ถ้ายังจำกันได้ ช่วงที่การเดินทางข้ามประเทศยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่พาพวกเราก้าวข้ามออกจากชีวิตแสนจำเจไปสู่โลกใบใหม่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของคนไทย และเทรนด์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็เติบโตไปพร้อมกับแนวโน้มที่ว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มมองหาสถานที่นอกแผนที่ท่องเที่ยว ที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ ทั้งจากสถานที่สวยงามแปลกตา ค้นหาแหล่งต้นกำเนิดวัตถุดิบเลอค่า หรือทำความเข้าใจการใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งมากขึ้นกว่าที่เคย
ระหว่างทางจากโตเกียวมุ่งหน้าขึ้นสู่ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นที่ตั้งของโทโฮคุ ภูมิภาคแห่งวิถีความเป็นอยู่ของผู้คนกับกิจวัตรที่ยังคงความสัมพันธ์กับทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อมในทุกมิติของชีวิต มนต์ขลังแห่งความสงบและงดงามนี่เองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เข้าไปเปิดแผนที่เที่ยวชม จนทำให้ปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปยังโทโฮคุเพิ่มขึ้นถึง 48% จากปีก่อนหน้า
ใบไม้เปลี่ยนสี อนเซ็นส่วนตัว ซัปบอร์ดกับฉากหลังตื่นตา ฟาร์มสเตย์ของเกษตรกร และอีกเรื่องราวอีกมากมายของโทโฮคุล้วนเกี่ยวพันกับธรรมชาติทั้งสิ้น และเราเชื่อว่าธรรมชาติ จะเป็นสื่อกลางที่สร้างความหมายบทใหม่ให้กับชีวิตผ่านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่เกื้อกูลกับทั้งคน สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจภูมิประเทศของภูมิภาคโทโฮคุกันก่อน โทโฮคุแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนเหนือ – อาโอโมริ (Aomori) อาคิตะ (Akita) อิวาเตะ (Iwate) และส่วนใต้ – ยามากาตะ (Yamagata) มิยากิ (Miyagi) ฟุกุชิมะ (Fukushima) กินพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเกาะฮนชู เกาะซึ่งเป็นพื้นที่หลักของญี่ปุ่น
จากชื่อที่แปลตรงตัวว่า ตะวันออกเฉียงเหนือ หน้าหนาวจึงหนาวเย็นกว่าในเมืองหลวง โดยมีเทือกเขาโออุเป็นเหมือนกระดูกสันหลัง ภูมิภาคจึงแบ่งออกเป็นสองฝั่ง และมีธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ละฤดูกาลจึงมีความงดงามน่าประทับใจจากธรรมชาติรังสรรค์ที่แตกต่างกัน
การชื่นชมความงามตามเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลเป็นหนึ่งในคติความหมายที่ชาวญี่ปุ่นยึดถือ ใบไม้ที่เปลี่ยนสี ยอดไม้ที่ผลิดอก หรือใบไม้ที่ร่วงหล่น คือสัจธรรมที่บ่งบอกถึงเวลาที่ผันผ่านไป และฤดูใหม่กำลังเริ่มต้น อย่างที่น้ำตกอะคิอุ (Akiu Otaki Falls) จังหวัดมิยากิ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความงดงามจนได้รับเลือกอยู่ใน TOP100 น้ำตกจุดชมวิวของญี่ปุ่น
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเข้าสู่ช่วงที่อุณหภูมิเริ่มลดลง ธารน้ำตกไหลเย็น และความสงบร่มเย็นของวัดอะคิอุ โอทะกิ ฟุโดซน (Akiu Otaki Fudoson) รายล้อมด้วยใบไม้สีส้มเหลืองสลับแดง และต้นแปะก๊วยสีเหลืองทอง กำลังบอกทุกคนว่าฤดูหนาวกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ พร้อมกับเชิญชวนให้ดื่มด่ำและบันทึกช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้ในความทรงจำ
สวนดอกโบตั๋นสุคะกาวะ (Sukagawa Peony Garden) เป็นอีกสวนดอกไม้เก่าแก่มีชื่อเสียงในจังหวัดฟุกุชิมะ ที่ผู้คนนิยมเที่ยวชมดอกโบตั๋นกว่า 290 สายพันธุ์บานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม และชมต้นโมมิจิผลัดใบย้อมสีทั้งป่าให้กลายเป็นสีแดงสลับส้มในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน จึงได้ชมความงามจากธรรมชาติได้ครบตลอดทั้งปี
และไฮไลต์สำคัญที่หลายคนรู้จักกันดี คือเส้นทางรถไฟสายเจอาร์ ทะดะมิ (JR Tadami Line) บนสะพานข้ามแม่น้ำทะดะมิหมายเลข 1 (Tadami River First Bridge) เชื่อมระหว่างหุบเขาสองข้างของเมืองไอซุวะกะมัทสึ (Aizuwakamatsu) จังหวัดฟุกุชิมะ กับเมืองอุโอะนุมะ (Uonuma) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) ที่ธรรมชาติรังสรรค์มอบความงามของแต่ละฤดูกาลที่งดงามหลายความรู้สึก ตรงนี้เองเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ควรจะได้มาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งหนึ่ง
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมหน้าถัดไป
เพราะเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเสียเป็นส่วนใหญ่ วัตถุดิบสดใหม่ของจานอาหารจึงเป็นอีกความสุขเลิศรสที่ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลอง เกษตรกรหลายครอบครัวผันตัวมาเปิดฟาร์มสเตย์เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และใกล้ชิดกับวิถีชีวิต แบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น
ฟาร์มเฮ้าส์ เซโฮเอ็น (Farmhouse Seihou-en) จังหวัดฟุกุชิมะ นอกจากจะเป็นฟาร์มผักที่ทำอาชีพเกษตรกรรมมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวบ้านเองก็มีอายุยาวนานร่วมร้อยปี และนี่เองที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่เจ้าของบ้านเปิดต้อนรับพื้นที่อันอบอุ่นแห่งวิถีชีวิตและพืชพรรณธัญญาหารเป็นฟาร์มสเตย์ในแบบโอโมเตะนาชิ ผ่านกิจกรรมอย่างการเก็บผักโขมสดจากไร่มาสู่หม้อชาบู หรือทำขนมดังโงะโฮมเมดตั้งแต่นวดแป้งถึงซอสราด
นอกจากอาหารแบบโฮมเมดแล้ว ใกล้กันที่จังหวัดมิยากิยังมีภัตตาคารเก่าแก่ ทะริทสึอัน (Taritsuan) ซึ่งเสิร์ฟอาหารวัตถุดิบปรุงสดใหม่จากเกษตรกรในท้องถิ่น กับเมนูขึ้นชื่ออย่าง “อะนาโงะ ฮิทสึมะบุชิ (Anago Hitsumabushi)” หรือข้าวหน้าปลาไหลทะเลย่าง พร้อมกับชื่นชม
วิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ขณะลิ้มลองอาหารเลิศรส หรือหากคุณเป็นสายเนื้อ ที่ร้านเบโคยะ (Bekoya) จังหวัดยามากาตะ ก็มีเนื้อวัวโยะเนะซะวะ กับลายหินอ่อนละเอียด ที่กลายมาเป็นสุกี้ยากี้พร้อมผักตามฤดูกาลเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัด
เต็มอิ่มกับอาหารแบบฟูลคอร์สที่เสิร์ฟจากตู้เซนไดทันสุ (Sendaitansu) งานฝีมือเฉพาะตัวของเมืองเซนได (Sendai) ที่ภัตตาคารโชเคคาคุ (Shokeikaku) ในจังหวัดมิยากิ อดีตคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นช่วงปลายยุคเมจิ กับอาหารมื้อใหญ่ที่ปรุงสดจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ประกอบด้วยซาชิมิ เทมปุระ เมนูนึ่ง ผักดอง ข้าวอบ และของหวาน เรียกว่าครบครันรสชาติอุมามิของวัตถุดิบและอิ่มเอมไปกับบรรยากาศที่เหมือนกับได้ย้อนอดีตผ่านสถาปัตยกรรมและจานอาหาร
หลังจากลิ้มรสของคาว ก็เข้าสู่ช่วงของหวาน ที่จังหวัดฟุกุชิมะ กับขนมอาวะมันจูที่ร้านโคอิเคะ (Koike Confectionary Shop) ขนมหวานขึ้นชื่อของเมืองยานาอิสุ (Yanaizu) ซึ่งทำมาจากข้าวฟ่างและข้าวเหนียวสอดไส้ถั่วแดงกวนที่ได้จากเกษตรกรในท้องถิ่น 100% ซึ่งนอกจากจะมีจำหน่ายอาวะมันจูแบบปกติ แบบพิเศษตามเทศกาลอย่างอาวะมันจูซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรืออาวะมันจูเกาลัดในฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ยังสามารถลองทำอาวะมันจูเองได้ด้วย
ขึ้นชื่อว่าที่พักในโทโฮคุ แน่นอนว่านอกจากฟาร์มสเตย์แล้ว ยังมีเรียวกัง รวมทั้งวิลล่าพร้อมอนเซ็นส่วนตัว โดยมีทัศนียภาพอันอุดมสมบูรณ์ของป่าเขาเป็นฉากหลังตลอดการพักผ่อน พร้อมกับอาหารจากวัตถุดิบขึ้นชื่อของภูมิภาคแห่งนี้
หากคุณคือสายอนเซ็น ชวนมาเปิดประสบการณ์ท่ามกลางธรรมชาติอย่างเป็นส่วนตัวที่ ไดคงโนะฮานะ (Daikon no Hana) จังหวัดมิยากิ กับห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นสุดหรูแบบวิลล่าพร้อมอนเซ็นส่วนตัว และอนเซ็นกลางแจ้งจากน้ำพุร้อนธรรมชาติทั้งหมด 4 บ่อที่อ่อนโยนต่อผิวพรรณ แล้วปิดท้ายวันด้วยคอร์สดินเนอร์แบบญี่ปุ่นขนานแท้ เรียกว่าครบจบในที่เดียว
โรงแรมของคนรักอนเซ็นอีกแห่งในจังหวัดยามากาตะ นั่นคือ คามิโนะยามะอนเซ็น ซากิยะ โฮเทล (Kaminoyama Onsen Sagiya Hotel) ซึ่งห้องพักมาพร้อมกับอ่างอาบน้ำส่วนตัวจากน้ำพุร้อนคามิโนะยามะอนเซ็น (Kaminoyama Onsen) พร้อมกับคอร์สพิเศษของเนื้อยามากาตะ หนึ่งในเนื้อวัวขนดำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และกิจกรรมสำหรับสายธรรมชาติ ทั้งการเก็บผักจากแปลงในโรงแรม เดินเล่นผ่อนคลายตามแนวทุ่งนา หรือโยคะธรรมชาติก็ทำได้ที่นี่
ส่วนคนรักป่าเขาและทะเลสาบ อุระบันได เลค รีสอร์ท (Urabandai Lake Resort) คือรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งรายล้อมด้วยทะเลสาบฮิบะระ (Lake Hibara) และภูเขาบันได (Mt. Bandai) ซึ่งได้ขื่อว่าเป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนสถาปัตยกรรมภายในโรงแรมเป็นสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกพร้อมห้องอาหารฝรั่งเศส ‘Maple’ ต่างร่วมกันรังสรรค์ความงดงามจากมนุษย์ออกแบบตัดกับทัศนียภาพภายนอกของทะเลสาบในช่วงเย็นย่ำยามพระอาทิตย์ตกดิน
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมหน้าถัดไป
