มนุษย์ผ่านฤดูหนาวอันแสนทรหด (ไม่ใช่ในประเทศไทย) ได้โดยการกักตุนเสบียงอาหาร และนอนดูหนังอยู่ภายในบ้าน แต่สำหรับในอาณาจักรสัตว์แล้ว พวกมันไม่สามารถเดินทางไปกักตุนอาหารที่ห้างสรรพสินค้าหรือจ่ายค่ารายเดือนเน็ตฟลิกซ์ได้ ทำให้ การจำศีล ถือเป็นตัวเลือกในการมีชีวิตรอด
เหล่านี้คือบรรดาสัตว์ที่จำศีลในฤดูหนาวอันโหดร้าย ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าพวกมันก็จำศีลกันด้วย
กบแช่แข็ง
กบไม้ สัตว์พื้นเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา ต้อนรับลมหนาวโดยการนั่งลงบนซากใบไม้พร้อมกับแช่แข็งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาหลายเดือน และทันทีที่อุณหภูมิเริ่มกลับมาสูงขึ้น กบเหล่านี้ก็จะเริ่มละลายพร้อมกับกระโดดออกไปใช้ชีวิตตามปกติ “ความสามารถของพวกมันนั้นไม่เป็นสองรองใคร” Jon Costanzo นักชีววิทยาจาก Miami University of Ohio กล่าว
ว่าแต่อะไรคือเคล็ดลับของพวกมันล่ะ?
คำตอบคือพวกมันมีสารป้องกันการแข็งตัวตามธรรมชาติของพวกมันที่ป้องกันไม่ให้ผลึกน้ำแข็งที่อันตรายต่อชีวิตก่อตัวตัวขึ้นภายในเซลล์ของกบ เมื่อหัวใจและการหายใจของพวกมันหยุดนิ่ง
งานวิจัยล่าสุดของ Constanzo ยังชี้ให้เห็นว่าการไม่ปัสสาวะก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้พวกมันอยู่รอด ทั้งนี้เพราะระดับของยูเรียซึ่งเป็นสารเคมีหลักในปัสสาวะเพิ่มขึ้นมากถึง 50 เท่าในระหว่าง การจำศีล และจุลินทรีย์ในลำไส้จะเปลี่ยนของเสียให้เป็นไนโตรเจนบัฟเฟอร์เย็น
นกขี้เซา
ขณะที่เพื่อนเจ้าเวหาของพวกมันอพยพไปทางใต้เพื่อหนีสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ แต่นก common poorwill แห่งทวีปอเมริกาเหนือเลือกที่จะจำศีลแทน จนทำให้พวกมันได้รับฉายาจากชาวอินเดียนแดงเผ่าโฮปิว่า “holchoko” หรือ “the sleeping one”
เมื่ออาหารที่เป็นแมลงขาดแคลน นกชนิดนี้ใช้เวลาของฤดูหนาวทั้งหมดโดยการไม่ทำอะไรเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับประชากรนก พวกมันลดอุณหภูมิร่างกายลงเหลือ 5 องศาเซลเซียส และลดปริมาณการใช้ออกซิเจนลงกว่าร้อยละ 90
“พวกมันจะนั่งอยู่บนพื้นดิน ติดกับต้นกระบองเพชรที่มีหนามแหลม และพวกมันจะไม่เคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว แม้พวกคุณจะหยิบมันขึ้นมา” Mark Brigham นักชีววิทยาจาก University of Regina ใน Saskatchewan กล่าว “นักเรียนของผมสร้างที่พักพิงให้พวกมัน และมีนกจำหลายกว่าหลายตัวมานั่งและไม่ขยับเป็นเวลา 10 สัปดาห์”
Brigham เปรียบวิถีชีวิตของนกเหล่านั้นเสมือนค้างคาวที่จำศีล
“พวกมันแปลกมาก” Brigham เผย “ทำไมมีแต่พวกมันสายพันธุ์เดียวที่ทำแบบนี้ เป็นเรื่องที่ลึกลับมาก”
หายใจทาง..ก้น
บ่อน้ำในทวีปอเมริกาเหนือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงฤดูร้อนถึงฤดูหนาว จึงทำให้พวกเต่าลายตีนเป็ดต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
เมื่อบ่อน้ำที่เป็นแหล่งอาศัยปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง สัตว์เลื้อยคลานเหล่านี้จึงลดอุณหภูมิร่างกายและลดการเผาผลาญลงไปกว่าร้อยละ 95 อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ยังต้องการออกซิเจนในการหายใจอยู่
“สัตว์เหล่านี้หายใจด้วยปอด และพวกมันไม่สามารถขึ้นบกไปสูดอากาศได้แทบจะกว่าครึ่งชีวิตของพวกมัน” Jacquiline Litzgus นักนิเวศวิทยาจาก Laurentian University ใน Ontario กล่าว “สำหรับผม มันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก”
