฟรันเชสโก เซาโร นักวิทยาศาสตร์จากองค์การอวกาศยุโรป และนักสำรวจของเนชั่นแนล จีโอกราฟิก กล่าว ถ้ามีหรือเคยมีชีวิตในถ้ำลาวาต่างพิภพเหล่านี้ มันอาจเป็นจุลินทรีย์อย่างที่พบในถ้ำพระเพลิงบนเกาะลาปัลมาก็เป็นได้
“การปะทุของภูเขาไฟบนเกาะลาปัลมาเมื่อไม่นานมานี้เปิดโอกาสพิเศษให้เราได้เรียนรู้ไมโครไบโอตารุ่นบุกเบิก ในถ้ำลาวาเกิดใหม่เหล่านี้” มิลเลอร์กล่าว ถ้ำภูเขาไฟบนเกาะแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่แล้ว ทีมของมิลเลอร์จำแนกแบคทีเรีย ที่รู้จักแล้ว และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในไฟลัมซูโดโมนาโดตาและแบคทีรอยโดตา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วน่าจะได้รับการจำแนกว่าเป็นชนิดใหม่
เรื่อง เอมมา ลีรา
ภาพถ่าย อาร์ตูโร โรดริเกซ
แปล ปณต ไกรโรจนานันท์
ติดตามสารคดี ฟันฝ่าแดนไฟนรก ฉบับสมบูรณ์ได้ที่ นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนมิถุนายน 2567
สั่งซื้อนิตยสารได้ที่ https://www.naiin.com/product/detail/612088