เพราะความอุดมสมบูรณ์ที่โอบล้อมรอบตัวเราทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม กิจกรรมนันทนาการของภูมิภาคแห่งนี้จึงเติมประสบการณ์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะสายแอดเวนเจอร์ สายครอบครัว หรือสานสัมพันธ์กับผู้คนในท้องถิ่นผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยและสืบทอดมาอย่างยาวนาน
ชมอ่าวมัตสึชิมะ TOP3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ที่จังหวัดมิยากิ ผ่านกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการพายซัปบอร์ด พร้อมชมบรรยากาศที่รายล้อมด้วยธรรมชาติเกาะแก่ง และสะพานสีแดงหรือวิหารโกะไดโด (Godaido) วัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) สัญลักษณ์สำคัญไปในเวลาเดียวกัน หรือจะไปขี่จักรยานล้อโตชมภูเขาอาดาตาระ (Mount Adatara) จังหวัดฟุกุชิมะ ชมภูมิทัศน์ในแบบแอดเวนเจอร์ โดยเฉพาะบรรยากาศช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงตุลาคม ที่นี่ก็เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักปีนเขาเช่นกัน
เสน่ห์อีกอย่างของโทโฮคุ คือวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ที่ยังคงความสัมพันธ์ระหว่างคนท้องถิ่นและผู้มาเยือนผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยว ให้ได้เรียนรู้และซึมซับเรื่องราวง่ายๆ แต่งดงามด้วยตัวเองผ่านเวิร์คช็อป เก็บเป็นผลงานประทับใจเตือนความทรงจำได้อย่างดี ทั้งหมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village) จังหวัดมิยากิ กับการเพ้นท์สีตุ๊กตาโคเคชิ (Kokeshi) หรือการปักผ้าแบบซะชิโกะ (Sashiko) ที่ซะชิโกะ โคโบ โซโชอัน (Sashiko Kobou Soushoan) จังหวัดยามากาตะ ที่คุณครูพร้อมถ่ายทอดภูมิปัญญาและความจริงใจจากท้องถิ่น ส่งต่อถึงผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น
ไปญี่ปุ่นทั้งที จะพลาดการเยี่ยมชมวัดและศาลเจ้าไปไม่ได้ จังหวัดยามากาตะ มีอุเอะงิ ฮะคุชะคุเท (Uesugi Hakushakutei) หรือคฤหาสน์เก่าของเจ้าผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 14 และใกล้กันที่ศาลเจ้าอุเอะสุงิ (Uesugi Shrine) บอกเล่าเรื่องราวสถาปัตยกรรมและสวนญี่ปุ่นอันเก่าแก่ที่สืบทอดอย่างยาวนานมาถึงปัจจุบัน รายล้อมด้วยการผันผ่านของฤดูกาลผ่านใบไม้ที่เปลี่ยนสีผลัดใบตลอดทั้งปี หรือจะลองเปลี่ยนชุดเป็นซามูไร นินจา หรือชุดกิโมโนทอแบบดั้งเดิมของโยะเนะซะวะ (Yonezawa Ori) ออกเดินเล่น จิบชา และลองทำกิจกรรมที่สักครั้งในชีวิตต้องลองดู
ก่อนที่จะได้แพ็คกระเป๋าออกท่องเที่ยวโลกกว้าง และมุ่งหน้าไปยังญี่ปุ่นหลังจากการเปิดประเทศอีกครั้ง เราชวนคุณมาแพ็คความรู้ เช็คสถานที่ จัดตาราง เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในครั้งต่อไปที่จะมอบประสบการณ์ครั้งใหม่ในแบบที่ต่างออกไปแบบครอบคลุมทุกมิติของธรรมชาติ พร้อมกับการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอย่างลึกซึ้งที่ภูมิภาคโทโฮคุแห่งนี้
ดูข้อมูล เที่ยวสนุก สุขใจ ไปกับมิตรไมตรีที่โทโฮคุ ต่อได้ที่เว็บไซต์ https://www.jnto.or.th/tohoku2022/