เต่าลายตีนเป็ดจะได้รับออกซิเจนในจำนวนจำกัดผ่านทางก้นของพวกมันในกระบวนการที่เรียกว่าการหายใจทางทวาร (cloacal respiration) หลอดเลือดบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นรูเล็กๆ เอนกประสงค์ สามารถพบได้ทั่วในสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิด สามารถรับออกซิเจนได้โดยตรงจากน้ำ
อยู่รอดด้วยหาง
หนึ่งเดียวในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลลิง เอป และมนุษย์ ที่รู้จักกันดีโดยการอาศัยหางของมันเพื่อการอยู่รอดในฤดูแล้งกว่าเจ็ดเดือนของเกาะมาดากัสการ์ ลีเมอร์
ลีมเมอร์ชนิดนี้ปรับตัวโดยลดอุณหภูมิร่างกาย และอัตราการเต้นของหัวใจก็ลดลงจาก 180 ครั้งต่อนาทีเหลือเพียงแค่ 4 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น โดยคงอัตราการหายใจหนึ่งครั้งทุกๆ 10-15 นาที
สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแล้ว การใช้ชีวิตในภาวะจำศีลเทียมเป็นเวลานานๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เนื่องจากสมองจะหยุดทำงานเมื่ออุณหภูมิร่างกายต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ทำให้การนอนหลับไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และเป็นที่ทราบกันดีว่าการอดนอนเป็นเวลานานๆ นำไปสู่สุขภาพที่ย่ำแย่หรือบางทีอาจจะนำไปสู่ความตาย
“แต่ลีเมอร์แคระเล็กหางใหญ่ก็สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้” Peter Klopfer นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Duke กล่าว “ในช่วงระยะเวลาจากสองสามวันไปจนถึงสองสามสัปดาห์ พวกมันจะเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอที่จะทำให้สมองกลับมาทำงานได้อีกครั้ง”
“ในเวลานั้น พวกมันก็ได้รับการนอนหลับเป็นเวลาสั้นๆ” โดยขั้นตอนนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเวลาเจ็ดเดือนที่พวกมันจำศีล
แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ทาร์ดิเกรดอาจเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่ต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็ก หากปรารถนาจะเห็นพวกมัน แต่เมื่อพูดถึงการเอาชีวิตรอดในสภาวะที่หยุดนิ่ง พวกมันอาจเป็นชื่อแรกๆ ที่แล่นเข้ามาในหัว
ฉายาของพวกมันคือ “หมีน้ำ” สามารถอยู่รอดได้โดยปราศจากอาหารและน้ำดื่มเป็นเวลากว่า 30 ปี เนื่องจากเซลล์ภายในร่างกายที่เรียกว่า cryptobiosis โดยในระหว่างช่วงเวลานั้น พวกมันหลั่งน้ำเกือบทั้งหมดในร่างกาย และขดตัวเป็นลูกบอลแห้ง
นอกจากนี้ทาร์ดิเกรดสามารถอยู่ภายใต้อุณหภูมิสูงถึง 151 องศาเซลเซียส และสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในอุณหภูมิต่ำสุดที่ -272.8 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นตัวเลขที่สุดขั้วมากๆ
นักวิจัยยังได้เคยพยายามระเบิดพวกมันด้วยปริมาณรังสีที่สูง และส่งพวกมันไปอยู่ในภาวะสูญญากาศของอวกาศ ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ พวกมันสามารถรอดชีวิตออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ในความเป็นจริง พวกมันอาจจะอยู่รอดได้ในทุกๆ ภัยพิบัติบนโลกเท่าที่พวกเราจะนึกถึงได้
***แปลและเรียบเรียงโดย รชตะ ปิวาวัฒนพานิช
โครงการนักศึกษาฝึกงาน กองบรรณาธิการ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย